วันพุธที่ 21 มีนาคม พ.ศ. 2555

ซูซูกิอวดโฉม “All New Suzuki Swift” อีโคคาร์ใหม่ล่าสุดของไทย

(กรุงเทพฯ 21 มีนาคม 2555) บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ประกาศความพร้อม ชู “All New Suzuki Swift” เติมเต็มสมรรถนะและความปลอดภัยเหนือชั้น ที่มาพร้อมกับดีไซน์สุดโฉบเฉี่ยวปราดเปรียว เปิดตัวอย่างเป็นทางการในประเทศไทย วันที่ 21 มีนาคม พร้อมจับมือดีลเลอร์ทุกแห่งทั่วประเทศ ได้ฤกษ์เปิดขาย 22 มีนาคม นี้
มร. ทาคายูคิ ซูกิยามา กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า  ซูซูกิได้พัฒนา ซูซูกิ สวิฟท์ ให้เป็นรถกลยุทธ ในกลุ่มคอมแพคคาร์แฮชแบค (World Strategic Compact Hatchback Model) นวัตกรรมระดับโลก ที่มียอดจำหน่ายกว่า 2 ล้านคัน ในกว่า 120 ประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุโรป อินเดีย และจีน นับตั้งแต่ซูซูกิเปิดตัวรถรุ่นนี้ในประเทศญี่ปุ่นเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2547
ซูซูกิได้เริ่มเปิดตัวทำตลาด ซูซูกิ สวิฟท์ ในประเทศไทย ตั้งแต่เดือนธันวาคม 2552 ซึ่ง ซูซูกิ สวิฟท์ ได้สร้างชื่อและเรียกเสียงตอบรับจากตลาดเป็นอย่างดี ด้วยสมรรถนะที่ได้รับการยอมรับในระดับโลก รวมไปถึงการออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ดูสปอร์ต ขนาดกะทัดรัดเหมาะกับการใช้งานจริง และความสะดวกสบายที่ผู้ขับขี่จะได้รับตลอดการเดินทาง   มร. นาโอยูกิ ทาเคอุจิ ผู้ดูแลสายการผลิต และหัวหน้า วิศวกร บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด ประเทศญี่ปุ่น กล่าวว่า  “All New Suzuki Swift” ที่เปิดตัวใหม่ในครั้งนี้ ยังคงไว้ซึ่งรูปโฉมอันเป็นเอกลักษณ์ที่ทุกคนยังคงจดจำได้เสมอ  และได้รับการออกแบบให้มีความโฉบเฉี่ยว ผสานกับเส้นสายการออกแบบที่ไม่ซ้ำใคร และยังให้ความรู้สึกมั่นคงในการขับขี่อีกด้วย  นอกจากนี้ ซูซูกิยังได้พัฒนาให้รถมีน้ำหนักที่เบาลง แต่มีตัวถังและโครงสร้างใหม่ที่แข็งแรงขึ้น เครื่องยนต์ใหม่มาพร้อมกับระบบวาล์วแปรผันทั้งไอดีและไอเสีย  ระบบเกียร์ CVT ใหม่ ที่มาพร้อมกับระบบ Sub-transmission  ตอกย้ำความเป็น Suzuki Swift ที่ให้ความรื่นรมณ์ทุกครั้งที่ได้เห็นและขับขี่
นอกจากนี้ All New Suzuki Swift ยังผ่านคุณสมบัติตามมาตรฐานอีโคคาร์ ไม่ว่าจะเป็น ด้านการประหยัดพลังงาน มีอัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ยน้อยกว่า 5 ลิตร/100 กม. (หรือประหยัดน้ำมันเฉลี่ยมากกว่า 20 กม./ลิตร) ตามมาตรฐานทางเทคนิค UNECE Reg. 101, Rev.1 Combine Mode, ด้านสิ่งแวดล้อม ผ่านมาตรฐานมลพิษระดับยูโร 4 ตามข้อกำหนดทางเทคนิค UNECE Reg. 83, Rev.2 (2005), และมีปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่ปล่อยจากท่อไอเสียไม่เกิน 120 กรัม/กม. ตามมาตรฐานทางเทคนิค UNECE Reg. 101, Rev.1, ด้านมาตรฐานความปลอดภัยการชนด้านหน้า มีคุณสมบัติตามมาตรฐานการทดสอบแรงกระแทกด้านหน้า ตามข้อกำหนดทางเทคนิค UNECE Reg. 94, Rev.0 และมีคุณสมบัติตามมาตรฐานการทดสอบแรงกระแทกด้านข้าง ตามข้อกำหนดทางเทคนิค UNECE Reg. 95, Rev.0
มร. ซูกิยามา กล่าวเสริมว่า  ซูซูกิ ได้เริ่มเดินหน้าผลิตรถรุ่นนี้ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2555 ที่ผ่านมา ณ โรงงานผลิตแห่งใหม่ล่าสุดในจังหวัดระยอง โดยวางเป้ายอดจำหน่ายที่ 10,000 คัน ภายในปี 2555

ไม่มีความคิดเห็น: