วันพฤหัสบดีที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2554

สยามเซ็นเตอร์ รวมมหกรรมกองทัพโมเดล และฟิกเกอร์ตังาน “Siam Center Presents Tamashii Fair 2011”วการ์ตูนญี่ปุ่นครั้งยิ่งใหญ่

เหล่าพลพรรคคนรักการ์ตูนญี่ปุ่นเตรียมพบกับปรากฏการณ์การรวมตัวกันครั้งยิ่งใหญ่ของกองทัพโมเดล ฟิกเกอร์ และของสะสมสุดยอดคอลเลคชั่นระดับไฮเอนด์ และฉากจำลองไดโอรามา (ฉากดิสเพลย์ 3D) จากหนังการ์ตูนญี่ปุ่นยอดนิยม ครั้งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในงาน “สยามเซ็นเตอร์ พรีเซนต์ ทามาชิ แฟร์ 2011 ” (Siam Center Presents Tamashii Fair 2011) ตั้งแต่ 29 กันยายน – 2 ตุลาคม ศกนี้
งาน “ทามาชิ” (Tamashii) คือ งานแสดงสุดยอดสินค้าหุ่นการ์ตูนภายใต้แบรนด์ BANDAI ผู้ผลิตของเล่นยักษ์ใหญ่ในประเทศญี่ปุ่นโดยจัดขึ้นเป็นประจำทุกปี สำหรับงาน “Siam Center Presents Tamashii Fair 2011” ในครั้งนี้ นับเป็นการจัดงานครั้งแรกของเมืองไทย และเป็นประเทศที่สองของโลกที่ได้รับเกียรติในการจัดงานนอกประเทศญี่ปุ่นต่อจากประเทศฮ่องกง สยามเซ็นเตอร์ ศูนย์กลางแห่งแฟชั่นผู้นำเสนอเรื่องราวนำสมัยตลอดกาล ร่วมกับ “บริษัท ดรีมทอยส์ จำกัด ตัวแทนจำหน่ายสินค้าของสะสมการ์ตูนภายใต้แบรนด์ BANDAI จากประเทศญี่ปุ่นอย่างเป็นทางการ จัดงาน “Siam Center Presents Tamashii Fair 2011” โดยมีความพิเศษที่รวมมหกรรมกองทัพ โมเดล ฟิกเกอร์ ของสะสม และฉากไดโอราม่า (ฉากดิสเพลย์ 3D) คัดสรรสุดยอดคอลเลคชั่น ระดับไฮเอนด์จาก การ์ตูนญี่ปุ่นเรื่องดังมากมาย อาทิ เซนต์ เซย่า (Saint Seiya) , การ์ตูนแมวหุ่นยนต์ในโลกอนาคตโดราเอม่อน (Doraemon) , วันพีซ (One Piece) เรื่องราวของการผจญภัยกับเหล่ามิตรแท้เพื่อเป็นจ้าวแห่งโจรสลัด , การ์ตูนหุ่นยนต์กันดัม (Gundam) , หุ่นรบเจ้าจักรวาล ก็อดซิกม่า (God Sigma) และการ์ตูนไอ้มดแดง มาส์ก ไรเดอร์ (Masked Rider) เป็นต้น ไฮไลท์ภายในงาน พบกับการเปิดตัวคอลเลคชั่นฟิกเกอร์ที่หลายคนตั้งตารอ เริ่มต้นด้วยสุดยอดฟิกเกอร์แห่งศตวรรษจากการ์ตูนญี่ปุ่นเรื่องดัง เซนต์ เซย่า “Saint Cloth Crown” คอลเลคชั่นยอดนิยม ของชุดเกราะแห่งเซนต์ราศีธนู พร้อมพบกับการประมูล “Saint Cloth Crown” เพื่อเป็นเจ้าของ จำนวน 3 ตัว สำหรับแฟนพันธ์แท้ที่ประมูลด้วยราคาสูงที่สุด รับเพิ่มทันที ของสะสมหายากฟิกเกอร์รุ่น Pegasuse Seiya 24K ที่ผลิตจากทองคำ 24K โดยรายได้จากการประมูลร่วมสมทบทุนมูลนิธิอาสา เพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก สภากาชาดไทย เพื่อช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุอุทกภัย และอีกหนึ่งสุดยอดฟิกเกอร์ที่ได้รับการพัฒนาอย่างเต็มรูปแบบกับ “Saint Cloth Myth EX” ด้วยส่วนของชุดเกราะที่มีจุดขยับเพิ่มมากขึ้น สามารถขยับท่าทางได้อย่างอิสระ ต่อด้วยฟิกเกอร์หุ่นยนต์กันดั้ม รุ่นลิมิเต็ดอิดิชั่น “G.F.F Metal Composite RX-78-2 Gundam Ver.Ka Roll-Out Color” โดยทั้งหมดจะถูกนำมาจัดแสดงในงานนี้เท่านั้น พร้อมพบกับ การรวมตัวกันของเหล่าฟิกเกอร์จากการ์ตูนเรื่องดังไอ้มดแดง มาส์ก ไรเดอร์ (Masked Rider) มากกว่า 40 แบบเป็นครั้งแรก ปิดท้ายด้วย ฉากไดโอราม่าสุดอลังการ ที่จำลองมาในรูปแบบ ของฉากดิสเพลย์ 3D เสมือนจริงที่จัดมาอย่างเต็มรูปแบบ พร้อมตื่นตาตื่นใจกับนิทรรศการของสะสมสุดรักสุดหวงที่เกี่ยวกับการ์ตูนญี่ปุ่นของเหล่า เซเลบริตี้ นำทีมโดย ภูผา เตชะณรงค์ มาพร้อมกับ Saint Seiya Cloth Myth ฟิกเกอร์ของสะสมชิ้นพิเศษจากการ์ตูน เรื่องดังเซนต์ เซ่ยา , แพร วัชราภัย โชว์หุ่นโดราเอมอนของเล่นสุดรักในวัยเด็ก หุ่นเหล็กคอลเลคชั่นสุดหรู ผลิตจากวัสดุเหล็กไดแคส และ ถิรธร เบญจรงคกุล ที่นำโมเดลชิ้นโปรด “กันดั้ม ดับเบิล โอ” จากการ์ตูนยอดฮิตตลอดกาล พร้อมด้วยเหล่าศิลปิน – นักร้องชื่อดังมากมาย อาทิ อิคคิว – พีระพล เสนาคุณ , นะ-ธนบูลย์ วัลลภศิรินันท์ และ ท๊อป – ชลทิตย์ ชัยคงดี ที่จะมาร่วม แชร์ไอเดียสร้างสรรค์ ถ่ายทอดจินตนาการในสไตล์เฉพาะตัว ผ่านการจัดดิสเพล์ 3D กับฉากไดโอราม่าของการ์ตูนเรื่องดัง วันพีซ พิเศษ !! สำหรับผู้เข้าชมงาน 200 ท่านแรก รับทันที เซ็ทเหรียญ 12 ราศี ของสะสมหายากจากการ์ตูนเซนต์ เซย่า ขอเชิญสัมผัสประสบการณ์ความสนุกสนานไปกับกองทัพของสะสมเฉพาะสุดยอดคอลเลคชั่น ไฮเอนด์ ในงาน “Siam Center Presents Tamashii Fair 2011” ตั้งแต่ 29 กันยายน – 2 ตุลาค นี้ ตลอด 4 วันเต็ม สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม สยามเซ็นเตอร์ โทร 02-658-1000 ต่อ 500

เปิดตัวหนังสือ“The Journey of a Golden Heart” ดร.กฤษณา ไกรสินธุ์ เภสัชกรผู้ปิดทองหลังพระ

บันทึกการเดินทางสุดเข้มข้นบนถนนสายเปลี่ยว ขอบฟ้าสีนิล ดินแดนวิปโยค ผลงานคัดสรรจากปลายปากกาของเภสัชกรยิปซี ดร.กฤษณา ไกรสินธุ์ วันพฤหัสบดีที่ 29 ก.ย. 2554 เวลา 14.00 - 15.30 น. ร้านหนังสือคิโนะคูนิยะ ชั้น 3 สยามพารากอน กำหนดการ 14.00– 14.30 น. เสวนาเปิดตัวหนังสือ “The Journey of a Golden Heart” 15.20 – 15.30 น. ถาม-ตอบและถ่ายภาพร่วมกัน “The Journey of a Golden Heart”เขียนโดย ดร.กฤษณา ไกรสินธุ์ ราคา 285 บาท สนพ.โพสต์บุ๊กส์ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่ฝ่ายการตลาด สำนักพิมพ์โพสต์บุ๊กส์ : พรพิมล โทร : 0-2240-3700 ต่อ 1627

วันอังคารที่ 27 กันยายน พ.ศ. 2554

น้ำหอมสุดหวานสไตล์ Poppy Flower ของ Coach

วันนี้มาแล้วกับการแนะนำน้ำหอมสุดหวานในสไตล์ของ Coach กัน โดยยังคงแนะนำน้ำหอมที่เป็นแบบ fresh floral – fruity กันอยู่นะค่ะ เพราะกลิ่นนั้นไม่ชวนเวียนหัวมากเกินไปซึ่งมีกลิ่นความเปรี้ยวสดชื่นของผลไม้ผสมกับดอกไม้ก็จะช่วยให้หอมแบบสดชื่นดีค่ะ โดยตัวน้ำหอมนี้แม้ว่าจะเปิดตัวกันไปแล้ว แน่ใจว่าอีกหลายคนยังไม่ค่อยรู้จักกันอย่างแน่นอนค่ะ วันนี้เลยขอนำมาฝากให้ได้ลองไปซื้อหากันได้แล้วนะค่ะกับน้ำหอมสุดหวานสไตล์ Poppy Flower ของ Coach 2011 กันครับ ราคา ขนาด 1.7 oz หรือ 50 ml ราคาประมาณ $65 หรือประมาณ 3000 บาท และ 100 ml ราคา 3900 บาท โดยจะมีกลิ่นหอมดังนี้ Top Note – คือกลิ่นครั้งแรกที่ออกมาตอนที่เราเริ่มฉีดในช่วง 5 – 10 นาทีแรก Middle Note – คือช่วงระยะเวลาของกลิ่นน้ำหอม ที่มีความยาวนานว่ากลิ่นอยู่ได้นานทั้งวัน Base Note – คือกลิ่นแท้จริงของน้ำหอมว่ามีกลิ่นที่ออกมานั้นเป็นกลิ่นแบบไหน Heart notes – คือกลิ่นที่โดดเด่นของน้ำหอม Top Note – Citruses , Ivy, Black Currant, Litchi กลิ่นแรกที่เมื่อฉีดออกมาจะได้กลิ่นเปรี้ยวคล้ายๆกลิ่นของมะนาวหรือส้ม , กลิ่นของแบล็คเคอร์แรนท์ (ผลไม้ท้องถิ่นของยุโรปกลาง และยุโรปเหนือ) และลิ้นจี่ Base Note – Amber wood, Sandalwood, Apricot skin and Musk กลิ่นที่มาจากไม้หอม แอ๊ปปริคอท และมัสค์ Heart notes – Jasmine, Rose, Water lily, Peony , Sugared raspberries กลิ่นหอมของดอกมะลิ ดอกกุหลาบ ดอกดอกโบตั๋น และราสเบอรรี่

วันจันทร์ที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2554

เอส เอฟ จัดงานแถลงข่าว “SF ร่วมกับ Sony เผยนวัตกรรมใหม่ล่าสุด Sony Digital 4K”

โรงภาพยนตร์ในเครือเอส เอฟ ใคร่ขอเรียนเชิญท่านสื่อมวลชนร่วมงานแถลงข่าวความร่วมมือระหว่างบริษัท เอส เอฟ ซีเนม่า ซิตี้ โดยคุณสุวิทย์ ทองร่มโพธิ์ กรรมการผู้จัดการ และ โซนี่ โดย มร. โคโซะ เท็ตสึย่า กรรมการผู้จัดการ กลุ่มโปรเฟสชันนั่ล โซลูชั่นส์ โซนี่ อิเลคทรอนิคส์ เอเซีย แปซิฟิก กล่าวเปิดตัวนวัตกรรมใหม่ล่าสุดของระบบฉายภาพยนตร์ดิจิตอล Sony Digital Cinema 4K พร้อมชมตัวอย่างภาพยนตร์ในระบบ 4K ที่จะทำให้คุณสัมผัสถึงความแตกต่างได้อย่างชัดเจน นับเป็นอีกขั้นของการพัฒนาเทคโนโลยีที่ไม่หยุดยั้งของเอส เอฟ ซีเนม่า ซิตี้ และขอเชิญชมภาพยนตร์สามมิติเรื่อง Smurf ในช่วงท้ายของงานแถลงข่าวด้วย ในวันจันทร์ที่ 26 กันยายน 2554 ลงทะเบียนเวลา 13.30 น. โรงภาพยนตร์เอส เอฟ เวิลด์ ซีเนม่า โรงที่ 8 ชั้น 9 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์

กรุงศรีแอสเซท จัดงานสัมมนนาเศรษฐกิจและการลงทุน "อนาคต...กำหนดได้"

กรุงศรีแอสเซท ขอเรียนเชิญท่านสื่อมวลชน เข้าร่วมงานสัมมนาเศรษฐกิจและการลงทุน "อนาคต...กำหนดได้" โดยได้รับเกียรติจากคุณกิตติรัตน์ ณ ระนอง (รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์) ในเกียรติเข้าร่วมเสวนาพร้อมด้วยคุณประภาส ตันพิบูลย์ศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่การ ลงทุน บลจ.กรุงศรี ในวันจันทร์ที่ 26 กันยายน 2554 เวลา 13.30 - 16.00 น. ณ ห้องแกรนด์บอลรูม ชั้น4 โรงแรมอินเตอร์คอนติแนนตัล (BTS สถานีชิดลม ทางออกหมายเลข 3) สำหรับท่านสื่อมวลชนสามารถเข้าร่วมงานได้โดยไม่ต้องแสดงบัตรเชิญ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่หมายเลข 02-3052504

กลุ่มสิทธิผล วีแคร์ ร่วมกับ สภากาชาดไทย จัดงานประกาศผลการประกวดภาพยนตร์โฆษณาส่งเสริมการบริจาคอวัยวะ (TVC for Life)

โครงการประกวดภาพยนตร์โฆษณาส่งเสริมการบริจาคอวัยวะ (TVC for Life) เพื่อเฉลิมพระเกียรติในปีมหามงคลพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเจริญพระชนมพรรษา 84 พรรษา ชิงถ้วยพระราชทานจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ด้วยความร่วมมือระหว่าง “กลุ่มสิทธิผล วีแคร์” ร่วมกับ ศูนย์รับบริจาคอวัยวะ สภากาชาดไทย ได้ดำเนินการมาถึงรอบสุดท้ายของการประกวดแล้วภาพยนตร์โฆษณาจำนวน 10 เรื่อง ของบรรดานิสิตนักศึกษา จากผลงานที่ส่งทั้งหมด 132 เรื่อง พร้อมให้บรรดาสื่อมวลชนเข้าร่วมเป็นสักขีพยานในการตัดสิน และร่วมรับทราบถึงแนวคิดและมุมมองของนิสิตนักศึกษาเกี่ยวกับการบริจาคอวัยวะ และร่วมชม มินิคอนเสิร์ตจากศิลปินชื่อดังวง 25 Hours

วันอังคารที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2554

J Shoes First Standalone Boutique in BKK

รองเท้าแบรนด์ดังจากอังกฤษ J SHOES เปิด Standalone Boutiqueครั้งแรกในเมืองไทย ที่ Central Ladprao รวมแฟนคลับครั้งยิ่งใหญ่ ใส่ J SHOES มารับ J SHOES ฟรี 1 คู่ทันทีี่ เอาใจเหล่าบรรดาสาวก ของ J SHOES แบบโดนใจสุดๆ เมื่อ J SHOES รองเท้าแบรนด์ดังสัญชาติอังกฤษ นำรองเท้า J SHOES รุ่นสุดฮอต ทั้งRaiderของผู้ชาย และDita ของผู้หญิง คุณภาพระดับPremium มา Thank you ลูกค้าฟรีๆ ให้กับเหล่าคนรักรองเท้า แบรนด์ J SHOES อังคารที่ 20 กันยายนนี้ ที่ร้าน J SHOES สาขา Central Ladprao Standalone Boutique แห่งแรกของ J SHOES เมืองไทยเปิดตัวทั้งที รองเท้าJ SHOESก็ขอบคุณลูกค้าด้วยการแจก รองเท้า J SHOES ให้กับลูกค้าฟรีๆ กว่า 30 คู่ เมื่อใส่ J Shoes คู่โปรดมาร่วมงาน ซึ่งในงานนี้ เหล่าลูกค้าที่เป็นสาวกแบรนด์ J SHOES และเหล่าลูกค้าCelebrities อาทิ หนึ่ง ETC, ป๊อบปี้ K-OTIC, ณิกส์ อนุมานราชธน ต่างตบเท้าเข้าร่วมฉลองเปิดร้าน J SHOES กันอย่างพร้อมเพรียง งานนี้ นอกเหนือจากจะเป็นการเปิด Standalone Boutique แห่งแรกของ J SHOES​แล้ว ยังเป็นการเปิดตัว คุณอวยพร กองพัฒนากูล Brand Manager ของ J SHOES ​เมืองไทย ที่เตรียมแผนการตลาดเด็ด-เก๋-โดนใจ มาเอาใจลูกค้า J SHOES ​คนไทย กันอย่างเต็มที่ ตั้งแต่นี้เป็นต้นไปจนถึงสิ้นปี รับรองสร้างกระแสดีๆให้ J SHOES ได้อย่างแน่นอน พร้อมตอกย้ำ Image เฉพาะของ J SHOES ในฐานะ รองเท้าแบรนด์ดังจากอังกฤษ ที่ผสมผสาน Fashion Forward กับ Craftmanship ได้ถูกใจคนชอบรองเท้าดีๆทั่วโล

วันจันทร์ที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2554

เปิดตัว "บ้านผีปอบ Reformation" สุดฮา!!

กลับมาอีกครั้งสำหรับภาพยนตร์ไทย “บ้านผีปอบ” ที่มีภาคต่อเนื่องยาวนานหลายภาค เรียกได้ว่าเป็นภาพยนตร์ที่เป็นตำนานไปแล้ว มาคราวนี้ค่าย โกลเด้นเอ เอ็นเตอร์เทนเมนท์ จำกัด ได้จัดแถลงข่าวภาพยนตร์บ้านผีปอบภาคล่าสุด “บ้านผีปอบรีฟอร์เมชั่น” กำกับภาพยนตร์โดย โสภณ นิ่มอนงค์ซึ่งก็ได้โลโก้อย่าง “ปอบหยิบ” ป้าหน่อย – ณัฐินี สิทธิสมาน กับท่าปอบหยิบที่ถือว่าเป็นท่าอมตะมาแสดงนำ ร่วมกับพระเอกนางเอกรุ่นใหม่ อนุชา โตสวัสดิ์ ,เบญจณัฏฐ์ อักษรนันทน์ และเหล่านักแสดงจากโฆษณาชื่อดัง อาทิ สายชล ทองสาย (โฆษณา “เนเจอร์กิฟ”) ,ศิวดล บูรพากาญจน์ (โฆษณา “100 PIPERS”),ปราโมทช์ เทียนชัย (โฆษณา “แว่นท็อปเจริญ” ชุด ไฮโซ),ปริเยศ อังกูรกิตติ (โฆษณา “kitkat” ชุด แวมไพร์),พิมพ์พิชชา วงศ์โฆษวรรณ(โฆษณา “ประกันภัย ไทยวิวัฒน์”),นันทวัฒน์ ศักยะธนาสิทธิ์ (โฆษณา “ฮาร์ทบีท”),เอกศรัญญ์ ปฐมอัครพัฒน์ (โฆษณา “โออิชิ”)และนางแบบสาวสุดเซ็กซี่จากนิตยสาร “FHM”, “ZOO” ฉัตรชนก สิงห์สถาน ดยทั้งหมดร่วมให้สัมภาษณ์ถึงปอบยุคใหม่หรือปอบไฮเทคเล่นบีบี,เป็นมังสวิรัติ,ใส่เสื้อหนัง,ตัดผมม้าฝรั่งเศส และการถ่ายทำที่ต้องใช้ทั้งสลิง สแตนอิน ทุกอย่างมีหมด กับปอบเวอร์ชั่นล่าสุดนี้ ปิดท้ายด้วยนักแสดงหน้าใหม่ทีมนักพากย์พันธมิตรอย่าง ไกวัล วัฒนไกร ,รัตนา เลิกบางพลัด ที่มาเล่าถึงความยากง่ายในการแสดงครั้งแรก ณ ร้านอาหารแอมอิน เลียบทางด่วนเกษตร-นวมินทร์

วันอาทิตย์ที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2554

สาวดังร่วมสร้างสรรค์ 7 สิ่งมหัศจรรย์โลกผ่านไอศกรีมแบรนด์พรีเมี่ยมจากสวิสส์

ทิพธิดา สุขุม โชว์ผลงานสโตนเฮนจ์ให้เพื่อนๆดู.ได้เสียงตอบรับอย่างดีจากผู้ชื่นชอบไอศกรีม พีรภูมิ ปราบอริพ่าย ผู้บริหารไอศกรีมเมอเวนพิค (Mövenpick) ไอศกรีมระดับซุปเปอร์พรีเมี่ยม จากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ จึง จัดเต็มด้วยการเปิดตัวรสชาติใหม่อีก 2 รสล่าสุด “พิสทาชิโอ” และ “รัม เรซิน” ในงาน ภายในธีม “The Touch of 7 Wonders” พร้อมกับเชิญ 4 เซเลบริตี้สาว ทิพธิดา สุขุม, บุญญาภาณิ์เบญจรงคกุล, กรกนก ยงสกุล และปรีดิ์รติ ภิรมย์ภักดี พร้อม 3 เชฟจากโรงแรมดังมาร่วมสร้างสรรค์ผลงานศิลป์จากแรงบันดาลใจใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกผ่านไอศกรีมเมอเวนพิค ที่ห้อง R-Bar โรงแรมเรเนซองส์เมื่อเร็วๆนี้ศีกัญญา ศักดิเดช ภานุพันธ์ มาให้กำลังใจ เชฟของโรงแรมเรเนซองส์ที่สร้างสรรค์ไอศกรีมออกมาเป็นกำแพงเมืองจีน.ที่มาของ แรงบันดาลใจของธีมงานนี้ ผู้บริหารไอศกรีมเมอเวนพิค กล่าวว่า จากคำถามเปิดที่ได้ทำการวิจัยเกี่ยวกับไอศกรีมของเราว่า รับประทานแล้วนึกถึงคำว่าอะไร คนส่วนใหญ่บอกว่า Art และ Miraculous จึงเป็นแรงบันดาลใจให้มีการทำไอศกรีมให้กลายเป็นเมนู 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกอันทรงคุณค่า ซึ่งไอศกรีมของเรามีความพิถีพิถันในการคัดเลือกส่วนผสม และวัตถุดิบจากกระบวนการธรรมชาติแท้ๆ อย่าง รสชาติพิสทาชิโอ ให้ความนุ่มนวลของเนื้อไอศกรีม สอดแทรกด้วยซอสพิสทาชิโอ ลงตัวด้วยความกรุบกรอบของชิ้นถั่วพิสทาชิโอคัดพิเศษจากเปอร์เซีย ส่วน รัม เรซิน ได้กลิ่นอายจากแดนจาเมกา ด้วย Dark Jamaican รัม เพิ่มความหวานกลมกล่อมด้วยลูกเกดชั้นเยี่ยมจากตุรกีปรีดิ์รติ ภิรมย์ภักดี ปลื้มกับไอศกรีมเมอเวนพิค ในรูปของโคลิเซียมจากฝีมือของตัวเอง.สำหรับสิ่ง มหัศจรรย์ทั้ง 7 ที่ได้สร้างสรรค์ผ่านไอศกรีมเมอเวนพิค ได้แก่ กำแพงเมือง จีน, นครวัด, พีระมิด, ทัชมาฮาล, หอเอนเมือง ปิซา, สโตนเฮนจ์ ประเทศอังกฤษ และโคลิเซียม ประเทศอิตาลี ซึ่ง เตย-ปรีดิ์รติ เป็นผู้สร้างสรรค์สิ่งมหัศจรรย์สิ่งสุดท้ายนี้ บอกว่า ชอบทำอาหารมาตั้งแต่เด็กแล้ว ตอนเด็กถนัดทำอาหารมากกว่าขนม พอมาช่วงหลังเริ่มหัดทำขนมบ้าง สำหรับงานชิ้นนี้ ชอบเพราะประทับใจในประเทศอิตาลีมาตั้ง แต่เด็ก เคยไปดูโคลิเซียมของจริงใหญ่มาก เลยอยากลองทำเอาเยลโลเค้กมาทำเป็นส่วนด้านใน ด้านนอกเป็นกำแพงทำมาจากมาร์ซิแพน (Marzipan) ที่ทำจากน้ำตาลทรายขาว ผสมกับถั่วอัลมอนด์บดละเอียดและไข่ขาวนำมาปั้นขึ้นเป็นรูปกำแพง, ดาบ และหมวก พร้อมตกแต่งด้วยไอศกรีมรับประทานคู่กันอร่อยอย่าบอกใครเลย!

วันศุกร์ที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2554

Central Beauty in Love ชวนสาวๆ เสริมอาวุธลับความงาม

ห้างเซ็นทรัลชิดลมจัดงาน Central Beauty in Love อัพเดทเทรนด์ความงามเป็นอาวุธลับ เตรียมรับลมหนาว วินเทอร์ 2011 ผ่านแฟชั่นโชว์การแต่งหน้าโดยเหล่ายังก์เซเลบริตี้และท็อปโมเดล พร้อมเผยโฉม Central Queen of Beauty: เจนี่ เทียนโพธิ์สุวรรณ ห้างเซ็นทรัล จัดรายการ Central Beauty in Love ให้ได้อัพเดทเทรนด์การแต่งหน้ารับลมหนาวก่อนใครชวนสาวๆ เสริมอาวุธลับความงาม ให้หนุ่มๆ ตกหลุมรัก โดยคัดสรรเครื่องสำอาง และน้ำหอมแบรนด์คุณภาพ มาให้ช้อปฯ ด้วยข้อเสนอสุดพิเศษ ตั้งแต่วันที่ 14 – 19 ก.ย. 54 ที่ห้างเซ็นทรัลทุกสาขา และเคาน์เตอร์เครื่องสำอางเซ็นทรัลเวิลด์เครื่องสำอางและน้ำหอม เคาน์เตอร์ปกติลด 10 – 15% พร้อมสะสมใบเสร็จภายในวันและสาขาเดียวกัน รับฟรีคูปองส่วนลดแทนเงินสด ช้อปฯ ผ่านเซ็นทรัล เครดิตคาร์ดครบ 5,000 บาทขึ้นไป รับสิทธิ์ผ่อนชำระ 0.8% นานสูงสุด 10 เดือน สะสมใบเสร็จภายในวันและสาขาเดียวกัน หรือ จ่ายน้อยกว่าด้วยเซ็นทรัลเครดิตคาร์ด รับคูปองส่วนลดแทนเงินสด… ครบ 5,000 บาท หรือ จ่ายผ่านเซ็นทรัลเครดิตคาร์ด เพียง 4,500 บาท รับคูปองส่วนลดแทนเงินสด มูลค่า 200 บาท ครบ 12,000 บาท หรือ จ่ายผ่านเซ็นทรัลเครดิตคาร์ด เพียง 11,000 บาท รับคูปองส่วนลดแทนเงินสด มูลค่า 800 บาท ครบ 30,000 บาท หรือ จ่ายผ่านเซ็นทรัลเครดิตคาร์ด เพียง 28,000 บาท รับคูปองส่วนลดแทนเงินสด มูลค่า 2,500 บาท ครบ 50,000 บาท หรือ จ่ายผ่านเซ็นทรัลเครดิตคาร์ด เพียง 46,000 บาท รับคูปองส่วนลดแทนเงินสด มูลค่า 5,000 บาท ช้อปฯ ผ่านบัตรเครดิตกรุงศรี ครบ 5,000/ 8,000/ 15,000/ 25,000 บาท รับเงินเครดิตคืน 100/ 360/ 1,200/ 2,500 บาท ช้อปฯ ผ่านบัตรเครดิตกรุงศรีเลดี้ไทเทเนี่ยม มาสเตอร์คาร์ด ครบ 5,000/ 8,000/ 15,000/ 25,000 บาท รับเงินเครดิตคืน 150/ 580/ 1,900/ 3,750 บาท ผู้ที่มียอดซื้อสูงสุดของแต่ละสาขาตลอดรายการ รับฟรี! โทรศัพท์ Nokia 700 รวม 14 เครื่อง มูลค่ารวมกว่า 150,000 บาท รับเพิ่มสินค้า และบริการ สำหรับผู้ที่มียอดซื้อสูงสุดในแต่ละสาขา วันละ 3 ท่าน

บางกอกเจมส์แอนด์จิวเวลรี่แฟร์ ครั้งที่ 48 ประกาศศักดาประเทศไทย....มหานครเอกแห่งอัญมณี

สมาคมผู้ค้าอัญมณีไทยและเครื่องประดับ ร่วมมือกับกรมส่งเสริมการส่งออก กระทรวงพาณิชย์ จัดงานบางกอกเจมส์แอนด์จิวเวลรี่แฟร์ ครั้งที่ 48 ระหว่างวันที่ 14-18 กันยายน 2554 ณ ศูนย์การแสดงสินค้าอิมแพ็ค เมืองทองธานี นายสมชาย พรจินดารักษ์ นายกสมาคมผู้ค้าอัญมณีไทยและเครื่องประดับ เปิดเผยว่า สมาคมมีนโยบายที่จะสนับสนุนและส่งเสริม สร้างความเข้มแข็งให้กับสมาชิกของสมาคม และอุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับของไทย และผลักดันให้งานบางกอกเจมส์แอนด์จิวเวลรี่แฟร์ เป็นที่ยอมรับและสร้างความแข็งแกร่งให้กับงาน Fair มากยิ่งขึ้น โดยการนำพา International Pavilion จากต่างประเทศต่างๆ พร้อมทั้ง International Buyers ให้มากยิ่งขึ้นกว่าเดิม โดยงานในครั้งนี้เราใช้แนวคิด Save The Earth ในการจัดงาน เพราะเราเล็งเห็นความสำคัญของสิ่งแวดล้อมว่า ความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรธรรมชาติ มีส่วนสำคัญในการก่อกำเนิดความงดงามของอัญมณี หากขาดซึ่งความอุดมสมบูรณ์ของทรัพย์ในดินสินในน้ำ และธรรมชาติอันงดงาม ก็คงไม่สามารถมีอัญมณีที่ดีได้เช่นกัน และคาดว่าในปีนี้จะมียอดการส่งออกอัญมณีและเครื่องประดับไม่ต่ำกว่า 12,000 ล้านเหรียญสหรัฐอย่างแน่นอน ภาพแห่งความสำเร็จของการจัดงานบางกอกเจมส์แอนด์จิวเวลรี่แฟร์ทุกครั้งที่ผ่านมา ล้วนแสดงถึงศักยภาพอันแข็งแกร่งของภาครัฐและเอกชน ที่ได้รับความร่วมมือร่วมใจ รังสรรค์เส้นทางแห่งโอกาสทางการส่งออกอัญมณีและเครื่องประดับ โดยยอดการส่งออกอัญมณีและเครื่องประดับไทยใน 6 เดือนแรกของปีมีมูลค่าถึง 6,545 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยมีการขยายตัวของการส่งออก 9.82% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ท่ามกลางวิกฤติเศรษฐกิจโลกชะลอตัว ที่กำลังขยายวงกว้างกระทบต่อทุกภาคอุตสาหกรรม ความสามัคคีอันเป็นคุณลักษณะที่ยอดเยี่ยมของคนไทย ที่ร่วมมือร่วมใจประสานเป็นหนึ่งเดียว รวมทั้งฝีมือและทักษะจะเป็นกลยุทธ์สำคัญ ที่นำพาธุรกิจส่งออกอัญมณีไทยและเครื่องประดับสู่จุดหมายสูงสุด งานนี้นอกจากจะบอกว่า ไทยเป็นสุดยอดของโลกเรื่องพลอยสี ยังเป็นศูนย์กลางการผลิตและซื้อขายพลอยสีของโลกแล้ว เรายังเดินตามกลยุทธ์ที่ว่า Thailand The World's Gemz & Jewelry Hub พบอัญมณีน้ำงามคุณภาพส่งออก ฝีมือการเจียระไนสุดประณีต และดีไซน์ล้ำสมัยนำเทรนด์โลก ให้ท่านเพลิดเพลินกับการเลือกสรรตลอดทั้ง 5 วันแห่งความประทับใจ พร้อมเชิญท่านร่วมเป็นเกียรติในพิธีเปิดงาน และชมการแสดงแฟชั่นโชว์ของสุดยอดนักออกแบบและนางแบบดังของโลกและของไทยในวันพุธที่ 14 กันยายน 2554 เวลา 09.30 น. ณ ห้องรอยัล จูบิลี่ บอลรูม อาคารชาเลนเจอร์ อิมแพ็ค เมืองทองธานี เพื่อประกาศศักดาประเทศไทย...มหานครแห่งอัญมณีและเครื่องประดับโลก

สวารอฟสกี้ เจมส์ จัดงานแถลงข่าวด้านธุรกิจครั้งแรกของ SWAROVSKI GEMS? ประเทศไทย พร้อมเปิดตัว ZIRCONIA DIAMOND COLORS

เชิญร่วมงาน วันศุกร์ที่ 16 กันยายน 2554 เวลา13.00 – 16.00 น. ในการแถลงข่าวด้านธุรกิจครั้งแรกของ SWAROVSKI GEMS™ ประเทศไทยพร้อมเปิดตัว ZIRCONIA DIAMOND COLORSนวัตกรรม เซอร์โคเนีย ไดมอนด์ คัลเลอร์ เทรนด์ใหม่ของ อัญมณี 5 สไตล์Live Fashion Show โดยเครื่องประดับจาก ZIRCONIA DIAMOND COLORSประดับโชว์โดยดารานางแบบสาวชื่อดัง ราศรี บาเลนซิเอก้า (มาร์กี้)พบ มร. เคิร์ท ซบินเด้น Managing Director & Regional Director South East Asia & Indian Subcontinent SIGNITY (THAILAND) LTD. กับการให้ข่าวครั้งแรกของ สวารอฟสกี้ เจมส์ ในไทยเกี่ยวกับแนวโน้ม – ทิศทางการตลาดอัญมณี วันศุกร์ที่ 16 กันยายน 2554 เวลา13.00–16.00 น ณ บริเวณ DESIGN PAVILION TREND 2012หน้าชาเลนเจอร์ฮอลล์ 2 อิมแพ็ค เมืองทองธานีในงาน48th BANGKOK GEMS & JEWELRY FAIR 2011

วันพฤหัสบดีที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2554

โคเซ่ เปิดตัวผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางไลน์ใหม่ KOSE ESPRIQUE ในคอนเซ็ปต์ “One Stroke Beauty”

โคเซ่ เครื่องสำอางแบรนด์ชั้นนำจากประเทศญี่ปุ่น เปิดตัวผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางค์ไลน์ใหม่ KOSE ESPRIQUE (โคเซ่ เอสพรีค) เคล็ดลับความงามของหญิงสาวยุคใหม่ที่มาพร้อมคอนเซ็ปต์ “One Stroke Beauty” ที่จะทำให้หญิงสาวทุกคนได้โดดเด่นเป็นประกาย ทันสมัย ดึงดูดทุกสายตา พร้อมเปลี่ยนประสบการณ์การแต่งหน้าให้กลายเป็นเรื่องง่ายสำหรับหญิงสาวยุคใหมj มร.โนบุฮิโกะ มากิชิม่า กรรมการผู้จัดการ บริษัท โคเซ่ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่าเครื่องสำอางไลน์ใหม่ KOSE ESPRIQUE จะสามารถตอบโจทย์หญิงสาวยุคใหม่ ที่ต้องการเปลี่ยนลุคของตัวเองให้สวยได้ในพริบตา ตั้งแต่แรกสัมผัส ทั้งสีสันที่สวยงาม เปล่งปลั่ง มีมิติ ประดุจมืออาชีพ โดยเฉพาะผู้หญิงยุคใหม่ ที่ต้องการเมคอัพที่ดีเพื่อเสริมบุคลิกและความมั่นใจให้กับตัวเองในเวลาอันรวดเร็วและไม่ยุ่งยาก โดย ESPRIQUE เป็นภาษาฝรั่งเศส มาจากคำว่า “ESPRIT” ซึ่งหมายความว่า “spirit” หรือ “essence” ด้วยแรงบันดาลใจที่จะดึงเอาความงามสง่าอันเป็นเนื้อแท้ของหญิงสาวให้ปรากฏขึ้นอย่างโดดเด่น ซึ่งในครั้งนี้มาพร้อมสไตล์การแต่งหน้าในธีม Dazzly ที่บ่งบอกความงามด้วยสีสันแห่งเมคอัพ ทั้งลุคน่ารักสดใสในแบบ Dazzling Sweet หรือลุคโฉบเฉี่ยวแบบสาวมั่นในแบบ Dazzling Mode KOSE ESPRIQUE กับคอนเซ็ปต์ใหม่ล่าสุด “One Stroke Beauty” ที่ให้คุณสวยได้แรกสัมผัส ทั้งสีสันที่สวยงาม เปล่งปลั่ง และมีมิติ ประดุจมืออาชีพ ด้วยแพคเกจดีไซน์คุณภาพเยี่ยม ดูล้ำสมัย และเป็นสากล บวกกับความประทับใจของเมคอัพใหม่ที่เพิ่มความงามให้หญิงสาวทุกคนในทุกๆ สัมผัส ในทุกส่วนของใบหน้า สำหรับ KOSE ESPRIQUE มีผลิตภัณฑ์ครบทุกความต้องการ อาทิ อายแชโดว์ ที่จะช่วยสร้างมิติและให้ดวงตาเปล่งประกายกับผลิตภัณฑ์ ESPRIQUE Blend Dimensional Eyes (Shiny) ที่มี 5 เฉดสีให้เลือก พร้อมด้วย ESPRIQUE Aqua Drape Rouge ที่จะเติมเต็มเรียวปากให้ชุ่มฉ่ำแวววาว ด้วยกลอสซี่รูจเนื้อเนียนนุ่ม ซึ่งมีให้เลือกถึง 10 เฉดสี พร้อมด้วยการเติมเสน่ห์ให้พวงแก้มใสเป็นระเรื่อไปกับ ESPRIQUE Melty Fix Cheek ทั้ง 4 เฉดสี พร้อมด้วยมาสคารา อายไลเนอร์ และผลิตภัณฑ์ตกแต่งคิ้ว โดยทุกผลิตภัณฑ์มีส่วนผสมของ Hyaluronic acid และAmino acid เพื่อให้ความชุ่มชื้นในทุกขั้นตอนนอกจากนี้ภายในงานเปิดตัว KOSE ESPRIQUE ได้รับเกียรติจากเมคอัพอาร์ติสชื่อดังชาวญี่ปุ่น Isao Ishii ที่มาโชว์เมคอัพสุดพิเศษ กับการแปลงโฉม 2 สาวสุดฮ็อต โย ยศวดี และเข็ม รุจิรา ด้วย KOSE ESPRIQUE ที่จะเผยลุคค์ใหม่ของ 2 สาว ให้โฉบเฉียว ทันสมัย ในแบบสายลับความงามในแบบ Kose ที่ไม่เคยเห็นมาก่อน

วันพุธที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2554

ค่ายดีเอดี ยนตรกิจ ยกขบวนเปิดตัวรถใหม่ พร้อมแคมเปญการตลาดเผยโฉมในงาน Ultimate Auto Showcase

กลุ่มดีเอดี ยนตรกิจ ผู้นำเข้า และตัวแทนจำหน่ายแบรนด์ชั้นนำอย่าง ซีตรอง, โฟตอน, เอ็มทีเอ็ม, สโกด้า, สปีดอาร์ต และ สปายเกอร์ อย่างเป็นทางการ เปิดตัวสุดยอดนวัตกรรมใหม่แห่งยานยนต์ ส่ง 3 แบรนด์ชั้นนำ ตีตลาดรถยนต์ ได้แก่ เอ็มทีเอ็ม ออดี้ เอ8 แอล (MTM Audi A8L) และ สโกด้า ฟาเบีย อาร์เอส (Skoda Fabia RS) พร้อมโชว์ไฮไลท์ของงานกับการอวดโฉม ซีตรอง ดีเอส 3 เรซซิ่ง (Citroën DS3 Racing) รถแข่งเวอร์ชั่นสปอร์ท ซึ่งมีเพียง 200 คันในโลกเท่านั้น ในงาน อัลติเมท ออโต้ โชว์เคส (Ultimate Auto Showcase) มินิมอเตอร์โชว์ที่มาพร้อมกับข้อเสนอดีๆ สำหรับลูกค้า โดยจะมีขึ้นไปจนถึงวันอาทิตย์ที่ 18 กันยายน 2554 ณ Hall of Fame ชั้น M ศูนย์การค้าสยามพารากอน นางสาว วิชชุดา ลีนุตพงษ์ รองประธานกรรมการบริหาร กลุ่มดีเอดี ยนตรกิจ กล่าวว่า “การจัดงาน อัลติเมท ออโต้ โชว์เคส ครั้งนี้ เป็นการแสดงถึงศักยภาพของ กลุ่มดีเอดี ยนตรกิจ ในฐานะผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายรถยนต์ระดับแถวหน้าของเมืองไทย ที่สามารถนำเสนอนวัตกรรมใหม่ๆ ของยานยนต์ พร้อมตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้หลายหลาย โดยงานนี้เราเน้นจัดแสดงรถยนต์ทั้งหมด 8 รุ่น จาก 3 แบรนด์ดังในเครือ อันได้แก่ ซีตรอง ดีเอส 3, ซีตรอง ดีเอส 3 เรซซิ่ง, เอ็มทีเอ็ม ออดี้ เอ 8 แอล, เอ็มทีเอ็ม ออดี้ เอ7, เอ็มทีเอ็ม ออดี้ เอ1 พร้อมทั้ง สโกด้า ฟาเบีย อาร์เอส, ส​โกด้า ซู​เพิร์บ, และสโกดา เยติ ซึ่งทั้งหมดล้วนครอบคลุมไลฟสไตล์ที่แตกต่าง ไม่ว่าจะเป็นความโฉบเฉี่ยวสไตล์คนรุ่นใหม่ในสไตล์รถเล็กแบบซิตี้คาร์ ความโก้หรูในแบบผู้บริหาร ตลอดจนรถยนต์ที่รองรับสำหรับกลุ่มครอบครัว” สำหรับรถรุ่นใหม่ที่เปิดตัวภายในงาน ประกอบไปด้วย ซีตรอง ดีเอส 3 เรซซิ่ง แฟชั่นคาร์แฮชท์แบ็ค 3 ประตูจากฝรั่งเศส ที่ถูกปรับโฉมให้กลายเป็นรถแข่งเวอร์ชั่นสปอร์ท เพิ่มความร้อนแรงด้วยเครื่องยนต์จาก TH150 ซึ่งเป็นเบนซิน 4 สูบ 1,600 ซีซี เทอร์โบมาเป็น 200 แรงม้า หรือเพิ่มขึ้น 30% พร้อมกับเพิ่มแรงบิดไปอีก 15% อยู่ที่ 275 นิวตันเมตร โดยการเพิ่มสมรรถนะนี้ทำได้โดยการวาง ECU ใหม่ พร้อมปรับแต่งชุดเทอร์โบชาร์จเจอร์และส่วนประกอบบางส่วนของระบบขับเคลื่อน ซึ่งมีเพียง 200 คันในโลกเท่านั้น โดยคันที่นำมาจัดแสดงภายในงานจะเป็นพวงมาลัยขวา นอกจากนี้ยังมี สโกด้า ฟาเบีย อาร์เอส รถ ซัพ คอมแพ็ค แบบ 5 ประตู มีการเปลี่ยนรูปทรงให้ทันสมัยและปราดเปรียวมากขึ้น แต่ยังคงแฝงบุคลิกความเป็นรถยุโรปที่คลาสสิค สง่างาม เรียบง่าย แต่แข็งแรง มาพร้อมกับเครื่องยนต์เบนซินขนาด 1.4 ลิตร TSI turbo ที่​ให้พลัง​ใน​การขับ​เคลื่อนด้วยขนาด​ความจุ 1,390 ซีซี ​เสริมกำลังด้วย​เทอร์​โบให้กำลัง 177 แรงม้า หรือ 132 กิโลวัตต์ อัตราสิ้น​เปลืองน้ำมัน​เฉลี่ย 16.1 กิ​โล​เมตร/ลิตร ขับขี่​ได้อย่างคล่องตัว ด้วยระบบที่ส่งกำลังที่ทันสมัยที่สุดด้วยเกียร์อัตโนมัติ 7 จังหวะ แบบได​เร็คชิฟท์ DSG
และสัมผัสความหรูหราของ เอ็มทีเอ็ม ออดี้ เอ8แอล ลักชัวรี่คาร์รุ่นท็อปสุดในตระกูลออดี้ ที่มีความพิเศษตรงฐานล้อยาว Long Wheel Base ทำให้รถยนต์คันนี้มีความกว้าง ยาว และใหญ่ ทั้งภายในและภายนอก บอกถึงความเป็น First Class สวยหรู ระดับผู้นำ ล้ำสมัย และสะดวกสบายสไตล์ออดี้ มาพร้อมเครื่องยนต์ 3.0 TDI Quattro ให้กำลัง 300 แรงม้า แรงบิดสูงสุดถึง 650 นิวตันเมตร ที่ความเร็วรอบ 2500-3200 รอบ/นาที ส่วนอัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง สามารถทำได้ภายในเวลาเพียง 5.9 วินาที อัตราลิ้นเปลืองเชื้อเพลิงเฉลี่ย 15.1 กิ​โล​เมตร/ลิตร พร้อมฟังก์ชั่นสุดล้ำ สวยสมราคาและความปลอดภัยเป็นเลิศ “นอกจากจะมีการเปิดตัวรถยนต์ 3 รุ่นด้วยกันแล้ว ดีเอดี ยนตรกิจ ยังได้เตรียมความพิเศษ เนื่องในโอกาสครบรอบ 33 ปีของซีตรอง ด้วยการจัดแสดง 3D mapping ที่เป็นการฉายภาพในรูปแบบสามมิติลงบนตัวรถยนต์ ให้รถยนต์ที่จอดอยู่นิ่งๆ ดูราวกับว่าวิ่งไปตามสถานที่ต่างๆ โดยใช้เทคโนโลยีล้ำสมัยเข้ามาผสมผสานในการนำเสนอสมรรถนะแห่งยานยนต์ของ ซีตรอง ดีเอส 3 นับว่าเป็นครั้งของเมืองไทยที่มีการใช้เทคนิค 3D mapping กับรถยนต์ อีกทั้งยังเป็นการตอกย้ำถึงความทันสมัย ที่ไม่ยึดติดกับรูปแบบเดิมๆ ตามคอนเซ็ปต์ของรถยนต์ ซีตรอง ดีเอส 3 ได้อย่างลงตัว “ภายในงาน ยังมีข้อเสนอดีๆ อีกมากมาย สำหรับรถรุ่นอื่นๆ ที่นำมาจัดแสดง เพื่อช่วยในการตัดสินใจของลูกค้าที่กำลังคิดจะออกรถใหม่ เราเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่า การเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ๆ และกิจกรรมทางการตลาด ของดีเอดี ยนตรกิจ ในครั้งนี้ จะได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากลูกค้าทุกกลุ่ม” นางสาววิชชุดา กล่าวเพิ่มเติม สำหรับข้อเสนอพิเศษสำหรับลูกค้าที่จองภายในงาน อัลติเมท ออโต้ โชว์เคส ครั้งนี้ ดีเอดี ยนตรกิจ ได้นำเสนอสิทธิพิเศษต่างๆ ได้แก่ ลูกค้าที่จอง ซีตรอง ดีเอส 3 แฟชั่นคาร์สีสันสุดเปรี้ยวจากปารีส หรือ สโกด้า ซุปเพิร์บ รถยนต์ซีดานหรูหรา 4 ประตู ที่​เป็นมากกว่ารถซีดานธรรมดา มาพร้อมระบบจอดอัตโนมัติโดยไม่ต้องจับพวงมาลัย สามารถจ่ายเพียง 30,000 บาท ก็รับรถไปเป็นเจ้าของได้เลย สำหรับ เอ็มทีเอ็ม ออดี้ เอ8แอล มาพร้อมข้อเสนอ ผ่อน 0% นานถึง 18 เดือน และพิเศษสำหรับลูกค้าที่จอง และออกรถทุกรุ่นภายในงาน 20 ท่านแรก สามารถรับฟรี ซัมซุง กาแล็กซี่ แท๊ป 2 ไปเป็นเจ้าของได้เลย พบกับนวัตกรรมสุดพิเศษจาก ดีเอดี ยนตรกิจ ทั้งซีตรอง เอ็มทีเอ็ม สโกด้า ใน งาน อัลติเมท ออโต้ โชว์เคส ตั้งแต่วันนี้ไปจนถึงวันอาทิตย์ที่ 18 กันยายน 2554 ณ Hall of Fame ชั้น M ศูนย์การค้า สยามพารากอน สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ โทร. 02-717-2600-4

วันอังคารที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2554

พิธีเปิดงาน wire & Tube Southeast ASIA 2011 สุดยอดงานแสดงนวัตกรรม และผลิตภัณฑ์ล่าสุดในกลุ่มอุตสาหกรรมลวดและท่อ

มร. เกอร์นอท ริงลิ่ง (กลาง) กรรมการผู้จัดการ บริษัท เมสเซ่ดุสเซลดอร์ฟ เอเชีย จำกัด ผู้จัดงานแสดงสินค้านานาชาติระดับโลก ผนึกกำลังกับ กรกฎ ผดุงจิตต์ (ซ้าย) รองเลขาธิการสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และกรรมการกลุ่มอุตสาหกรรมเหล็ก สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และ ดร.ฉัตรชัย สมศิริ (ขวา) อุปนายก สมาคมพัฒนาสเตนเลสไทย ผนึกกำลังกันงาน wire & Tube Southeast ASIA 2011 งานแสดงนวัตกรรมใหม่ล่าสุดในอุตสาหกรรมการผลิตลวด, สายเคเบิล, สปริง, เครื่องกลึง, การผลิตท่อด้วยวัสดุคงทน และท่อร้อยสาย ตอกย้ำศักยภาพของประเทศไทยที่จะเป็นศูนย์กลางเชื่อมโยงกลุ่มอุตสาหกรรมหลักอันเป็นพื้นฐานในการสร้างสาธารณูประโภคระหว่างประเทศในภูมิภาค ระหว่างวันที่ 13-15 กันยายน 2554 ณ ศูนย์แสดงสินค้าไบเทค, บางนา

วันศุกร์ที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2554

“บิ๊ก อายส์” ค่ายใหม่ เปิดตัวแรง !!!

“บิ๊ก อายส์” ค่ายใหม่ เปิดตัวแรง !!! “ไอซ์,น้ำชา,หนูนา,เต้ย,โอลีฟส์”นำขบวนศิลปินร่วมงานคับคั่ง พร้อมโชว์ 3 สุดยอดอัลบั้ม “เตชินท์,เต้น,เลิฟ สเตตัส” “บิ๊กอายส์” ค่ายเพลงน้องใหม่ล่าสุด ในเครือ “จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่” ได้จัดงานเปิดตัว พร้อมเปิด 2 อัลบั้มใหม่ “เตชินท์ ชยุติ” และ “เต้น นรารักษ์” กับ 1 โปรเจคพิเศษ “เลิฟ สเตตัส” รวมถึงผลงานในปี 2554 อย่างยิ่งใหญ่ไปแล้ว โดยมี “สถาพร พานิชรักษาพงศ์” กรรมการผู้จัดการ บริษัท จีเอ็มเอ็ม ทีวี จำกัด และ ผู้ช่วยรองกรรมการผู้อำนวยการธุรกิจเพลง บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) หัวเรือใหญ่ ยกศิลปินในค่าย “ไอซ์ ศรัณยู,น้ำชา ชีรณัฐ,หนูนา หนึ่งธิดา,เต้ย จรินทร์พร,เตชินท์,เต้น ไมค์ไอดอล,โอลีฟส์,ส้ม,อะตอม,แบงค์,กัน ฯลฯ” และศิลปินรับเชิญ “นาวิน ตาร์,เซน เดอะสตาร์,ป๊อป ฯลฯ” รวมถึงโปรดิวเซอร์มือดี และเพื่อนๆ พี่ๆ ในวงการ “ฌอห์ณ,เวฟ,แพร ฯลฯ” ร่วมงานคับคั่งสุดคึกคัก ท่ามกลางทัพสื่อมวลชน และแฟนคลับที่มาให้กำลังใจอีกเพียบ เปิดตัวแรง เขย่าวงการเพลงสั่นสะเทือนเลยทีเดียว ที่ ชั้น 1 ลานลิฟท์แก้ว เซ็นทรัลเวิล์ด เมื่อวันก่อน งานเริ่มด้วย “เป๊ก เปรมณัช” พิธีกรอารมณ์ดี พูดต้อนรับ ก่อนส่งต่อให้ “พี่ถา สถาพร” ผู้ก่อตั้งค่าย ได้บอกเล่าถึงที่มาของย “บิ๊ก อายส์” ว่า “เริ่มต้นจากความนึกสนุก อยากมีศิลปินเป็นของตัวเอง จาก “บี-โอ-วาย,เตชินท์,น้ำชา,ไมค์ไอดอล,ส้ม,ชาช่า” จนมากขึ้นเรื่อยๆ เลยคิดว่าถึงเวลาแล้วที่ “จีเอ็มเอ็ม ทีวี” จะเปิดเป็นค่ายเพลงจริงจัง ก็คือ “บิ๊ก อายส์” ที่มีมุมมองงานเพลงที่หลากหลายสีสันทางดนตรี เราจึงมีหลากหลายศิลปิน หลากหลายแนวดนตรี หลากหลายแนวทางมาก ซึ่งในปีนี้เรามีผลงานเพลง อัลบั้มและโปรเจคพิเศษ รวม 6 อัลบั้ม ที่รับรองว่าถูกอกถูกใจทุกคนแน่นอน” ต่อด้วยเปิดตัวอัลบั้มชุดที่2“บี ยัว ซัมวัน” ของหนุ่มเสียงดี “เตชินท์” เจ้าของรางวัล “ดัชชี่ บอย แอนด์ เกิร์ล” สาขานักร้องชาย ปี 2007 และเจ้าของเพลงฮิต “รักได้คนเดียว,คำตอบของหัวใจ,คนไม่รู้ตัว” ที่ออกมาโชว์เสียงเพราะๆ กับ 2 เพลงใหม่ “ความเหงาโทรเข้ามา” และ “ยิ้มหน่อย” ก่อนพูดถึงความรู้สึกว่า “ตื่นเต้นครับ ไม่คิดว่าว่าจะเดินทางมาถึงอัลบั้มชุดที่ 2 เมื่อได้รับโอกาสผมเลยทุ่มเทตั้งใจทำออกมาอย่างดีที่สุด ก็ขอบคุณผู้ใหญ่ใจดีทุกคน โดยเฉพาะ “พี่ถา” และ “พี่หน่อย” (คุณอภิญญา ตันติวิภาส มาร์เก็ตติ้ง เมนเนเจอร์ บริษัท ดัชมิล จำกัด) ที่เอ็นดู และไม่เคยทิ้งผม และขอบคุณแฟนๆ ที่เป็นกำลังใจให้เสมอ ก็ขอฝากอัลบั้ม “บี ยัว ซัมวัน” ที่วางแผงวันนี้ด้วยครับ” จากนั้นส่งเวทีให้นักร้องหญิงเสียงทรงพลัง “เต้น นรารักษ์” เจ้าของแชมป์สุดยอด “ไมค์ไอดอล”ปี 2008 ถึง 8 สมัย และหลายเพลงดัง ถามเอาอะไร, นอนไม่หลับ, อย่าปล่อยให้คนคนนึงคิดถึงเธอ, อย่าเหงาเรื่อยเปื่อย ที่ขึ้นมาเปิดตัวอัลบั้มเดี่ยว อัลบั้มเต็ม อัลบั้มแรก ซึ่งจะวางแผง 22 ก.ย.นี้ พร้อมโชว์พลังเสียงสุดยอด“ของหายอยากได้คืน” ซิงเกิ้ลแรกจากอัลบั้ม ที่สะกดคนดูได้ทั้งงาน เรียกเสียงกรี๊ด เสียงปรบมือไปแบบถล่มทลาย จนเจ้าตัวถึงกับน้ำตาไหล พูดผิดพูดถูก “ดีใจมากค่ะ ที่ฝันเป็นจริง มีอัลบั้มของตัวเอง พูดแล้วน้ำตาจะไหล (นิ่งไป) เต้นขอขอบคุณผู้ใหญ่ทุกท่าน และขอบคุณแฟนๆ ที่ตั้งตารอฟัง ตั้งแต่เพลงยังไม่ออก อยากเข้าไปกอดขอบคุณทุกคนจริงๆ ค่ะ” ตามติดด้วยโปรเจคสุดพิเศษ “เลิฟ สเตตัส” เพลงรักบอกสถานะทางความรู้สึก กับการรวมตัวครั้งแรกของ 10 คนดัง “พลอย ไมค์ไอดอล,เกมส์ ไมค์ไอดอล,หั่ง ทีฆทัสน์,ป๊อป กิตติพงศ์,ชาช่า ริต์ตา,อุ๋งอิ๋ง กรกช,เซน เดอะสตาร์ ,พลับ,นาวิน ต้าร์,เต้ย จรินทร์พร” ซึ่งมี 4 นักร้องรับเชิญ “นาวินตาร์,พลับ,เซน เดอะสตาร์,ป๊อป” จาก “เอ็กแซ็กท์” มาร่วมแจมด้วย งานนี้ “บิ๊ก อายส์” จัดเต็มด้วยเมดเล่ย์ให้ฟังกันเต็มอิ่มเต็มอารมณ์ ก่อนพูดคุยกับพิธีกร “เป๊ก” ถึงการทำงานแบบคลุกวงในสุดๆ โดยเฉพาะสาว “เต้ย” นักร้องน้องใหม่แกะกล่อง ที่ได้รับเสียงเชียร์จากเพื่อนๆ และแฟนๆ มากที่สุด ก่อนหนุ่มหล่อ “ตาร์” พี่ใหญ่ ที่ตื่นเต้นไม่กัน เพราะห่างเวทีไปนาน ก่อนกล่าวว่า “ทั้งดีใจ และตื่นเต้นมากๆ ไม่ต่างกับ “เต้ย” เลยครับ เหมือนตาร์ได้กลับมาบ้าน มาทำความฝันที่ทิ้งไป ก็ขอฝากโปรเจค “เลิฟ สเตตัส” ที่จะวาง 29 ก.ย.นี้ ไว้กับทุกคนด้วยนะครับ เพราะทุกเพลงมาจากใจจริงของพวกเราครับ” ปิดท้ายด้วยวีทีอาร์ 3 อัลบั้ม “ผู้หญิงคิดอะไร,Plug & Play,หนูนา หนึ่งธิดา” มาเรียกน้ำย่อย ก่อนได้ฟังเต็มๆ ในปีนี้ ก่อนเจอเซอร์ไพร์สสุดจี๊ดสุดน่ารักของ “โอลีฟส์” ที่มาร้องและเต้นอย่างพริ้ว ทำหนุ่มๆ ตาค้าง ในเพลง “ไม่ได้ยิน” และปิดฉากสุดยิ่งใหญ่ด้วยการถ่ายภาพรวมแบบทะลักล้นเวที ติดตามผลงานคุณภาพ จากค่ายใหม่ “บิ๊ก อายส์” ในเครือ “จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่” ได้ในรายการทีวีของ “จีเอ็มเอ็ม ทีวี” และทางเคเบิ้ล “แบง แชนแนล” ช่องของคุณ ใจรุ่นเจนเนอเรชั่น หรือ www.gmm-tv.com

บริษัท เอเซียบุ๊คส จำกัด ร่วมกับ ส่วนบริหารกิจการจัตุรัสจามจุรี สำนักงานจัดการทรัพย์สิน จุฬาฯ และบริษัท ซีเอ็ดบุ๊คเซ็นเตอร์ ได้ฤกษ์เปิดร้าน

วันที่ 9 กันยายน 2554 บริษัท เอเซียบุ๊คส จำกัด ร้านหนังสือภาษาอังกฤษที่มีสาขาครอบคลุมไปทั่วประเทศกว่า 70 สาขา ได้ฤกษ์เปิดร้านหนังสือ Book Outlet by Asia Books ร่วมกับ ส่วนบริหารกิจการจัตุรัสจามจุรี สำนักงานจัดการทรัพย์สิน จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และบริษัท ซีเอ็ดยูเคชั่น จำกัด (มหาชน) ณ ศูนย์การค้าจามจุรีสแควร์ ชั้น B บนพื้นที่กว่า 500 ตารางเมตร โดยร้านหนังสือ Books Outlet จะมีหนังสือภาษาอังกฤษ และภาษาไทย ในราคาประหยัด และคุ้มค่ามากกว่า 200,000 รายการ พบกับกิจกรรมพร้อมรับสิทธิพิเศษมากมายในช่วงเปิดร้านตลอดเดือนกันยายน สิโรตม์ จิระประยูร กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอเซียบุ๊คส จำกัด กล่าวว่า การเปิดร้านหนังสือ Book Outlet by Asia Books ทางบริษัทฯ ต้องการนำเสนอหนังสือภาษาอังกฤษ เพื่อให้เยาวชนนิสิต นักศึกษาในบริเวณนี้ มีพื้นที่ของการอ่านเพิ่มขึ้น อีกทั้งราคาหนังสือในร้าน Book Outlet จะเป็นราคาประหยัด และคุ้มค่าอย่างยิ่งสำหรับเยาวชนที่จะช่วยประหยัดสตางค์ในกระเป๋า การเปิดร้าน Book Outlet ที่สาขาจามจุรีสแควร์ในครั้งนี้ บริษัทฯ เล็งเห็นว่า จามจุรีสแควร์ เป็นศูนย์การค้าที่เน้นด้านการเรียนรู้ควบคู่ไปกับการบันเทิงหรือ Edutainment Complex ด้วย พื้นที่กว่า 500 ตารางเมตร บริเวณชั้น B พร้อมมุมอ่านหนังสือ ลูกค้าจะได้เพลิดเพลินกับการเลือกซื้อหนังสือภาษาอังกฤษ และนิตยสารจากต่างประเทศ อีกทั้งเราได้รับความร่วมมือจากร้านหนังสือซีเอ็ดบุ๊คเซ็นเตอร์มาร่วมสร้างสีสันสำหรับมุมหนังสือภาษาไทย เพื่อเพิ่มความหลากหลาย ในการเลือกซื้อหนังสือได้มากขึ้น นอกจากนี้ตลอดเดือนกันยายน ทางร้านได้จัดโปรโมชั่นพิเศษ ด้วยราคาหนังสือที่ลดสูงสุดถึง 80% ซื้อหนังสือ 3 เล่มแถมฟรี 1 เล่ม รับบัตรส่วนลด และของสมนาคุณเมื่อซื้อหนังสือตามราคาที่กำหนด อีกทั้งในปีนี้ ทางบริษัทฯ ได้ร่วมเป็นหนึ่งในภาคีของโครงการ “Read for Life” โดยกรุงเทพมหานคร เพื่อรณรงค์ให้กรุงเทพฯ เป็น “มหานครแห่งการอ่าน” Book Outlet by Asia Books จะเป็นการเปิดเมืองหนังสือแห่งใหม่ เพื่อเพิ่มพื้นที่การอ่านใจกลางเมือง และจะเป็นอีกหนึ่งคลังปัญญาและแหล่งพบปะแลกเปลี่ยนและเสริมสร้างการเรียนรู้ให้กับเยาวชน นิสิต นักศึกษารวมทั้งประชาชนที่สนใจ ซึ่งถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งช่องทางในการส่งเสริมการอ่านอย่างจริงจัง ร้านหนังสือ Book Outlet by Asia Books เปิดให้บริการแล้วทุกวัน ตั้งแต่เวลา 10.00 – 21.00 น. พร้อมรับโปรโมชั่นพิเศษตลอดเดือนกันยายน จึงขอเชิญชวน เยาวชน นิสิต นักศึกษา และประชาชนที่สนใจ เพลิดเพลินกับการเลือกซื้อหนังสือที่ทั้งถูกใจ และประหยัดเงินในกระเป๋าได้ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม สามารถติ ดต่อร้านหนังสือได้ที่ โทร. 02-6576165-9

BIG CAMERA จัดงาน BIG PRO DAYS 5 Lifestyle Innovative“งานของคนรักการถ่ายภาพ ที่คุณต้องไม่พลาด”พบสุดยอดนวัตกรรมกล้องดิจิตอลที่ล้ำสมัยมากที่สุด

BIG CAMERA ศูนย์รวมกล้องดิจิตอลที่มีความสุขให้คุณเลือกมากที่สุด ร่วมกับ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา ลาดพร้าว ทุ่มงบกว่า 10 ล้านบาท จัดงาน BIG PRO DAYS 5 Lifestyle Innovative “งานของคนรักการถ่ายภาพ ที่คุณต้องไม่พลาด” ภายใต้คอนเซ็ปต์ Lifestyle Innovative เพื่อร่วมฉลองความยิ่งใหญ่กับการกลับมาอีกครั้งของ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา ลาดพร้าว แหล่งรวม Lifestyle ของคนเมือง โดยใช้พื้นที่จัดงานกว่า1,000 ตร.ม.เต็มพื้นที่บริเวณชั้น1 เพื่อรวมเอาทุก Lifestyle ของกล้องดิจิตอลครบทุกแบรนด์ อาทิ Canon, Nikon, Sony, Samsung, Olympus, Fujifilm, Panasonic ,Pentax, , Casio, Kodak, Ricoh, Tamron, Sigma,JVC, Sanyo, GE, Oska, Manfrotto และ Giottos ที่จะมาพร้อมกับเทรนด์กล้องปี 2011-2012 ครั้งแรกกับการเปิดตัวสินค้าจากแบรนด์ คุณได้สัมผัสก่อนใคร พร้อมเอาใจผู้ที่ชื่นชอบ การถ่ายภาพด้วยโปรโมชั่นสุดร้อนแรงแห่งปี มาร่วมค้นหา Lifestyle การถ่ายภาพในแบบของคุณกับกิจกรรมส่งเสริมความรู้ความบันเทิงมากมาย สำหรับนักเรียนนักศึกษา,ผู้สนใจในการถ่ายภาพ และร่วมเปิดประสบการณ์ใหม่ๆ จาก ช่างภาพระดับแนวหน้าในวงการถ่ายภาพที่ BIG CAMERA ระหว่างวันที่ 6-12 กันยายน เต็มพื้นที่ ชั้น1 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา ลาดพร้าว คุณ ชาญ เธียรกาญจนวงศ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บิ๊กคาเมร่า จำกัด “เผยถึงธุรกิจกล้องเติบโตอย่างต่อเนื่องและรวดเร็ว เหตุเพราะผู้ผลิตกล้องมีการแข่งขันสูงขึ้น มุ่งเน้นการสร้างสรรค์ และพัฒนาผลิตภัณฑ์โดยการผสมผสานเทคโนโลยี และคิดค้นนวตกรรมใหม่ เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคเจาะกลุ่มผู้บริโภคมากขึ้น ทำให้เข้าถึงผู้บริโภคได้ง่ายขึ้น ส่งผลให้ ตลาดโดยรวมของกลุ่มผลิตภัณฑ์นี้เติบโตจากผลประกอบการในช่วง 2 ไตรมาสแรกที่ผ่านมามีการเติบโต 10% ส่งผลให้เรา ตั้งเป้าปีนี้ไว้ที่ 2,000 ล้านบาท ขยับจากปีที่แล้วเราเคยทำไว้ 1,700 ล้านบาท จากการเติบโตนี้เอง ทำให้เราวางแผนการรับมือ เพื่อรองรับการให้บริการและมุ่งเน้นพัฒนาการให้บริการอย่างต่อเนื่องเช่นเดียวกัน ซึ่งทาง BIG CAMERA วางแผนขยายสาขา จากปัจุบันมีสาขาบริการอยู่ที่173 สาขา ตั้งเป้าสิ้นปีนี้ครบ 180 สาขาอย่างแน่นอน โดยมีแผนการตลาดที่จะช่วยพลักในช่วงไตรมาสที่ 4 เพื่อกระตุ้นยอดขายและขยายการยึดครองตลาดเพิ่มเติม ซึ่งทางแผนดั่งกล่าวเราตั้งงบประมาณไว้ 15 ล้านบาท” นอกจากนี้คุณชาญ ยังกล่าวถึงแผนการจัดงาน BIG PRO DAY ครั้งนี้ 5 ในปีนี้ด้วยว่า “จากการจัดงาน ในหลายครั้งที่ผ่านมา เราได้รับการตอบรับที่ดี จากกลุ่มผู้บริโภค ที่เป็นฐานเดิมของเราและยังสามารถขยายกลุ่มลูกค้ากลุ่มใหม่ๆ ทำให้ทางเราต้องเสริมทางด้านกลยุทธ์และงบประมาณการจัดงานเพื่อรองรับและตอบสนองการเปลี่ยนแปลงทางด้านพฤติกรรมของผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง ซึ่งการจัดงาน BIG PRO DAYS ในปีนี้ จึงจัดงานภายใต้แนวความคิดที่ว่า Life Style Innovative เป็นการรวบรวมทุกความ ทันสมัยในโลกของการถ่ายภาพไว้ในงานเดียว ทั้งส่วนของผลิตภัณฑ์ และความรู้ เพื่อตอบสนองทุก Life Style ของผู้ที่ชื่นชอบ การถ่ายภาพนั้นเอง ทำให้การจัดงานในครั้งนี้ส่งผลให้วงการ การถ่ายภาพตื่นตัวและสร้างกระแสตอบรับ กับพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป โดยเฉพาะในตัวกล้องถ่ายภาพ ที่มีการพัฒนาข้อจำกัด ของการถ่ายภาพ ซึ่งภายในงานนี้ ท่านจะได้พบกับการเปิดตัวของกล้องดิจิตอลครั้งแรกในประเทศไทย อาธิเช่น SAMSUNG รุ่น NX 200 กล้อง Mirorless ตัวแรกที่ใช้เซ็นเซอร์ภาพ APS-C ความละเอียดของภาพสูง 20.3 ล้านพิกเซล พร้อมระบบบันทึกภาพนิ่ง และภาพเคลื่อนไหวในแบบ 3D ด้วยความไวแสงถึง 12800 OLYMPUS รุ่น EPL-3 ความละเอียด12.3ล้านพิกเซล พร้อม Art Filter ในตัวกล้อง, พลังออพติคอลซูม5เท่า และClear Image Zoom10เท่า งCANON XA10 กล้องวิดีโอระดับมืออาชีพที่มีขนาดกะทัดรัด เหมาะสำหรับใช้งานเคลื่อนที่ รองรับการบันทึกภาพเคลื่อนไหวFull HD ได้ยาวนานด้วยหน่วยความจำในตัวถึง64GB PANASONIC FZ150 กล้องDSLR LIKE ระดับโปรซูมเมอร์ มาพร้อมความละเอียด 12.1ล้านพิกเซล เลือกใช้เลนส์Leica 25-600มม.(24X) RICOH MOUNT A12 ชุดต่อเลนส์สำหรับกล้องรุ่นGXR ที่มีเซ็นเซอร์ความละเอียด12.3ล้านพิกเซล ขนาดAPS-C เพื่อรองรับเลนส์LEICA ตระกูลM ซึ่งเป็นระบบเลนส์คุณภาพสูงที่ช่างภาพทั่วโลกต่างยอมรับในความเป็นที่สุดเพื่อรองรับLife style Innovative ของคนในปัจจุบัน นั่นเองSONY รุ่น DSC-WX30 กล้องCompact รูปทรงเพรียวบางสไตล์ซีรีย์ W พิเศษด้วยเลนส์ จากCarl Zeiss Vario-Tessar นับเป็นการพัฒนาทางด้าน นวัตกรรม โดยผสมผสาน เทคโนโลยีของเหล่าบรรดาผู้ผลิตกล้อง คุณกัณตภณ ผาณิตรัตน์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายการตลาด บมจ.เซ็นทรัลพัฒนา กล่าวว่า“ ในส่วนของศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา ลาดพร้าว เราเป็นศูนย์กลางจัดกิจกรรม ที่อัพเดตเทรนด์สิ่งใหม่ๆ เสมอ และ ทาง Big Camera เป็นพันธมิตรที่ดีกับ ซีพีเอ็น มาโดยตลอด เรามีแนวคิดที่ตรงกันในด้านการจัดกิจกรรมที่ดีที่สุดเพื่อมอบประสบการณ์ที่แปลกใหม่ให้กับลูกค้า สามารถมาอัพเดตเทรนด์ใหม่ๆได้ทุกวัน และกิจกรรมที่ทาง Big Camera มาจัดที่ศูนย์การค้าฯ ของเราก็ประสบความสำเร็จทุกครั้ง ลูกค้าให้การตอบรับสอบถามถึงกิจกรรมที่จะจัดในครั้งต่อๆไปมาโดยตลอด เนื่องจากมีโปรโมชั่นที่สุดคุ้มและนวัตกรรมกล้องใหม่ๆมานำเสนอ และแต่ละงานจัดได้ว่าเป็นไฮไลท์ของวงการถ่ายภาพที่มีผู้เข้าชมงานเป็นจำนวนมาก” การจัดงานในปีนี้ จะมีการนำเสนอ รูปแบบกิจกรรมการถ่ายภาพ ที่จะพาช่างภาพและผู้ที่รักการถ่ายภาพทุกท่าน ร่วมเปิดประสบการณ์ใหม่ ไปในโลกแห่งการเรียนรู้ เพื่อ เพิ่มทักษะ และสามารถสร้างสรรค์ภาพถ่าย โดยใช้อุปกรณ์ได้อย่างสมบูรณ์แบบและลงตัว เพื่อเพิ่มมุมมองที่แปลกใหม่ ให้กับวงการถ่ายภาพ โดยครั้งนี้ถือเป็นโอกาส สำคัญ ที่ BIG CAMERA จะสร้างประสบการณ์ที่ดี และเป็นตัวแทนของความสุขในโลกของการถ่ายภาพ ที่คัดสรรค์และรวบรวมสินค้าคุณภาพ และ เสริมสร้างทักษะการใช้งานให้กับผู้ที่ชื่นชอบการถ่ายภาพ อีกทั้งเป็นตัวกลางระหว่างกลุ่มลูกค้า และถนนสายอาชีพในโลกของ การถ่ายภาพอีกด้วย” งาน BIG PRO DAY ครั้งที่ 5 นี้ เป็นการรวมตัวของวิวัฒนาการ ล่าสุดในโลกของการถ่ายภาพ โดยรวมเอานวัตกรรมกล้องล่าสุด จากทุกแบรนด์ชั้นนำมาไว้ในงานเดียว พร้อมขยายเวลาให้กับผู้ที่ชื่นชอบการถ่ายภาพโดยเพิ่มระยะเวลาการจัดงาน 7 วัน บนพื้นที่กว่า 1,000 ตารางเมตร พบกับกิจกรรมสุดพิเศษมากมาย ที่ BIG CAMERA ภูมิใจมอบให้แก่ผู้ที่รักการถ่ายภาพทุกท่านนอกจากนี้ยังอัดแน่นไปด้วยกิจกรรม workshop การอบรมมอบความรู้จาก กูรูแบรนด์ชั้นนำมากมาย และคับคั่งไปด้วยช่างภาพชั้นนำระดับมืออาชีพ พบการเปิดตัวของกล้องดิจิตอลใหม่ล่าสุดที่คุณไม่เคยเห็นที่ใหนมาก่อน อาทิ SONY รุ่น DSC-WX30, SAMSUNG รุ่น NX 200 และ OLYMPUS รุ่น EPL-3 สำหรับพิธีเปิดในวันพุธที่ 7 กันยายน 2554 เวลา 14.00น.ท่านจะพบกับโชว์ชื่อดังจาก อาร์เจนติน่า และแฟชั่นโชว์ ชุด Innovative จาก Super Model ของเมืองไทยพร้อมเซอร์ไพรส์ จาก “ปู” ไปรยา สวนดอกไม้ ที่จะพกพาความ Innovative มาให้คุณได้สัมผัสในรูปแบบ ร่วมถ่ายภาพกับบรรดา Celeb ชื่อดังของเมืองไทยคุณกรกนก ยงสกุล,คุณวันฑิตา ลิ่วเฉลิมวงศ์ อัดแน่นกับกิจกรรมส่งเสริมทักษะการถ่ายภาพอีกมามายตลอดงาน พร้อมร่วมเปิดประสบการณ์ใหม่ในโลกของการถ่ายภาพ พิเศษสุดกับคุณเมย์ พิชญ์นาฏ สาขากร ,คุณโบวี่ อัฐมา ชีวนิชพันธ์ และ5 Top Super Modelชื่อดังอีกมากมาย ใน BIG FIVE STUDIOS 5 วัน 5 คอนเซ็ปต์ Sun,Moon,Eyes,Door,Lens ที่จะจำลองฉาก ไฟ โดยสไตล์ริสชื่อดัง คุณต้น T-on กับ5 Top Super Model ให้คุณเพลิดเพลิดกับการถ่ายแฟชั่นเซ็ทตลอดงาน และกิจกรรมพิเศษอาทิ กิจกรรม BIG PRO TALK กระทบไหล่ 2 ช่างภาพระดับ TOP CLASS ของไทย คุณจอร์จ-ธาดา วาริช และ คุณต่อ-อนุชัยศรีจรูญพู่ทอง ช่างภาพอันดับหนึ่งของโลก กับครั้งแรกที่จะเผยเคล็ดลับการทำงานในรูปแบบ Lifestyle Innovative คับคั่งด้วยช่างภาพแถวหน้าของประเทศ ที่จะมาเผยเทคนิคการถ่ายภาพในแบบ Innovative มาร่วมยกระดับความเป็น Photolista กับการเรียนรู้เทคนิคการถ่ายภาพที่กำลังเกาะกระแสปี 2011 Double Exposure, Hangout Party, Rebellion Style, Lomo และ Check Look โดยสมาคมถ่ายภาพแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ที่จะมาเผยเคล็ดลับการถ่ายภาพกับช่วง “Click Like on Your Lifestyle Innovative” และสนุกสนานกับการประกวดถ่ายภาพชิงรางวัลกล้องดิจิตอล Sumsung EX 1 รู้ลึกรู้จริงกับ 6 แบรนด์กล้องชั้นนำที่จะมาเผย นวัตกรรมเทรนด์กล้องปี 2011-2012 กับ BIG GURU TALK และ การทำเวิร์คช็อปจาก Mars MAGAZINE การถ่ายแฟชั่นเซ็ท กลางห้างดังกับ น้องแซมมี่ - ศิรภัสสร อัฒยกร Miss Tiffany's Universe 2011 โดยช่างภาพมือหนึ่ง คุณเกี๊ยก – สุวิทย์ กิตติเธียร และ BIG MAG WORKSHOP จากนิตยสารกล้องระดับแนวหน้า อาทิ FHM, Fotoinfo ,Digital Camera, Stuff และ Phototech ตื่นตากับกิจกรรม Meet & Greet กับ 10 Final GND จากเวทีการประกวดนิตยสารชายอันดับ 1 FHM ที่จะควงช่างภาพมืออาชีพระดับแถวหน้า มาร่วมไขปริศนาความเซ็กซี่กับแฟชั่นเซ็ทสุด Innovative และแฟชั่นโชว์สุดร้อนแรงจากสาว FHM GND ทั้ง 10 คนร่วมวัดระดับความเป็น Photolista ในตัวคุณ กับ 2 เซเลปชื่อดัง ที่จะทำให้คุณเป็นส่วนหนึ่งของสังคม Photolita’s Lifestyle Society พร้อมชมนิทรรศการภาพถ่าย จากสมาคมการถ่ายภาพแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ กับผลงานชื่อชุด "Lifestyle Innovative Exhibition Digital Frame" และบริการตรวจเช็คและทำความสะอาดกล้องฟรีกับ BIG SERVICE และโปรโมชั่นสุดร้อนแรงที่คุณห้ามพลาด กับ BIG PROMOTION ส่วนลดสูงสุด 15 % พร้อม รับส่วนลดกับบัตรเครดิตรที่ร่วมรายการ ผ่อน 0% นานสูงสุด 10 เดือน แล้วพบกันในงาน BIG PRO DAYS 5 Lifestyle Innovative “งานของคนรักการถ่ายภาพ ที่คุณต้องไม่พลาด” ระหว่างวันที่ 6-12 กันยายน 2554 บริเวณชั้น 1 Zone A,B,C,D ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา ลาดพร้าว

วันพฤหัสบดีที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2554

ยูนิโคล่ แฟชั่นแบรนด์อันดับ 1 จากญี่ปุ่น เตรียมเปิดประเดิมสาขาแรกที่เซ็นทรัลเวิลด์ กันยายนนี้

ยูนิโคล่ แฟชั่นแบรนด์อันดับ 1 จากประเทศญี่ปุ่น ประกาศแผนธุรกิจในการเปิดแผนธุรกิจในประเทศไทยในปลายไตรมาส 3 ด้วยการเปิด 3 สาขา อย่างต่อเนื่องในศูนย์การค้าต่างๆ โดยสาขาแรกจะเปิดในเดือนกันยายนนี้ ที่เซ็นทรัลเวิลด์ และสาขาที่ 2 ณ เซ็นทรัลพลาซา ลาดพร้าว และสาขาที่ 3 ณ เซ็นทรัลพลาซา พระราม 9 มร.นาโอกิ โอโตมะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ยูนิโคล่ ภูมิภาคเอเชียและประเทศญี่ปุ่น และรองประธานกรรมการบริหาร บริษัท ฟาสต์ รีเทลลิ่ง จำกัด ประเทศญี่ปุ่น กล่าวว่า “บริษัท ยูนิโคล่ฯ รู้สึกภูมิใจและเป็นเกียรติอย่างมากในการเปิดทั้ง 3 สาขาภายในปลายปีนี้ ในใจกลางกรุงเทพ การเปิด 3 สาขาในช่วงเวลาไล่เลี่ยกันนี้เป็นเรื่องที่ใหม่และท้าทายสำหรับยูนิโคล่ฯ อย่างไรก็ตาม จะเป็นการสื่อให้เห็นถึงการให้คำมั่นสัญญาที่มั่นคงกับผู้บริโภคในประเทศ ไทย” บริษัท ฟาสต์ รีเทลลิ่ง จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของยูนิโคล่ฯได้เผยถึงการตั้งเป้าในการก้าวเป็นบริษัท จำหน่ายเสื้อผ้าที่ใหญ่ที่สุดในโลกในปี พ.ศ. 2563 ด้วยยอดขาย 2 ล้านล้านบาท (หรือ 5 ล้านล้านเยน) โดยตั้งกลยุทธ์การขยายธุรกิจเพื่อก้าวสู่การเป็นแบรนด์อันดับ 1 ในเอเชีย ทั้งนี้ ส่วนหนึ่งในแผนการขยายธุรกิจของยูนิโคล่ฯ คือการมุ่งเปิดสาขาเป็นจำนวน 200 สาขาทั่วเอเชียทุกๆปี โดยเน้นที่ประเทศจีน เกาหลีใต้ และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ยูนิโคล่ สาขาเซ็นทรัลเวิลด์ จะประกอบไปด้วยสินค้าเสื้อผ้าสำหรับสุภาพบุรุษ สุภาพสตรี เด็ก และทารก จากคอลเล็คชั่น 2011 ตลอดจนสินค้าขายดีในสายผลิตภัณฑ์ต่างๆ อาทิ UT (UNIQLO T-shirt), UJ (UNIQLO Jeans) และผลิตภัณฑ์ HEATTECH ซึ่งเป็นเนื้อผ้านวัตกรรมยุคใหม่ นอกเหนือจากการเปิดสาขาทั้ง 3 สาขาแล้ว ยูนิโคล่มีแผนจะเปิดตัวแคมเปญสื่อสารการตลาดภายใต้ คอนเซ็ปต์ “From Tokyo to Bangkok” เพื่อเจาะให้ถึงกลุ่มลูกค้าผ่านสื่อโฆษณาที่มีความสร้างสรรค์ในรูปแบบต่างๆ ตลอดจนผ่านทางโซเชียล เน็ทเวิร์ค ตลอดจนเปิดตัวแคมเปญที่ชื่อ People Campaign ที่ได้ประสบความสำเร็จมาแล้วในประเทศต่างๆ ทั้งนี้ People Campaign เป็นส่วนหนึ่งของการนำเสนอแบรนด์คอนเซ็ปต์ของยูนิโคล่ในเรื่องการสร้างสรรค์ สำหรับทุกคน ในสโลแกน “Made For All” โดยการนำเสนอผ่านบุคคลที่มีชื่อเสียงในหลากหลายสาขาอาชีพในสังคมไทย

