เบทาโกร ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมการผลิต เนื้อหมูเนื้อไก่ซูเปอร์อนามัยปลอดภัยจากสารเคมีและยาปฎิชีวนะ (Super Hygienic) ด้วยเทคนิคระบบการจัดการพิเศษ ระบบการเลี้ยงสุกรด้วยฟาร์มปิดปลอดเชื้อมาตรฐานสูงสุดแห่งแรกและแห่งเดียวในประเทศไทยและอาเซียน ภายใต้แบรนด์ เอส-เพียว (S-Pure) เจาะใจไลฟ์สไตล์คนเมือง ผู้รักสุขภาพและมีรสนิยมในการใช้ชีวิต ทุ่มงบกว่า 30 ล้านบาทปรับปรุงภาพลักษณ์ผลิตภัณฑ์ และเพิ่มช่องทางใหมในการจำหน่าย ให้ตรงกับกลุ่มพรีเมี่ยมไลฟ์สไตล์มากยิ่งขึ้น
กรุงเทพฯ 4 ธันวาคม 2550 เครือเบทาโกร โดย นายวนัส แต้ไพสิฐพงษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่เครือเบทาโกร และนายวสิษฐ แต้ไพสิฐพงษ์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานปฏิบัติการ กลุ่มธุรกิจเครือเบทาโกร จัดงานแถลงข่าวและเปิดตัว เนื้อหมู เนื้อไก่ซูเปอร์อนามัยปลอดภัยจากสารเคมีและยาปฎิชีวนะคุณภาพเยี่ยมของ เครือเบทาโกร พร้อมกับนำเสนอภาพลักษณ์ใหม่ของ S-Pure ด้วยบรรจุภัณฑ์ใหม่ที่ดูทันสมัยและเป็นสากลมากขึ้น รวมทั้งปรับปรุงในส่วนสื่อโฆษณา ณ จุดขายให้สอดคล้องกับภาพลักษณ์ใหม่ ที่ดูเป็นคนทันสมัยมีรสนิยมในการใช้ชีวิต โดยในการเปิดภาพลักษณ์ใหม่ครั้งนี้ ได้จัดกิจกรรมสื่อสารภาพลักษณ์ตราสินค้า ผ่านบุคลิกของผู้มีชื่อเสียงในด้านโภชนาการ คือคุณหมึกแดง หม่อมหลวง ศิริเฉลิม สวัสดิวัตน์ ที่ปรึกษาเครือเบทาโกร พร้อมทั้งเหล่าเซเลบบริตี้ ชื่อดัง คือ คุณเขมนิจ จามิกร หรือแพนเค้ก และครอบครัว ม.ร.ว แม้นนฤมาศ ยุคล วาชินี ไกรฤกษ์ ร.ท.วันทิตา ลิ่วเฉลิมวงศ์ นวลพรรณ โอสถานนท์ อัตชิลา วัชรพล นนทิวัช ประภานนท์ มาริษา มหาวงค์ตระกูล ศัลย์ อิทธิสุขนันท์ พัฒนพงษ์ และ ปรียามล ธนวิสุทธิ์ มาร่วมถ่ายทอดประสบการณ์ และการใช้ชีวิตแบบ S-Pure lifestyle พร้อมทั้งแนะนำวิธีปรุงอาหารจากเนื้อหมูเนื้อไก่ซูเปอร์อนามัยปลอดภัยจากสารเคมีและยาปฎิชีวนะ เพื่อให้มีสุขภาพดีแบบหนุ่มสาว นายวนัส แต้ไพสิฐพงษ์ กล่าวว่า “ด้วยประสบการณ์อันยาวนานกว่า 40 ปี ในการดำเนินธุรกิจ
ทำให้เครือเบทาโกรก้าวสู่การเป็นกลุ่มบริษัทชั้นนำของประเทศที่ดำเนินธุรกิจอุตสาหกรรมการเกษตรและอาหารครบวงจร ตั้งแต่การผลิตและจำหน่ายอาหารสัตว์ การผลิตด้านปศุสัตว์ทั้งไก่และสุกร แปรรูปสู่ผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์ ไปจนถึงผลิตภัณฑ์อาหารคุณภาพสู่ผู้บริโภค เพื่อสร้างเสริมคุณภาพชีวิตที่ดีแก่คนไทยและคนทั่วโลก
“เครือเบทาโกรไม่หยุดนิ่งในพัฒนาการด้านต่าง ๆ เพื่อเดินหน้ามอบสินค้าและบริการอันดีเยี่ยมแก่ผู้บริโภค อาทิ พัฒนาระบบการบริหารและการจัดการตลอดจนกระบวนการผลิตให้มีคุณภาพ มาตรฐานระดับสากล ตั้งแต่แหล่งวัตถุดิบ การเลี้ยงและการพัฒนาสายพันธุ์ การจัดการฟาร์มด้วยเทคนิคพิเศษ การแปรรูป การตัดแต่ง จนเป็นผลิตภัณฑ์เนื้อหมูซูเปอร์อนามัย อีกทั้งยังลงทุนในด้านเทคโนโลยีซอฟต์แวร์ ระบบตรวจสอบย้อยกลับ e-Traceabilityที่สามารถตรวจสอบคุณภาพและความปลอดภัยในกระบวนการผลิต ตั้งแต่แหล่งที่มา ฟาร์มพ่อแม่พันธุ์ โรงฟัก ฟาร์มไก่เนื้อ โรงงานอาหารสัตว์ ยาวัคซีน การขนส่ง จนถึงโรงงานชำแหละ ผู้บริโภคสามารถสัมผัสพัฒนาการที่ไม่หยุดยั้ง เหล่านี้ได้ จากผลิตภัณฑ์ S-Pure หนึ่งผลิตภันฑ์แห่งความภูมิใจในการใส่ใจและพัฒนาสินค้า ไปสู่มือผู้บริโภคที่มีมาตรฐานความปลอดภัยสูงสุด
นายวสิษฐ แต้ไพสิฐพงษ์ กล่าวเสริมว่า “เครือเบทาโกร เน้นให้ความสำคัญในค้นคว้า วิจัย ซึ่งมีส่วนช่วยในการพัฒนาธุรกิจสุกรไทย โดยเป็นผู้ริเริ่มและบุกเบิกการผลิตและจำหน่ายเนื้อหมูที่เลี้ยง ด้วยเทคนิคการจัดการฟาร์ม เป็นระบบฟาร์มปิดปลอดเชื้อมาตรฐาน โดยเริ่มเตรียมการตั้งแต่ปี พ.ศ. 2536 ด้วยการคัดสรรแม่พันธ์ชุดแรก และหาสถานที่สำหรับแม่พันธุ์กลุ่มนี้เพื่อใช้เป็นฟาร์มปลอดเชื้อในการผลิตแม่พันธุ์รุ่นต่อๆไป จึงจะเป็นแม่พันธุ์ของหมูขุนอย่างแท้จริง เพื่อนำไปผลิตเนื้อหมูซูเปอร์อนามัย S-Pure ปลอดภัยจากยาปฎิชีวนะและสารเคมีตกค้าง
สำหรับเนื้อไก่ซูเปอร์อนามัยที่เลี้ยงด้วยเทคนิคพิเศษ ปลอดภัยจากยาปฎิชีวนะ(Antibiotics Free) จึงทำให้ปลอดสารตกค้าง ตลอดอายุการเลี้ยง ขณะนี้ ผู้บริโภคยังสามารถมั่นใจถึงขั้นตอนของความบริสุทธิ์สะอาดปลอดภัยอย่างแท้จริงได้จากกระบวนการตรวจสอบการผลิตด้วยระบบเทคโนโลยีทันสมัยล้ำหน้าซึ่งเป็นระบบการตรวจสอบย้อนกลับ (e-Traceability) ณ เครื่องKiosk ชื่อ Spy On Me ผู้บริโภคสามารถตรวจสอบแหล่งที่มาของเนื้อไก่ได้ตั้งแต่ ฟาร์มพ่อแม่พันธุ์ โรงฟักไข่ โรงงานอาหารสัตว์ ยาวัคซีน จนถึงโรงผลิตเนื้อไก่สดและอาหารแปรรูป ภายในเวลา 1-2 นาที มีเพียงรายเดียวในประเทศไทยทำให้ผู้บริโภคมั่นใจได้ว่าเนื้อไก่ ปลอดภัยสูงสุดตั้งแต่กระบวนการเริ่มต้นเลี้ยงจนสุดปลายทางของผลิตภัณฑ์ออกมาเป็นเนื้อไก่ซูเปอร์อนามัยปลอดภัยจากยาปฎิชีวนะและสารเคมี
