วันพฤหัสบดีที่ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2552

มีเดีย ออฟ มีเดีย พุดวาไรตี้ข่าว เช้านี้...ที่หมอชิต

"ช่อง7"ปรับผังรับศึกข่าวเช้า"มีเดีย ออฟ มีเดียส์" คว้าเวลาเดิม“จมูกมด”ส่งรายการ “เช้านี้...ที่หมอชิต” ลงจอ ชูคอนเซปต์ “วาไรตี้ข่าว”สู้ศึก นางชาลอต โทณวณิก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มีเดีย ออฟ มีเดียส์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า คณะกรรมการผังรายการสถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบก ช่อง 7 ได้ให้เวลาช่วงเช้า 6.00 -7.30 น. จันทร์-ศุกร์ กับบริษัทมาผลิตรายการข่าว แทนรายการจมูกมด ที่สถานีเป็นผู้ผลิตเอง เนื่องจากเห็นว่ารายการข่าว ประเด็นเด็ด 7 สี เวลา 22.30-23.00 น. ของบริษัทที่เปิดตัวไปเมื่อต้นเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา ได้รับความสนใจจากผู้ชม สำหรับรายการข่าวช่วงเช้า ที่บริษัทผลิตจะนำเสนอรายการ “เช้านี้...ที่หมอชิต” เริ่ม 1 มิ.ย.นี้ เป็นคอนเซปต์วาไรตี้ข่าว ที่จะให้ผู้รู้ในด้านต่างๆ มาเป็นผู้เล่า เช่น การวิเคราะห์เศรษฐกิจ โดย วีระ ธีรภัทร, รายการกีฬา โดย ภราดร ศรีชาพันธุ์, สมจิตร จงจอหอ, ปิยะพงษ์ ผิวอ่อน ซึ่งจะมีผู้ประกาศหลัก 2 คน คือ ศศิวรรณ เลิศวิริยะประภา อดีตผู้ประกาศข่าวจากช่อง 3 และไอทีวี และจำเริญ รัตนตั้งตระกูล อดีตผู้ประกาศข่าวจากช่อง 9 และไอทีวี เดิมรายการจมูกมด ที่ช่อง 7 ผลิตเอง ขายโฆษณานาทีละ 1 แสนบาท ส่วนรายการเช้านี้..ที่หมอชิต เป็นการเช่าเวลาจากสถานี บริษัทกำหนดราคานาทีละ 1.2 แสนบาท ขณะนี้มีผู้สนับสนุนรายการเกือบเต็มพื้นที่ “ข่าวเช้าเป็นอีกช่วงที่มีการแข่งขันรุนแรง ที่ผ่านมาช่อง 7 ถือว่าอยู่อันดับ 2 รองจากช่อง 3 การเปิดตัวรายการของบริษัท คาดหวังว่าสามารถแข่งขันกับช่องผู้นำได้ แต่คงต้องใช้เวลาปรับเนื้อหาให้ตรงกับพฤติกรรมของผู้ชมอีกระยะ” นางชาลอต กล่าว หลังจากเปิดตัวรายการประเด็นเด็ด 7 สี รายการข่าว ช่วง 22.30-23.00 น. พบว่าความนิยมของผู้ชม (เรทติ้ง) สามารถแข่งขันกับรายการข่าว 3 มิติ ทางช่อง 3 ได้ โดยบางวันเรทติ้งต่ำกว่า บางวันสูงกว่า และบางวันเท่ากัน ซึ่งช่วงเวลาดังกล่าวมีเรทติ้งเฉลี่ยที่ 4.5-5 ดังนั้นจึงมั่นใจว่ารายการข่าวช่วงเช้าน่าจะแข่งขันได้เช่นกัน นางชาลอต กล่าวอีกว่าในปีนี้บริษัทได้เวลาผลิตรายการข่าว 2 รายการใหม่ คือ ประเด็นเด็ด 7 สี และเช้านี้..ที่หมอชิต ทั้ง 2 รายการน่าจะทำรายได้รวม 200 ล้านบาทในปีนี้ และส่งผลให้รายได้รวมปีนี้เติบโต 14-17% ทำรายได้กว่า 1,000 ล้านบาท จากปี 2551 ที่มีรายได้ ประมาณ 900 ล้านบาท เติบโตประมาณ 10% ปัจจุบันบริษัทมีรายการทางทีวีรวม 8 รายการ เป็นรายการข่าว 3 รายการ ซึ่งเป็นกลุ่มรายการที่ทำรายได้สูงสุด ปีนี้คาดว่าจะมีการผลิตละคร 2 เรื่องทางช่อง 7 และอีก 1 เรื่องทางช่องอื่นๆ บริษัทวางเป้าหมายเป็นบริษัทบันเทิงครบวงจร อันดับต้นๆ ของอุตสาหกรรม ไม่ได้เจาะจงเป็นผู้ผลิตรายการให้เฉพาะช่อง 7 เท่านั้น แม้จะเป็นบริษัทในเครือ สำหรับการลงทุนในปีนี้ กำลังศึกษาทีวีดาวเทียมช่องใหม่อีก 1 ช่อง ที่คาดว่าจะเปิดตัวในช่วงไตรมาส 3 ใช้งบลงทุนประมาณ 70-100 ล้านบาท ขณะที่ทีวีดาวเทียมช่องแรก “มีเดียส์ แชนแนล” ทำรายได้ตามเป้าหมาย 70 ล้านบาทในปีนี้

ไม่มีความคิดเห็น: