“คันทรี่ กรุ๊ป” เดินเครื่องลงทุนอสังหาฯ ครั้งแรกนับจากวิกฤตเศรษฐกิจ ประกาศเปิดตัวคอนโดฯ”อีลีเม้นท์ ศรีนครินท์”มูลค่า 2,200 ล้านบาท ในวันที่ 3 เม.ย.นี้แน่นอน ยันกระแสเงินสดเพียงพอลงทุน ด้านแผนเพิ่มทุนอีก 3,700 ล้านบาทคาดแล้วเสร็จภายใน 2 เดือนนี้ ปลายปีเตรียมลงทุนโครงการหรู เดอะ แลนด์ มาร์ค ริมน้ำเจ้าพระยา มูลค่าลงทุนไม่ต่ำกว่า 13,000 ล้านบาท นายเบน เตชะอุบล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท คันทรี่ กรุ๊ป ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ CGD เปิดเผยว่า จากแนวโน้มเศรษฐกิจของประเทศไทยที่เริ่มปรับตัวในทิศทางที่ดีขึ้น บริษัทจึงมีแผนที่จะกลับเข้ามาดำเนินธุรกิจอสังหาริมทรัพย์อีกครั้ง ภายหลังประสบปัญหาจากวิกฤตเศรษฐกิจในปี 2540 โดยปัจจุบันบริษัทมีขาดทุนสะสมอยู่กว่า 400 ล้านบาท และมีรายได้จากบริษัท เอ-โฮสต์ จำกัด ปีละประมาณ 300 ล้านบาท ซึ่งเป็นตัวแทนจำหน่ายผลิตภัณฑ์ Oracle ซึ่งเป็นบริษัทในเครือ สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในปีนี้บริษัทมีแผนที่จะเปิดตัวโครงการใหม่ 2 โครงการ ได้แก่ โครงการ อิลีเม้นท์ ศรีนครินทร์ ซึ่งเป็นโครงการคอนโดมิเนียมแบบโลว์ไรส์สูง 8 ชั้นจำนวน 8 อาคาร จำนวน 1,112 ยูนิต ตั้งอยู่บนพื้นที่ 13 ไร่ของถนนศรีนครินทร์มีทั้งแบบ 1 ห้องนอนและ 2 ห้องนอน ขนาด 36-65 ตร.ม. มีราคาเริ่มต้นที่ 1.88 ล้านบาท มูลค่าโครงการ 2,400 ล้านบาท นายเบน กล่าวต่อว่า บริษัทซื้อที่ดินมาในราคา 300 ล้านบาท โดยคาดว่าจะใช้เงินลงทุนก่อสร้างอีก 1,500 ล้านบาท โดยจะมาจากกระแสเงินสดของบริษัทที่ปัจจุบันมีอยู่ประมาณ 250 ล้านบาท และสินเชื่อจากสถาบันการเงินประมาณ 50% ของเงินลงทุนขณะนี้อยู่ระหว่างยื่นขอจากสถาบันการเงิน 2-3 แห่ง และภายหลังจากการเปิดขายบริษัทก็จะมีรายได้จากเงินจองของลูกค้าเข้ามาเป็นกระแสเงินสดอีกส่วนหนึ่ง แต่จะสามารถรับรู้รายได้ในปี 55 ส่วนขาดทุนสะสมที่ปัจจุบันมีอยู่กว่า 400 ล้านบาทนั้นจะยังไม่ล้างขาดทุนในปีเนื่องจากยังไม่มีรายได้เข้ามา ซึ่งจะทำให้บริษัทได้รับสิทธ์ยกเว้นภาษี ทั้งนี้ในส่วนของการพัฒนาโครงการอีลีเม้นท์ จะแบ่งการก่อสร้างออกเป็น 5 เฟส โดยจะเปิดขายและก่อสร้างในเฟสแรกก่อนจำนวน 2 อาคาร 2 อาคาร ซึ่งจะเริ่มก่อสร้างในช่วงเดือนมิ.ย.ที่จะถึงนี้ คาดแล้วเสร็จภายในเดือน ก.ค. 2555 ขณะที่การเปิดตัวโครงการอย่างเป็นทางการจะเป็นวันที่ 2 เม.ย. และเริ่มเป็นขายโครงการในวันที่ 3 เม.ย.นี้ โดยภายใน 4 เดือนคาดว่าจะสามารถปิดการขายในส่วนของเฟสแรกได้ “การที่บริษัทแบ่งการพัฒนาออกเป็น 5 เฟสนั้นนอกจากง่ายต่อการบริหารจัดการและสามารถปิดการขายได้เร็วขึ้น อีกทั้งยังเป็นการรองรับความเสี่ยงในกรณีที่ยอดขายไม่เป็นไปตามความคาดหมาย ก็จะแบ่งพัฒนาที่ละเฟสได้ เพราะเศรษฐกิจในปัจจุบันมีความผันผวนมาก จากปัจจัยลบทั้งภายในและภายนอกประเทศ แต่อย่างไรก็ตามเชื่อว่าโครงการนี้จะประสบความสำเร็จเพราะตั้งอยู่ในทำเลที่มีศักยภาพและสินค้ายังมีความแตกต่างและโดดเด่นกว่าโครงการอื่นๆที่เปิดขายอยู่ในปัจจุบัน” นายเบนกล่าว ส่วนอีกหนึ่งโครงการคือ แลนด์มาร์ค วอเตอร์ฟ้อนท์ ซึ่งจะเป็นโครงการมิกซ์ยูส ประกอบด้วยโรงแรม 2 แห่ง และคอนโดมิเนียมหรูตาราเมตรละกว่า 2 แสนบาทขึ้นไป อยู่ภายในโครงการเดียวกัน ตั้งอยู่บนพื้นที่ 36 ไร่ของถนนเจริญกรุงติดริมแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งเป็นสัญญาเช่า 75 ปี จากสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ โดยจะเริ่มนับสัญญานับจากที่ก่อสร้างแล้วเสร็จ ซึ่งคาดว่าจะใช้ระยะเวลาในการก่อสร้าง 3 ปี เนื่องจากเป็นอาคารสูงกว่า 70 ชั้น โดยคาดว่าจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในช่วงปลายปีนี้ ทั้งนี้บริษัทได้สัญญาเช่ามานานกว่า 3 ปี แต่เนื่องจากต้องเคลียร์พื้นที่ที่มีผู้ อยู่อาศัยเดิม รวมถึงการฟ้องขับไล่ผู้เช่าเดิมที่หมดสัญญาเช่าไปแล้วแต่ไม่ยอมย้ายออก ซึ่งก่อนหน้านี้ได้ฟ้องขับไล่องค์การสระพานปลาขณะนี้กระบวนการในชั้นศาลได้ยุติแล้ว คาดว่าองค์การสระพานปลาจะย้ายออกจากพื้นที่ได้ประมาณกลางปีนี้ นายเบน กล่าวต่อว่า สำหรับเม็ดเงินลงทุนนอกจากกระแสเงินสดที่มีอยู่ บริษัทยังอยู่ระหว่างการเพิ่มทุนอีกจำนวน 3,700 ล้านบาท จากทุนจดทะเบียน 7,557 ล้านบาท ซึ่งได้ชำระไปแล้ว 2,443 ล้านบาท โดยคาดว่าการเพิ่มทุนจะแล้วเสร็จภายใน 2 เดือนนี้ นอกจากนี้ยังเปิดโอกาสให้แก่ผู้ร่วมทุนใหม่ที่สนใจเข้ามาร่วมทุนกับ CGD สำหรับการลงทุนหลังจากนี้จะไม่เจาะจงเซกเมนท์ใดเซกเมนท์หนึ่ง แต่ขึ้นอยู่กับที่ดินที่หาได้ โดยจะให้นำหนักกับคอนโดมิเนียม ส่วนโรงแรมนั้นมีแผนที่จะพัฒนาเพิ่มเติมหรือเป็นการเทคโอเวอร์โครงการเก่า ทั้งในและต่างประเทศ
วันจันทร์ที่ 21 มีนาคม พ.ศ. 2554
กลุ่ม'เตชะอุบล'ดัน''คันทรี่กรุ๊ป"ลุยธุรกิจอสังหาฯ เปิดตัวอีลีเม้นท์ศรีนครินท์
“คันทรี่ กรุ๊ป” เดินเครื่องลงทุนอสังหาฯ ครั้งแรกนับจากวิกฤตเศรษฐกิจ ประกาศเปิดตัวคอนโดฯ”อีลีเม้นท์ ศรีนครินท์”มูลค่า 2,200 ล้านบาท ในวันที่ 3 เม.ย.นี้แน่นอน ยันกระแสเงินสดเพียงพอลงทุน ด้านแผนเพิ่มทุนอีก 3,700 ล้านบาทคาดแล้วเสร็จภายใน 2 เดือนนี้ ปลายปีเตรียมลงทุนโครงการหรู เดอะ แลนด์ มาร์ค ริมน้ำเจ้าพระยา มูลค่าลงทุนไม่ต่ำกว่า 13,000 ล้านบาท นายเบน เตชะอุบล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท คันทรี่ กรุ๊ป ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ CGD เปิดเผยว่า จากแนวโน้มเศรษฐกิจของประเทศไทยที่เริ่มปรับตัวในทิศทางที่ดีขึ้น บริษัทจึงมีแผนที่จะกลับเข้ามาดำเนินธุรกิจอสังหาริมทรัพย์อีกครั้ง ภายหลังประสบปัญหาจากวิกฤตเศรษฐกิจในปี 2540 โดยปัจจุบันบริษัทมีขาดทุนสะสมอยู่กว่า 400 ล้านบาท และมีรายได้จากบริษัท เอ-โฮสต์ จำกัด ปีละประมาณ 300 ล้านบาท ซึ่งเป็นตัวแทนจำหน่ายผลิตภัณฑ์ Oracle ซึ่งเป็นบริษัทในเครือ สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในปีนี้บริษัทมีแผนที่จะเปิดตัวโครงการใหม่ 2 โครงการ ได้แก่ โครงการ อิลีเม้นท์ ศรีนครินทร์ ซึ่งเป็นโครงการคอนโดมิเนียมแบบโลว์ไรส์สูง 8 ชั้นจำนวน 8 อาคาร จำนวน 1,112 ยูนิต ตั้งอยู่บนพื้นที่ 13 ไร่ของถนนศรีนครินทร์มีทั้งแบบ 1 ห้องนอนและ 2 ห้องนอน ขนาด 36-65 ตร.ม. มีราคาเริ่มต้นที่ 1.88 ล้านบาท มูลค่าโครงการ 2,400 ล้านบาท นายเบน กล่าวต่อว่า บริษัทซื้อที่ดินมาในราคา 300 ล้านบาท โดยคาดว่าจะใช้เงินลงทุนก่อสร้างอีก 1,500 ล้านบาท โดยจะมาจากกระแสเงินสดของบริษัทที่ปัจจุบันมีอยู่ประมาณ 250 ล้านบาท และสินเชื่อจากสถาบันการเงินประมาณ 50% ของเงินลงทุนขณะนี้อยู่ระหว่างยื่นขอจากสถาบันการเงิน 2-3 แห่ง และภายหลังจากการเปิดขายบริษัทก็จะมีรายได้จากเงินจองของลูกค้าเข้ามาเป็นกระแสเงินสดอีกส่วนหนึ่ง แต่จะสามารถรับรู้รายได้ในปี 55 ส่วนขาดทุนสะสมที่ปัจจุบันมีอยู่กว่า 400 ล้านบาทนั้นจะยังไม่ล้างขาดทุนในปีเนื่องจากยังไม่มีรายได้เข้ามา ซึ่งจะทำให้บริษัทได้รับสิทธ์ยกเว้นภาษี ทั้งนี้ในส่วนของการพัฒนาโครงการอีลีเม้นท์ จะแบ่งการก่อสร้างออกเป็น 5 เฟส โดยจะเปิดขายและก่อสร้างในเฟสแรกก่อนจำนวน 2 อาคาร 2 อาคาร ซึ่งจะเริ่มก่อสร้างในช่วงเดือนมิ.ย.ที่จะถึงนี้ คาดแล้วเสร็จภายในเดือน ก.ค. 2555 ขณะที่การเปิดตัวโครงการอย่างเป็นทางการจะเป็นวันที่ 2 เม.ย. และเริ่มเป็นขายโครงการในวันที่ 3 เม.ย.นี้ โดยภายใน 4 เดือนคาดว่าจะสามารถปิดการขายในส่วนของเฟสแรกได้ “การที่บริษัทแบ่งการพัฒนาออกเป็น 5 เฟสนั้นนอกจากง่ายต่อการบริหารจัดการและสามารถปิดการขายได้เร็วขึ้น อีกทั้งยังเป็นการรองรับความเสี่ยงในกรณีที่ยอดขายไม่เป็นไปตามความคาดหมาย ก็จะแบ่งพัฒนาที่ละเฟสได้ เพราะเศรษฐกิจในปัจจุบันมีความผันผวนมาก จากปัจจัยลบทั้งภายในและภายนอกประเทศ แต่อย่างไรก็ตามเชื่อว่าโครงการนี้จะประสบความสำเร็จเพราะตั้งอยู่ในทำเลที่มีศักยภาพและสินค้ายังมีความแตกต่างและโดดเด่นกว่าโครงการอื่นๆที่เปิดขายอยู่ในปัจจุบัน” นายเบนกล่าว ส่วนอีกหนึ่งโครงการคือ แลนด์มาร์ค วอเตอร์ฟ้อนท์ ซึ่งจะเป็นโครงการมิกซ์ยูส ประกอบด้วยโรงแรม 2 แห่ง และคอนโดมิเนียมหรูตาราเมตรละกว่า 2 แสนบาทขึ้นไป อยู่ภายในโครงการเดียวกัน ตั้งอยู่บนพื้นที่ 36 ไร่ของถนนเจริญกรุงติดริมแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งเป็นสัญญาเช่า 75 ปี จากสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ โดยจะเริ่มนับสัญญานับจากที่ก่อสร้างแล้วเสร็จ ซึ่งคาดว่าจะใช้ระยะเวลาในการก่อสร้าง 3 ปี เนื่องจากเป็นอาคารสูงกว่า 70 ชั้น โดยคาดว่าจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในช่วงปลายปีนี้ ทั้งนี้บริษัทได้สัญญาเช่ามานานกว่า 3 ปี แต่เนื่องจากต้องเคลียร์พื้นที่ที่มีผู้ อยู่อาศัยเดิม รวมถึงการฟ้องขับไล่ผู้เช่าเดิมที่หมดสัญญาเช่าไปแล้วแต่ไม่ยอมย้ายออก ซึ่งก่อนหน้านี้ได้ฟ้องขับไล่องค์การสระพานปลาขณะนี้กระบวนการในชั้นศาลได้ยุติแล้ว คาดว่าองค์การสระพานปลาจะย้ายออกจากพื้นที่ได้ประมาณกลางปีนี้ นายเบน กล่าวต่อว่า สำหรับเม็ดเงินลงทุนนอกจากกระแสเงินสดที่มีอยู่ บริษัทยังอยู่ระหว่างการเพิ่มทุนอีกจำนวน 3,700 ล้านบาท จากทุนจดทะเบียน 7,557 ล้านบาท ซึ่งได้ชำระไปแล้ว 2,443 ล้านบาท โดยคาดว่าการเพิ่มทุนจะแล้วเสร็จภายใน 2 เดือนนี้ นอกจากนี้ยังเปิดโอกาสให้แก่ผู้ร่วมทุนใหม่ที่สนใจเข้ามาร่วมทุนกับ CGD สำหรับการลงทุนหลังจากนี้จะไม่เจาะจงเซกเมนท์ใดเซกเมนท์หนึ่ง แต่ขึ้นอยู่กับที่ดินที่หาได้ โดยจะให้นำหนักกับคอนโดมิเนียม ส่วนโรงแรมนั้นมีแผนที่จะพัฒนาเพิ่มเติมหรือเป็นการเทคโอเวอร์โครงการเก่า ทั้งในและต่างประเทศ
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น