วันพุธที่ 7 กันยายน พ.ศ. 2554

ร่วมค้นหาสุดยอดนักคำนวณใน "เถ้าแก่น้อย เอแม็ท ชิงแชมป์ประเทศไทย" วันที่ 10-11 ก.ย. ณ เซ็นทรัลพลาซาปิ่นเกล้า

บทพิสูจน์ครั้งสำคัญของยอดนักคำนวณ ค้นหาสุดยอดนักต่อสมการคณิตศาสตร์ ใน "เถ้าแก่น้อย เอแม็ท ชิงแชมป์ประเทศไทย ชิงโล่พระราชทานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ครั้งที่ 6" วันที่ 10-11กันยายน 2554 เวลา 09.00-18.00 ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา ปิ่นเกล้า การแข่งขันนี้เป็นการแข่งขันใหญ่เพียงครั้งเดียวในแต่ละปีของเอแม็ท เกมต่อเลขคำนวณ งานนี้ได้รวบรวมสุดยอดนักต่อสมการคณิตศาสตร์ระดับหัวกะทิ ทั้งรุ่นเล็กและรุ่นใหญ่ หน้าเก่า หน้าใหม่ แห่กันมาร่วมชิงชัย จากทุกทั่วสารทิศในประเทศไทย การชิงชัยเต็มไปด้วยความเข้มข้นอย่างแน่นอน และล่าสุดข่าวที่สร้างความฮือฮาและคึกคักให้กับการแข่งขันนี้เป็นอย่างมาก นั่นก็คือ ทางเถ้าแก่น้อยซึ่งเป็นเจ้าภาพของการแข่งขันในครั้งนี้ ได้เชิญวงศิลปินวัยรุ่นบอยแบนด์ “K-OTIC” ที่กำลังโด่งดังด้วยสไตล์การร้องเพลงและเต้นแบบเกาหลีมาร่วมโชว์การร้องเพลงในวันอาทิตย์ที่ 11 กันยายนนี้ ก่อนพิธีปิดจะเริ่มขึ้น คาดว่าจะทำให้มีแฟนคลับของวง K-OTIC และผู้คนที่เดินห้างสรรพสินค้ามาเข้าร่วมงานสร้างความคึกคักเป็นจำนวนมาก ไฮไลท์ของการแข่งขันนี้หนีไม่พ้นการแข่งขันเอแม็ท เกมต่อเลขคำนวณ รุ่นโอเพ่น ซึ่งผู้ที่ชนะเลิศได้รับโล่รางวัลพระราชทานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ พร้อมเงินรางวัลทุนการศึกษา 30,000 บาท นอกจากนี้ยังมีการแข่งขันเอแม็ทในรุ่นอื่นๆ อีก 8 รุ่น ครอสเวิร์ดเกม คำคม ซูโดกุ และที่พลาดไม่ได้สำหรับโรงเรียนก็คือ รางวัลถ้วยรวมทุกประเภทกีฬาสำหรับโรงเรียน ซึ่งในปีนี้ทางสมาคมฯได้เพิ่มรางวัลโรงเรียนหน้าใหม่ที่เข้าร่วมการแข่งขันเป็นครั้งแรก และได้ผลคะแนนรวมที่ดีที่สุดในระดับประถมและมัธยมประเภทละ 1 รางวัล ต้องมาลุ้นกันว่าใครจะเป็นยอดนักต่อสมการคณิตศาสตร์ที่เป็นหนึ่งในใต้หล้าที่นอกจากจะต้องมีไหวพริบเป็นเลิศแล้ว ยังต้องมีการฟิตซ้อมเพื่อความชำนาญอีกด้วย ผู้ที่สนใจเข้าร่วมการแข่งขันสามารถสมัครเข้าร่วมการแข่งขันได้ ที่นี่ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมโทร . 02-681-9971-3

วันจันทร์ที่ 5 กันยายน พ.ศ. 2554

บัตรเครดิตธนชาต ไดร์ฟ จับมือพารากอนเอาใจลูกค้าไฮเอนด์

บัตรเครดิตธนชาต ไดร์ฟ และบัตรเครดิตนครหลวงไทย เดินหน้าไม่หยุดรุกเอาใจขาช้อปสินค้าไฮเอนด์ จับมือพารากอน คัดร้านค้าแบรนด์เนมระดับโลกมอบส่วนลดพิเศษสุดคุ้มถึง 30% ในงาน World Fashion and Luxury Trend Autumn Winter นายฌอง มาร์ค ดาแลร์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายพัฒนาบัตรเครดิตและสินเชื่อบุคคล ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า หลังจากที่ธนชาตได้จัดกิจกรรมทางการตลาดและรายการส่งเสริมการขายอย่างต่อเนื่องให้แก่ลูกค้าบัตรเครดิตธนชาต ไดร์ฟ และบัตรเครดิตนครหลวงไทย ซึ่งขณะนี้มีจำนวนสมาชิกบัตร 570,000 ใบ จากการวิเคราะห์พฤติกรรมการใช้จ่ายผ่านบัตรของลูกค้าอย่างใกล้ชิด พบว่าลูกค้าได้ให้ความสนใจและตอบรับกิจกรรมส่งเสริมการขายในหมวดช็อปปิ้งเป็นอย่างมาก ที่ผ่านมาเราได้จัดแคมเปญร่วมกับห้างสรรพสินค้าต่าง ๆ ในการมอบส่วนลด และการแลกของสมมนาคุณต่าง ๆ หรือการจับรางวัลให้แก่ลูกค้าสมาชิกได้เข้าร่วมชมการแข่งขัน F1 ที่ประเทศสิงคโปร์และดูไบ ส่งผลให้ยอดการใช้จ่ายในห้างสรรพสินค้าเพิ่มสูงขึ้นถึง 22% จึงเป็นเหตุผลที่เราเลือกทำแคมเปญทางการตลาดให้สอดคล้องกับความต้องการของลูกค้าอย่างตรงจุด จึงได้เข้าร่วมกิจกรรมกับศูนย์การค้าสยามพารากอน ในงาน “World Fashion and Luxury Trend Autumn Winter” ซึ่งงานดังกล่าวเรามั่นใจว่าจะสามารถตอบโจทย์ลูกค้าที่ชื่นชอบสินค้าแบรนด์เนมระดับไฮเอนด์ จากร้านค้าที่เราคัดสรรมาเพื่อสมาชิกบัตรเครดิตธนชาต ไดร์ฟ และบัตรเครดิตนครหลวงไทย โดยเฉพาะ ซึ่งมีจำนวนร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการกว่า 40 ร้านค้า ที่จะมอบสิทธิพิเศษต่าง ๆ และส่วนลดสูงสุดถึง 30% พร้อมมอบของสมมนาคุณพิเศษอีกมากมาย อาทิ บัตรกำนัลที่พัก 2 วัน 1 คืนจาก Jasmine Pool Villa และ Private Villa ที่เทวัญดารา รีสอร์ท แอนด์ สปา หัวหิน เป็นต้น โดยลูกค้าสามารถใช้สิทธินี้ได้ในงาน “World Fashion and Luxury Trend Autumn Winter” ได้ตั้งแต่วันนี้ – 30 กันยายน 2554 นายฌอง มาร์ค ดาแลร์ กล่าวเพิ่มเติมว่า เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าแคมเปญดังกล่าวจะสามารถตอบแทนลูกค้าได้อย่างตรงความต้องการ และจะตอกย้ำให้ลูกค้าใช้บัตรธนชาต ไดร์ฟ (Brand Awareness) ในการใช้จ่ายอย่างชาญฉลาดทุกครั้งที่ต้องการ รวมถึงจะเป็นการเพิ่มฐานสมาชิกในกลุ่มลูกค้าระดับบนโดยผ่านแคมเปญต่าง ๆ ที่เราคัดสรรค์มาเพื่อลูกค้าโดยเฉพาะ เรามั่นใจว่าลูกค้าจะได้รับประโยชน์จากการใช้บัตรเครดิตธนชาตได้อย่างคุ้มค่าที่สุด นายฌอง มาร์ค กล่าวสรุป

วันอาทิตย์ที่ 4 กันยายน พ.ศ. 2554

เปิดโครงการ “เวิลด์ เอ็กซ์โป 2020 มั่นใจเมืองไทยพร้อม” 2 ก.ย.

นายอรรคพล สรสุชาติ ผู้อำนวยการสสปน. พร้อมด้วย มรว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดโครงการ “เวิลด์ เอ็กซ์โป 2020 มั่นใจเมืองไทยพร้อม” ในวันศุกร์ที่ 2 กันยายน 2554 เวลา 16.30-19.00 น. ณ ลานพาร์คพารากอน ศูนย์การค้าสยามพารากอน เพื่อรวมพลัง ร่วมใจ สนับสนุนไทยเป็นเจ้าภาพ เวิลด์ เอ็กซ์โป 2020 พบ “น้องไท” ผู้ปฏิบัติหน้าที่ทูตประชาสัมพันธ์เวิลด์เอ็กซ์โป และเปิดตัวน้องมาสคอต “น้องนารี”ที่ใช้จะใช้เป็นมาสคอตเวิลด์ เอ็กซ์โป 2020 อยุธยา ในการรณรงค์ต่อไปพร้อมร่วมสนุกกับกิจกรรม และลุ้นรับของรางวัลมากมาย

พิธีมอบรางวัลประกวดหนังสั้น10เรื่องเล่าจากผืนป่าตะวันตก ในงานรำลึก21ปีสืบนาคะเสถียร

โครงการปิ๊งส์ สสส. จัดกิจกรรมนำเสนอผลงาน พร้อมพิธีประกาศผลมอบรางวัลของเยาวชนจากโครงการประกวดหนังสั้น เล่าเรื่องเป็นหนังสั้น ตอน 10 เรื่องเล่าจากผืนป่าตะวันตกภายในงานจากป่า สู่เมือง รำลึก 21 ปี สืบ นาคะเสถียรระหว่างวันที่ 2 - 4 กันยายน 2554 หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร ปทุมวัน กรุงเทพฯ พบนิทรรศการผลงานเยาวชน พร้อมร่วมโหวตผลงานที่ชื่นชอบสำหรับรางวัลขวัญใจมหาชนได้ผ่านเว็บไซต์ปิ๊งส์และภายในงานรำลึก21ปี กำหนดการกิจกรรมรำลึก 21 ปี สืบ นาคะเสถียรวันที่ 2 – 4 กันยายน 2554 เวลา 10.00 – 20.00 น.ณ หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร ปทุมวัน กรุงเทพฯ

วันพฤหัสบดีที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2554

แคนนอนประกาศศักยภาพ! ยกทัพนวัตกรรมการพิมพ์ครบวงจรบุกงาน Pack Print international 2011ตอบโจทย์เทรนด์ดิจิทัลพรินท์ติ้งมาแรง

กรุงเทพฯ 31 สิงหาคม 2554 - แคนนอน ผู้นำตลาดในกลุ่มเครื่องพิมพ์สำหรับอุตสาหกรรมการพิมพ์ระดับมืออาชีพ ประกาศความสำเร็จอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดยกทัพสุดยอดนวัตกรรมและเทคโนโลยีด้านการพิมพ์แบบครบวงจร บุกงาน Pack Print International 2011 งานแสดงสินค้าอุตสาหกรรมการพิมพ์และบรรจุภัณฑ์แห่งปีที่ยิ่งใหญ่ที่สุดงานหนึ่งในอาเซียน สาธิตการทำงานที่สมบูรณ์แบบเพื่อผู้ประกอบการรายใหม่ พร้อมเปิดตัวไฮไลท์ของงาน เครื่องพิมพ์ดิจิตอลสี imagePRESS C7010VP ที่สุดแห่งความล้ำหน้าของงานพิมพ์และการเติบโตทางธุรกิจเพื่อผลกำไรระดับมืออาชีพ ตอบโจทย์เทรนด์ดิจิทัลพรินท์ติ้งมาแรง ร้อยเอกสุนทร ปัณฑรมงคล ผู้อำนวยการอาวุโสและผู้จัดการทั่วไป ส่วนงานบิสซิเนส อิมเมจจิ้ง โซลูชั่น บริษัท แคนนอน มาร์เก็ตติ้ง (ไทยแลนด์) จำกัด เปิดเผยว่า “ความสำเร็จจากการเข้าร่วมงาน Pack Print International (PPI) เมื่อครั้งที่ผ่านมา แคนนอนประสบความสำเร็จจากการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่รวมไปถึงได้รับยอดการสั่งซื้อที่เป็นไปตามเป้าหมาย ทำให้แคนนอนมีความมั่นใจที่จะนำเสนอสุดยอดนวัตกรรมและเทคโนโลยีด้านการพิมพ์อย่างครบวงจรสู่ตลาดดิจิตอลในงาน PPI ในปีนี้ เพราะเชื่อมั่นในศักยภาพของกลุ่มผู้ประกอบการในเมืองไทย ที่เรียกได้ว่าเป็นฮับใหญ่ของตลาดสิ่งพิมพ์ในภาคพื้นเอเชียและมีโอกาสการเติบโตในอัตราค่อนข้างสูง ด้วยมูลค่าการส่งออกสิ่งพิมพ์ประมาณ 70,000 ล้านบาท ซึ่งปีนี้แคนนอนมีแนวทางการทำตลาดเชิงรุกในช่องทางกลุ่มธุรกิจ ด้วยการแสดงกลุ่มผลิตภัณฑ์ไอทีด้านการพิมพ์เต็มรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องพิมพ์ดิจิตอลในตระกูล imagePRESS ที่เหมาะกับการผลิตงานพิมพ์แบบพริ้นออนดีมานต์สำหรับธุรกิจการพิมพ์มืออาชีพหรือ เครื่องพิมพ์ดิจิตอลในตระกูล imageRUNNER ADVANCE สำหรับผู้ที่ต้องการมองหาช่องทางในการขยายและเพิ่มมูลค่าให้กับธุรกิจ พร้อมการนำเสนอพริ้นติ้ง โซลูชั่น ที่สมบูรณ์แบบเข้าใจง่ายและสามารถนำไปต่อยอดธุรกิจได้จริง รวมถึงความโดดเด่นด้านการพัฒนาเทคโนโลยีที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมซึ่งแคนนอนให้ความสำคัญมาโดยตลอด และเชื่อว่าองค์กรหลายๆ แห่งในปัจจุบันใช้เป็นเหตุผลประกอบในการตัดสินใจเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ โดยล่าสุดแคนนอนได้พัฒนาชิ้นส่วนประกอบภายนอกที่ผลิตจากพลาสติกชีวภาพมาใช้ประกอบเครื่องพิมพ์ระบบดิจิตอล โดยชิ้นส่วนดังกล่าวผลิตมาจากชิ้นส่วนที่ช่วยลดการใช้ทรัพยากรน้ำมัน ซึ่งสามารถลดปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ อีกทั้งยังมีคุณสมบัติทนต่อการลุกลามของไฟในระดับสูง ทำให้ผู้ใช้มั่นใจได้ว่าจะได้รับผลิตภัณฑ์ที่มีประสิทธิภาพและยังเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอีกด้วย” ทั้งนี้ภายในงาน แคนนอนได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ ซึ่งเป็นไฮไลท์เด่นของงานในครั้งนี้ imagePRESS C7010VP เครื่องพิมพ์ดิจิตอลสีประสิทธิภาพสูงเพื่อสร้างผลกำไรระดับมืออาชีพ อัดแน่นด้วยเทคโนโลยีเหนือชั้น อาทิ ความสามารถในการผลิตงานพิมพ์ความละเอียดสูงถึง 1,200 x 1,200 dpi (12bit) หนึ่งในช่วงสีที่กว้างที่สุดในบรรดาเครื่องพิมพ์ระบบดิจิตอลแบบ 4 สี ความเร็วการพิมพ์สูงสุดถึง 70 แผ่นต่อนาที พิมพ์งาน A4 คมชัดด้วยผงหมึก V-Toner ที่มีผงหมึกเล็กเพียง 5.5 ไมครอน ตัวเครื่องมาพร้อมกับความสามารถในการปล่อยกระดาษออกเมื่อกระดาษซ้อน และมีเทคโนโลยีการทำความร้อนแบบ Dual Fusing เพื่อ ความเร็วในการทำงานแบบเต็มอัตรา รองรับขนาดกระดาษ 13” x 19.2” ที่มีน้ำหนักตั้งแต่ 60 – 325 แกรม ให้สีที่สม่ำเสมอบนกระดาษหลากหลายประเภท และให้งานพิมพ์เทียบเท่ากับเครื่องออฟเซ็ต พร้อมมีอุปกรณ์เสริมสำหรับเรียงชุดเอกสาร นอกจากนี้ แคนนอนยังได้ยกทัพนวัตกรรมและเทคโนโลยีแบบครบวงจรมาให้ผู้ประกอบการได้สัมผัสและทดสอบความสามารถกันอย่างคับคั่ง ได้แก่ เครื่องพิมพ์ดิจิตอล (Production Graphic Art)· imageRUNNER ADVANCE 8105 / 8095 เครื่องพิมพ์ดิจิตอลขาว-ดำ ที่มีความโดดเด่นในเรื่องกำลังการผลิต สามารถจัดการงานพิมพ์จำนวนมากได้อย่างรวดเร็วทันใจและยังสามารถรองรับงานพิมพ์ได้หลากหลายประเภท · imagePRESS C1+ เครื่องพิมพ์ดิจิตอลที่เหมาะสำหรับการพิมพ์แบบวานิชในขั้นตอนเดียว ซึ่งช่วยสร้างความแตกต่างและโอกาสทางธุรกิจด้วยความสามารถในการพิมพ์งานหลากหลายรูปแบบ ซึ่งรวมไปถึงงานปรู๊ฟสีและงานพิมพ์ตามต้องการแบบสั่งพิเศษ ( Print On-Demand) · สำหรับธุรกิจและโรงพิมพ์ขนาดกลางและเล็ก แคนนอนขอแนะนำ imageRUNNER ADVANCE C9065 / C9075 PRO เครื่องพิมพ์ดิจิตอลที่มีศักยภาพมากกว่าขนาดของตัวเครื่อง เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการรองรับงานพิมพ์ปริมาณมาก ให้งานพิมพ์ที่มีสีสันคมชัด มาพร้อมฟังก์ชั่นและระบบการทำงานที่ใช้งานง่าย ช่วยลดต้นทุนการผลิตด้วยเทคโนโลยีที่ประหยัดพลังงาน อีกทั้งยังเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม Printing Solution ในส่วนของพริ้นติ้ง โซลูชั่น แคนนอนได้นำเสนอซอฟต์แวร์ Print Shop Mail และ Direct Smile สำหรับงานพิมพ์เฉพาะบุคคล (Personalized Printing) ที่มีข้อมูลเปลี่ยนแปลงไปตามฐานข้อมูล (Variable Data) ซึ่งประกอบไปด้วยภาพ ข้อความ หรือภาพกราฟฟิคต่าง ๆ โดยส่วนประกอบเหล่านี้จะปรากฏขึ้นตามรายละเอียดหรือเงื่อนไขที่ได้กำหนดไว้ เช่น จดหมายเวียนที่เปลี่ยนชื่อการจ่าหน้าซองเป็นชื่อของผู้รับแต่ละคน ในแง่ของผู้ผลิตสิ่งพิมพ์ ซอฟต์แวร์จะช่วยสร้างงานพิมพ์ที่เป็นเอกลักษณ์ ซึ่งสามารถสร้างแรงกระตุ้นและโดนใจผู้รับสาร ส่วนในแง่ของนักการตลาดที่ต้องการทำกิจกรรมพิเศษเพื่อส่งเสริมการขาย (Campaign) ซอฟต์แวร์จะช่วยสร้างงานพิมพ์ที่ตรงกับความต้องการของผู้รับและสามารถ สื่อสารข้อความไปยังกลุ่มเป้าหมายเฉพาะที่ต้องการให้รับสารโดยตรง ตัวอย่างเช่น ต้องการให้ส่วนลด 15% สำหรับลูกค้ากลุ่ม A แต่ให้ส่วนลด 50% สำหรับลูกค้ากลุ่ม B เป็นต้น เครื่องพิมพ์หน้ากว้าง (Large Format Printers) ในส่วนของเครื่องพิมพ์หน้ากว้าง (Large Format Printer) แคนนอนจัดแสดงผลิตภัณฑ์ 2 รุ่นคือ imagePROGRAF 8300(12สี) และ imagePROGRAF 8300S (8 สี) ผลิตภัณฑ์ทั้ง 2 รุ่นนี้มีคุณสมบัติเฉพาะที่ถูกออกแบบสำหรับธุรกิจการพิมพ์ระดับ อสเอ็มอีจนถึงระดับประเทศ โดยสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างสูงสุด ทั้งเรื่องการลดต้นทุนการผลิต และการคงคุณภาพงานพิมพ์ให้เหมือนเดิม · imagePROGRAF 8300(12สี) มีคุณสมบัติระบบหมึก Lucia EX pigment ทำให้งานพิมพ์มีขอบเขตของสีที่กว้างขึ้น กันน้ำและทนต่อรอยขีดข่วน จึงเหมาะสำหรับงานพิมพ์ภาพถ่าย, ดิจิตอลปรู๊ฟ (Packaging, Offset) โดยเครื่องพิมพ์หน้ากว้าง imagePROGRAF 8300 ยังได้รับรางวัลการันตีประสิทธิภาพผลลัพธ์ของชิ้นงานจากองค์กร European Digital Press Association (EDP) ในสาขาผลิตภัณฑ์ยอดเยี่ยมแห่งปีในสาขาเครื่องพิมพ์ภาพประจำปี 2011 (Best Photographic Printer of the Year 2011) อีกด้วย · imagePROGRAF 8300S (8 สี) มีจุดเด่นเรื่องความเร็วในการพิมพ์ ซึ่งเหมาะสำหรับงานพิมพ์โปสเตอร์และดิจิตอลปรู๊ฟ ( Offset, Newspaper) ทั้งนี้เครื่องพิมพ์หน้ากว้างทั้ง 2 รุ่นสามารถทำงานร่วมกับ Software RIP เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานได้อย่างดีเยี่ยม “แคนนอนมุ่งหวังว่างาน Pack Print International 2011 จะดึงดูดความสนใจของกลุ่มนักธุรกิจหรือนักลงทุนในอุตสาหกรรมการพิมพ์โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มของอุตสาหกรรมการพิมพ์ในระบบดิจิตอล เนื่องจากเป็นงานที่มีศักยภาพสูงและเป็นเวทีที่เปิดโอกาสให้ผู้ซื้อและผู้ขายได้พบปะกันอันจะก่อให้เกิดการเจรจาทางการค้าและการซื้อขายอย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งจะช่วยสร้างรวมถึงเปิดตลาดและขยายฐานกลุ่มลูกค้าใหม่ ๆ อีกทั้งยังถือเป็นพื้นที่สำหรับแนะนำ และเปิดตัวผลิตภัณฑ์และนวัตกรรมใหม่ ๆ ซึ่งในปีนี้แคนนอนเองก็ได้เตรียมทั้งผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยีที่จะนำเสนอแก่ผู้เข้าชมงานมากมาย และเชื่อมั่นว่าจะสามารถสร้างความสนใจและเพิ่มมูลค่าพร้อมทั้งโอกาสทางด้านธุรกิจให้กับนักธุรกิจหรือนักลงทุนได้เป็นอย่างดี” ร้อยเอกสุนทรกล่าวปิดท้าย

F&F แบรนด์แฟชั่นชั้นนำจากอังกฤษ เปิดรันเวย์โชว์คอลเลคชั่นออทัม/วินเทอร์ 2011 รับลมหนาว

F&F อินเตอร์เนชั่นแนลแฟชั่นแบรนด์ชั้นนำจากอังกฤษ โดดเด่นด้วยคุณภาพที่ผสานรวมไว้ซึ่งแฟชั่นที่มีความหลากหลายและสไตล์การออกแบบที่นำสมัย จัดแฟชั่นโชว์เปิดตัวคอลเลคชั่นออทัม/วินเทอร์ 2011 โดยมีเหล่าดารานักแสดงแถวหน้าของเมืองไทยร่วมเดินแคทวอล์คกันอย่างคับคั่งที่ห้องชฎา บอลรูม โรงแรมสยาม เคมปินสกี้ หลังจากประสบความสำเร็จอย่างงดงาม โดยเข้าไปเป็นแบรนด์ในใจของเหล่าแฟชั่นนิสต้าในเวลาเพียงปีเศษ F&F อินเตอร์เนชั่นแนลแฟชั่นแบรนด์ชั้นนำจากอังกฤษ กลับมาพร้อมกับเสื้อผ้าคอลเลคชั่นใหม่ออทัม/วินเทอร์ 2011 ให้เหล่าหนุ่มสาวผู้รักแฟชั่นได้อัพเดทเทรนด์ใหม่ก่อนใคร โดยซีซั่นนี้ F&F นำเสนอแฟชั่นคลาสสิคร่วมสมัยด้วยเสื้อผ้าหลากหลายสไตล์ เพื่อเปลี่ยนลุควันพักผ่อนสบายๆ หรือวันทำงาน ให้สนุกสนานและมีชีวิตชีวา โดยสามารถตอบทุกโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ได้อย่างลงตัว จนเป็นที่ยอมรับของเหล่าบรรณาธิการแฟชั่นที่ต่างยกให้ F&F เป็นแบรนด์ที่ “ทันสมัย สวมใส่ได้จริง ในราคาที่คุ้มค่า” คอลเลคชั่นออทัม/วินเทอร์ 2011นี้ ได้รับแรงบันดาลใจจากวรรณกรรมสุดคลาสสิค ที่ถูกถ่ายทอดเป็นภาพยนตร์ชื่อดัง “Black Swan” สะท้อนถึงเสน่ห์อันลึกลับของหญิงสาว ซึ่งไฮไลท์สำคัญของคอลเลคชั่นนี้ ได้นางเอกสาวสุดฮอตอย่าง ชมพู่-อารายา เอ ฮาร์เก็ต มาร่วมโชว์ในชุดราตรีพลิ้วไหวสีดำขลับ หรูหราด้วยการประดับขนนก ขับเสน่ห์ความเย้ายวนด้วยการจับพลีท ควงคู่พระเอกหนุ่มในจอ โฬม-พัชฏะ นามปาน ประชันคู่หวานนอกจอ แพนเค้ก-เขมนิจ จามิกรณ์ และ เป้-อารักษ์ อมรศุภศิริ โดยแพนเค้ก มาในลุคสาวใส “Country Life” กับเดรสเนื้อผ้าเบาสบายเพิ่มดีไซน์ด้วยลายดอกไม้สีหวาน ส่วนเป้ –อารักษ์ มาร่วมแคทวอล์คในชุด “Aviation” สิงห์นักบิดมาดเท่ห์ ด้านหนุ่มเนื้อหอม โป๊ป-ธนวรรธน์ วรรธนะภูติ มาในลุคหล่อเนี้ยบกับผ้าทวีตสไตล์ผู้ดีอังกฤษในคอลเลคชั่น “Modern Heritage” ส่วน เกรซ-กาญจน์เกล้า ด้วยเศียรเกล้า สาวหวานอมเปรี้ยวมาพร้อมกับลุคสาวมั่น สมาร์ท เรียบหรู ในสไตล์มินิมอลกับคอนเซ็ปต์ “Greenwich” นอกจากนี้ยังมีเหล่าคนดังระดับแถวหน้ามาร่วมโชว์อย่าง อ๋อม-อรรคพันธ์ นะมาตร์ พระเอกหนุ่มอารมณ์ดีที่มาเดินแบบในลุคสบายๆ ในสไตล์ “Homestead” และปิดท้ายด้วยสาวสุดเซ็กซี่ เป้ย-ปานวาด เหมมณี มาอวดทรวดทรงกะทัดรัดในแฟชั่นชุดชั้นในประดับขนนก ตอกย้ำความล้ำสมัยของแบรนด์ F&F ด้วยแอพพลิเคชั่นล่าสุดที่เหล่าแฟชั่นนิสต้าสามารถดาวน์โหลดลงบนไอโฟนและไอแพด เปรียนเสมือนมีสไตล์ลิสส่วนตัวที่จะคอยอัพเดททุกคอลเลคชั่นของ F&F แบบชิดติดขอบรันเวย์ ทั้งยังสามารถทดลองเลือกชุดมิกซ์แอนด์แมทช์สวมใส่ได้เสมือนจริงกับโปรแกรม Virtual Fitting ที่พร้อมถ่ายภาพแชร์ลงโซเชี่ยลเน็ตเวิร์คให้เหล่าสาวก F&F ได้สนุกสนานกันอีกด้วย ซึ่งนับเป็นเทคโนโลยีใหม่ของวงการแฟชั่นที่น่าตื่นตาตาตื่นใจ นอกจากนั้นยังสามารถร่วมชมแฟชั่นโชว์ได้แบบเรียลไทม์โดยแฟชั่นโชว์ครั้งนี้มีการถ่ายทอดสดผ่านแอพพลิเคชั่นไอโฟนและไอแพด อีกทั้งในเว็ปไซต์ www.fandfclothing.com ที่ให้คุณได้นั่งชมแฟชั่นโชว์แบบเอ็กซ์คลูซีฟพบกับคอลเลคชั่นออทัม/วินเทอร์ 2011 ที่จะออกมาอวดโฉมให้เหล่าแฟชั่นนิสต้าได้เลือกช้อปกัน ในเดือนกันยายน 2554 นี้ เอ็กซ์คลูซีฟที่เทสโก้ โลตัสเท่านั้น หรือติดตามความเคลื่อนไหว และอัพเดทเทรนด์แฟชั่นกันได้ตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมงผ่านทางเว็บไซต์ www.fandfclothing.com หรือwww.facebook/FandFThailand

“DataDotDNA” .. บุกตลาดครั้งแรกในเมืองไทย “ดอท”ยับยั้งการโจรกรรมรถยนต์ - ทรัพย์สินมีค่า

“บ.ออโต้ ดีเอ็นเอ” จับมือ ดาต้าดอท(ไทยแลนด์) สบช่องว่างตลาดในเมืองไทย นำเข้านวัตกรรมจากประเทศออสเตรเลีย “DataDotDNA” สุดยอดเทคโนโลยีป้องปรามการโจรกรรมทรัพย์สินมีค่า และรถยนต์ ซึ่งผลิตจากสารโพลิเมอร์ กำหนดรหัสเป็นตัวอักษรหรือตัวเลข ด้วยการพ่น “ดอท” เพื่อพิสูจน์ระบุความเป็นเจ้าของว่าเป็นใคร หากเกิดการสูญหาย เล็งเจาะกลุ่มเป้าหมายบริษัทประกันภัย และดีลเลอร์รถยนต์ พร้อมอัดงบช่วงลอนซ์โปรดักส์ 5-10 ล้านบาท มั่นใจปีหน้ายอดขายทะลุ 500 ล้านบาท นายรนนท์ พงศ์ศาจารุ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ออโต้ ดีเอ็นเอ จำกัด ผู้แทนจำหน่ายเทคโนโลยีบ่งชี้ลักษณะเฉพาะ หรือ “DataDotDNA” ที่ช่วยป้องกันและป้องปรามการโจรกรรมรถยนต์ – ทรัพย์สินมีค่า จากออสเตรเลีย เปิดเผยว่า ปัจจุบันปัญหาการโจรกรรมรถยนต์มีมากขึ้น สร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ ซึ่งหน่วยงานที่ได้รับผลกระทบโดยตรง คือ บริษัทประกันภัย ซึ่งต้องชดเชยค่าเสียหายให้กับเจ้าของทรัพย์สินในอัตราที่สูง นอกจากนั้น ในส่วนการดำเนินคดีของภาครัฐก็ทำได้ยาก เนื่องจากรถยนต์ที่ถูกโจรกรรม หรือนำไปก่ออาชญากรรมถูกปลอมแปลงตัวเครื่อง ,เอกสาร หรือการขูดทำลายเลขตัวถังประจำรถยนต์ หรือหมายเลขประจำเครื่องยนต์ บริษัทฯ ได้ตระหนักถึงปัญหาดังกล่าว จึงนำเทคโนโลยี “DataDotDNA” มาปิดช่องว่างนี้ สำหรับ DataDotDNA ผลิตขึ้นโดย บริษัท ดาต้าดอท เทคโนโลยี จำกัด ประเทศออสเตรเลีย มีลักษณะเป็น “ดอท” หรือ “จุด” เล็กขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางเพียง 1 มม. ผลิตด้วยสารโพลิเมอร์ ที่กำหนดรหัสเป็นอักษรและตัวเลข หลายบรรทัด ซึ่งหนึ่งรหัสจะใช้สำหรับรถยนต์หนึ่งคัน หรือทรัพย์สินมีค่าหนึ่งชิ้นเท่านั้น ทั้งนี้ในการติดตั้ง DataDotDNA จะถูกนำมาผสมกับกาวที่มีความคงทนพิเศษ ผสมสารเรืองแสง เพื่อความสะดวกในการใช้แสงยูวี หรือ Black light ในการตรวจสอบหา และในกรณีรถยนต์จะพ่นตามซอกต่างๆ ภายในและภายนอกรถยนต์ อาทิ บริเวณเครื่องยนต์,ใต้ท้องรถ,ใต้ฝากระโปรงหน้า หลัง,ล้อ,ประตู,กันชนด้านใน,สปอยเลอร์ด้านล่าง ทั้งหมด 48 ตำแหน่ง 7,000 กว่าดอท ในช่วงเปิดตัวผลิตภัณฑ์ บริษัทฯ ได้ตั้งราคาแนะนำ 9,990 บาท จากราคาขายปกติ 15,000 บาท ขณะที่ส่วนทรัพย์สินมีค่าอื่นๆ อาทิเช่น โน้ตบุคส์,มือถือ หรือทรัพย์ที่มีราคาสูง ฯลฯ สามารถติดตั้งในส่วนต่างๆ ของทรัพย์สินได้ตามต้องการ มีประมาณ 500 ดอท จำหน่ายในราคา 4,000-5,000 บาท ซึ่งการพ่นดอท ได้รับการทดสอบและยืนยันจากกรมตำรวจของประเทศออสเตรเลียแล้วว่า มีความคงทนถาวรถึง 20 ปี ภายใต้การทดสอบ เช่น การล้างด้วยแรงอัดฉีดอย่างแรง ผ่านอุณหภูมิสูงสุด ต่ำสุด หรือแรงระเบิด DataDotDNA ยังคงสามารถอ่านรหัสได้ “บริษัทฯ มีความตั้งใจมากในการนำเทคโนโลยี DataDotDNA มาใช้ในเมืองไทย และช่วงเปิดตัวผลิตภัณฑ์ในช่วงไตรมาสสุดท้ายปีนี้ เราได้ใช้งบประมาณ 5 – 10 ล้านบาท เน้นประชาสัมพันธ์ผ่านทุกสื่อ เพื่อสร้างความรู้ ความเข้าใจกับกลุ่มเป้าหมาย คือ ประชาชน บริษัทประกันภัย ตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ นอกจากนี้ ยังมีการจัดสัมมนา Training ถึงลักษณะการใช้งานเทคโนโลยีให้กับตำรวจอีกด้วย ซึ่งในปีหน้าเรามั่นใจกระแสตอบรับจากลูกค้า 5-10 เปอร์เซ็นต์ (รถยนต์จดทะเบียนใหม่) หรือประมาณ 500 ล้านบาท และเราได้เตรียมงบไว้ประมาณ 10 เปอร์เซ็นต์ หรือ 50 ล้านบาท เน้นทำกิจกรรมการตลาดสร้างความรับรู้ ความเข้าใจผลิตภัณฑ์ เช่น การจัดโรดโชว์กับดีลเลอร์รถยนต์ ,การโฆษณาและประชาสัมพันธ์ผ่านช่องทางทั้งโทรทัศน์ วิทยุ และสื่อสิ่งพิมพ์ ตลอดจนการออกบูธในงานอีเว้นต์ต่างๆ ทั้งในกรุงเทพฯ ปริมณฑล และภูมิภาคต่างๆ ในปีหน้าอีกด้วย” นายรนนท์ กล่าว ด้าน มร. ไอเว่น ยัพ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ดาต้าดอท(ไทยแลนด์) จำกัด ผู้นำเข้าลิขสิทธิ์เทคโนโลยี DataDotDNA ในประเทศไทย กล่าวว่า ปัจจุบันมีการใช้เทคโนโลยี DataDotDNA อย่างแพร่หลายในประเทศต่างๆ อาทิ ออสเตรเลีย,สหรัฐอเมริกา,อิตาลี,ชิลี,อังกฤษ,แม็กซิโก,รัสเซีย เป็นต้นและใน 27 ประเทศในสหภาพยุโรป กำลังพิจารณา เพื่อกำหนดใช้เป็นกฎหมาย ส่วน 3 ประเทศที่บังคับใช้ DataDotDNA เป็นกฎหมายแล้ว คือ ไต้หวัน,แอฟริกาใต้และนิวซีแลนด์ ส่วนภูมิภาคอาเซียนกำลังเริ่มใช้ที่ประเทศอินโดนีเซีย,มาเลเซีย และประเทศไทย ทั้งนี้ รถยนต์ยี่ห้อ Subaru WRX ในประเทศออสเตรเลียเป็นรถยนต์ที่มีการถูกโจรกรรมมากที่สุด หลังจากมีการติดตั้งเทคโนโลยี DataDotDNA กับรถยนต์ยี่ห้อนี่แล้ว พบว่า อัตราการสูญหายลดลงถึง 92% ขณะที่แอฟริกาใต้ อัตรารถยนต์ที่สูญหาย ลดลงกว่า 50% เช่นกัน ขณะที่ นายธนสรรค์ พัชรภิญโญพงศ์ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท ดาต้าดอท (ไทยแลนด์) จำกัด ยังได้กล่าวเสริมอีกว่า เทคโนโลยี DataDotDNA เหมาะกับประเทศไทยมาก เนื่องจากประเทศไทยเป็นฐานการผลิตรถยนต์ใหญ่ที่สุดในเอเชีย และมีรถยนต์ที่จดทะเบียนใหม่ปีละประมาณเกือบ 1 ล้านคัน ซึ่งคดีรถยนต์สูญหายและถูกโจรกรรม สร้างความเสียหายให้ประเทศไทยถึงปีละ 3,000 กว่าล้านบาท และมีเพียง 10% ที่มีการสืบหาจนเจอรถยนต์ และที่ไม่ทราบว่าใครเป็นเจ้าของก็มีมาก ทั้งนี้การใช้เทคโนโลยี DataDotDNA จะประสบผลสำเร็จต้องอาศัยความร่วมมือจาก 4 ส่วน คือ บริษัทประกันภัย ,หน่วยงานบังคับใช้กฎหมาย(ตำรวจ) ,ตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ และประชาชน ที่ต้องให้ความรู้อย่างทั่วถึง ซึ่งทั้ง 4 ส่วนต้องร่วมมือกันเพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ของการใช้เทคโนโลยีดังกล่าว และเราเชื่อว่าผู้ที่ได้ประโยชน์สูงสุด ก็คือ ประชาชน ทั้งในแง่ของความปลอดภัยทั้งทรัพย์สิน และชีวิต สำหรับตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ เรามองว่าเทคโนโลยีนี้เป็นการเพิ่มความปลอดภัยและสร้างความเป็นเอกลัษณ์ (Identity) ให้กับรถยนต์ ซึ่งเป็นที่ดึงดูดใจลูกค้ามากขึ้นด้ว “บริษัทประกันภัย และตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ ตื่นเต้นกับนวัตกรรมใหม่นี้มาก โดยมีความคิดเห็นว่า DataDotDNA จะสามารถช่วยลดปัญหาการโจรกรรม การก่ออาชญากรรมลงได้ ซึ่งขณะนี้มีบริษัทประกันภัยที่ให้การตอบรับแล้ว อาทิ เมืองไทยประกันภัย, มิตรแท้ประกันภัย ส่วนตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ที่ให้การตอบรับ คือ เบนซ์ ราชครู, โตโยต้า พารากอน, โตโยต้า บางกอก, นิสสัน SMT เป็นต้น” นายธนสรรค์ กล่าวในตอนท้าย

เดนซึ ดีไซน์ นินจา จัดงานแถลงข่าวเปิดตัว “Dentsu Design + Ninja”

บริษัท เดนซึ ดีไซน์ นินจา จำกัด ก่อตั้งขึ้นเมื่อ เดือน กันยายน ปี ค.ศ. 2010 โดยทีมงานครีเอทีฟจากสาขาคันไซ ปัจจุบันมี นายทาดาชิ อิชิอิ เป็นประธานกรรมการ สำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ ณ กรุงโตเกียว ทุนจดทะเบียน รวม 58,697.1 ล้านเยน ได้คิดค้นผลงานดีไซน์ที่มีลักษณะเฉพาะหลากหลายทั้งด้านการสร้างอารมณ์ขัน ความเรียบง่ายในการโฆษณาจึงมีการบอกต่อกันไปเป็นวงกว้าง เช่นเดียวกับฝ่าย Design ที่ได้มีการคิดค้นรูปแบบตัวอักษรที่มีลักษณะฉพาะตัวไม่เหมือนใคร ด้วยจุดแข็งของทุกๆฝ่ายที่มีอยู่สามารถขับเคลื่อนให้ Dentsu เติบโตได้ในธุรกิจโฆษณาอย่างดี 1 ปีหลังการเปิดตัวที่ญี่ปุ่นจนประสบความสำเร็จ ก็ได้มีการกระจายตัวออกไปยังภูมิภาคเอเชีย เริ่มที่กรุงเทพฯ เป็นประเทศแรก ในนามบริษัทที่มีชื่อว่า Dentsu Plus Design Ninja ซึ่งการดำเนินกิจการเกี่ยวข้องสัมพันธ์กันกับ Dentsu Plus ภายใต้การดูแลของ Dentsu Asia Network ประเทศไทย ดังนั้นทางบริษัท เดนซึ ดีไซน์ นินจา จำกัด(กรุงโตเกียว) จึงขอเรียนเชิญท่านสื่อมวลชนร่วมเป็นเกียรติใน “งานแถลงข่าวเปิดตัวบริษัท Dentsu Design + NinJa” ประเทศไทย อย่างเป็นทางการ ในวันพฤหัสบดี ที่ 1 กันยายน 2554 เวลา 13.00 – 15.20 น. ณ ห้องอินฟินนิตี้ โรงแรมพูลแมน บางกอก คิงพาวเวอร์ ซอยรางน้ำ

สำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ จัดประชุมระหว่างประเทศ หวังสร้างเครือข่ายด้านความปลอดภัยทางนิวเคลียร์และรังสีในระดับภูมิภาค

ดร.ปลอดประสพ สุรัสวดี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เป็นประธานเปิดการประชุมระหว่างประเทศว่าด้วยความปลอดภัย ความมั่นคงและการพิทักษ์วัสดุนิวเคลียร์ในการใช้พลังงานปรมาณูทางสันติ (INTERNATIONAL CONFERNCE ON SAFETY, SECURITY, AND SAFEGUARDS IN NUCLEAR ENERGY) โดยมีกลุ่มประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และประเทศอื่น ๆ กว่า 10 ประเทศเข้าร่วมประชุม ณ โรงแรมพูลแมน คิงส์พาวเวอร์ กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 1 กันยายน 2554 ดร.ปลอดประสพ สุรัสวดี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ กล่าวว่า สำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เป็นหน่วยงานที่มีภารกิจด้านการกำกับ ดูแลความปลอดภัยทางนิวเคลียร์และรังสีของประเทศไทย ตั้งแต่ขออนุญาตครอบครองหรือใช้สารกัมมันตรังสีและหรือวัสดุนิวเคลียร์ของสถานปฏิบัติการทางนิวเคลียร์และรังสี รวมทั้งการตรวจสอบสถานปฏิบัติการฯ ในระหว่างที่ได้รับใบอนุญาต เพื่อให้การดำเนินงานของสถานปฏิบัติการฯ เป็นไปอย่างปลอดภัย ซึ่งในกระบวนการกำกับดูแลดังกล่าวจำเป็นต้องมีทรัพยากรบุคคลที่มีความรู้และความสามารถในการวิเคราะห์ ประเมินปัญหาหรือคาดการณ์เหตุขัดข้องต่าง ๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นต่อความปลอดภัยในสถานปฏิบัติการดังกล่าว ดังนั้น การแลกเปลี่ยนประสบการณ์และความรู้ขององค์กรหรือหน่วยงานการกำกับดูแลความปลอดภัยทางนิวเคลียร์และรังสี จึงเป็นสิ่งสำคัญและจำเป็นในการพัฒนาต่อยอดเทคโนโลยีด้านความปลอดภัย นิวเคลียร์ที่เรากำลังพูดถึงอยู่นี้ เป็นนิวเคลียร์ที่เป็นประโยชน์ เป็นความรู้ทางด้านวิทยาศาสตร์ที่นำเอามาใช้ให้เป็นประโยชน์ ในด้านการรักษาคุณภาพอาหาร หรือทำให้วัสดุมีความแข็งแรงทนทานกว่าเดิม รวมถึงการวิจัยที่ทำให้เราล่วงรู้ไปถึงที่ลึกๆ ที่ตาหรือเครื่องมืออื่นๆ เข้าไปไม่ได้ เพราะฉะนั้น นิวเคลียร์จึงเป็นเครื่องมือทางวิทยาศาสตร์ที่สำคัญมาก เพียงแต่ว่าเวลานำมาใช้บางครั้ง เกิดความพลาดพลั้ง เช่นที่เกิดขึ้นกับโรงไฟฟ้าในรัสเชียและญี่ปุ่น คนก็ยิ่งกลัวใหญ่ ฉะนั้นในฐานะที่ผมเป็นนักวิทยาศาสตร์โดยพื้น แต่ในฐานะนักการเมืองก็อยากเรียนประชาชนว่าอย่าได้กลัวเกินกว่าเหตุ อย่าได้ตระหนกตกใจ เหตุที่เกิดขึ้นเป็น 1 ในล้าน ซึ่งไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น แต่ถ้าความกลัวมันเกิดที่คนไทยมากเกินไป และมีบางคนจงใจยุให้กลัว ประเทศไทยจะทิ้งโอกาสความรู้ด้านวิทยาศาสตร์นิวเคลียร์ ซึ่งจะทำให้ประเทศไทยล้าหลัง ทำให้ไทยเสียโอกาสในการลงทุน การรักษาพยาบาล ฉะนั้นขอได้โปรดไว้ใจในวิทยาศาสตร์ ไว้ใจในนักวิทยาศาสตร์ ไว้ใจในรัฐบาลว่าเราจะไม่หละหลวม และปล่อยให้ของดีๆ กลายเป็นของร้าย การประชุมวันนี้ เป็นตัวอย่างว่าประเทศในโลก โดยเฉพาะในแถบเอเชียตั้งใจพยายามที่จะทำให้นิวเคลียร์ปลอดภัยที่สุดเพื่อนำมาใช้ ด้าน ศ.ดร.ชัยวัฒน์ ต่อสกุลแก้ว เลขาธิการสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ กล่าวว่า สำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ ในฐานะหน่วยงานด้านการกำกับดูแลการใช้พลังงานปรมาณูในทางสันติ ได้เล็งเห็นความสำคัญของการแลกเปลี่ยนความรู้ดังกล่าว จึงจัดประชุมระหว่างประเทศว่าด้วยความปลอดกัย ความมั่นคงปลอดภัยและการพิทักษ์วัสดุนิวเคลียร์ในการใช้พลังงานปรมาณูทาง สันติ ขึ้นระหว่างวันที่ 1-2 กันยายน 2554 ณ โรงแรมพูลแมน คิงส์พาวเวอร์ กรุงเทพฯ โดยเชิญหน่วยงานด้านการกำกับดูแลความปลอดภัยทางนิวเคลียร์และรังสีทั้งในและ ต่างประเทศ รวมทั้งทบวงการพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ (IAEA) และประเทศที่มีการพัฒนาการกำกับดูแลความปลอดภัยทางนิวเคลียร์และรังสี โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลและส่งเสริมกิจกรรมด้านความปลอดภัย ทางนิวเคลียร์และรังสีที่ครอบคลุมทั้งความปลอดภัยทางนิวเคลียร์ ความมั่นคงปลอดภัยและการพิทักษ์วัสดุนิวเคลียร์ และเป็นการสร้างเครือข่ายระดับภูมิภาคในด้านดังกล่าว การจัดประชุมวิชาการระหว่างประเทศครั้งนี้ ถือเป็นโครงการนำร่องที่ประเทศไทยต้องการแสดงจุดยืนและเจตนารมณ์ในการใช้ ประโยชน์จากนิวเคลียร์และรังสีในทางสันติ พร้อมทั้งนำประเทศเพื่อนบ้านในแถบอาเซียนเข้าร่วมเป็นเครือข่าย เพื่อร่วมกันพัฒนาการกำกับดูแลความปลอดภัยให้ประชาคมโลกและประชาชนในแถบอา เซียนมั่นใจว่า การใช้ประโยชน์จากนิวเคลียร์และรังสีในแถบประเทศอาเซียนสามารถตอบสนองความ ต้องการ และสามารถยกระดับความเป็นอยู่ของประชาชนได้อย่างปลอดภัย นอกจากนี้ ยังเป็นการริเริ่มการสร้างเครือข่ายด้านการกำกับดูแลความปลอดภัยในการใช้ ประโยชน์จากพลังงานปรมาณู ซึ่งจะเป็นเครื่องมือในการแลกเปลี่ยนข้อมูล ประสบการณ์ และประสานความร่วมมือด้านความปลอดภัยทางนิวเคลียร์และรังสีในอนาคต