นายวสิษฐ กล่าวกับสื่อมวลชน ถึงความมั่นใจในตัวผลิตภัณฑ์ ภายใต้ตราสินค้า S-Pure พร้อมทั้งเปิดเผยแผนการตลาดที่จะช่วยเสริมทัพผลิตภัณฑ์แบรนด์ S-Pure ด้วยกลยุทธ์ทางการตลาดทั้งการปรับภาพลักษณ์บรรจุภัณฑ์ให้ดูทันสมัยและเป็นสากลมากขึ้น หรือการสื่อสารผ่านช่องทางการตลาดด้วยสื่อต่างๆ ที่สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ของคนเมือง ที่รักสุขภาพ พิถีพิถันใส่ใจคุณภาพชีวิต ทั้งในส่วนของ Above the line และ below the line ทางด้าน Above the line นั้น S-Pure มีทั้งการทำ Scoop และ Product Placement / Tie in ในรายการโทรทัศน์ต่าง ๆ ที่มีรูปแบบสอดคล้องกับผลิตภัณฑ์ เช่นรายการ หมึกแดงโชว์ และสุริวิภาโชว์เป็นต้น และใช้โฆษณาเพื่อสร้างการจดจำตราสินค้าในหน้าหนังสือพิมพ์และนิตยสารชั้นนำ พร้อมทั้งจัดทำ Advertorial, การลงโฆษณาสื่อกลางแจ้งประเภท Out of Home อาทิ Tri-vision ในพื้นที่แหล่งกลุ่มเป้าหมาย และเพิ่มสื่อโฆษณา ณ จุดขาย ในรูปแบบใหม่ๆ ส่วนในด้านของ Below the Line แบรนด์ S –Pure มีการทำ Road Show ไปยังกลุ่ม Supermarket ชั้นนำ, ร้านอาหาร และFood Chain เพื่อสร้างการรับรู้ในตัวแบรนด์ S-Pure อย่างต่อเนื่อง
ในส่วนช่องทางการจัดจำหน่ายผู้บริโภคสามารถเลือกซื้อเนื้อหมู เนื้อไก่ซูเปอร์อนามัยปลอดภัยจากสารเคมีและยาปฎิชีวนะ S-Pure ได้ที่ Gourmet Market สยามพารากอนและดิ เอ็มโพเรี่ยม Hygienic Meat Mart ของเดอะมอลล์, ตั้งฮั่วเส็ง, อิเซตัน, จัสโก้, โต คิว, เสรี เซ็นเตอร์,ยู เอฟ เอ็ม ฟูจิ ซูเปอร์, วิลล่า มาร์เก็ต, โกเด้น เพลส, เลมอน ฟาร์ม และต่อไปในอนาคตจะเพิ่มช่องทางการจัดจำหน่ายในส่วนของร้านอาหาร (Food Chain) อาทิ ร้านคาบุกิ ร้านโอโตยะ ร้านฟูจิ เป็นต้น เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายหลักให้มากขึ้น
กรุงเทพฯ 4 ธันวาคม 2550 เครือเบทาโกร โดย นายวนัส แต้ไพสิฐพงษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่เครือเบทาโกร และนายวสิษฐ แต้ไพสิฐพงษ์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานปฏิบัติการ กลุ่มธุรกิจเครือเบทาโกร จัดงานแถลงข่าวและเปิดตัว เนื้อหมู เนื้อไก่ซูเปอร์อนามัยปลอดภัยจากสารเคมีและยาปฎิชีวนะคุณภาพเยี่ยมของ เครือเบทาโกร พร้อมกับนำเสนอภาพลักษณ์ใหม่ของ S-Pure ด้วยบรรจุภัณฑ์ใหม่ที่ดูทันสมัยและเป็นสากลมากขึ้น รวมทั้งปรับปรุงในส่วนสื่อโฆษณา ณ จุดขายให้สอดคล้องกับภาพลักษณ์ใหม่ ที่ดูเป็นคนทันสมัยมีรสนิยมในการใช้ชีวิต โดยในการเปิดภาพลักษณ์ใหม่ครั้งนี้ ได้จัดกิจกรรมสื่อสารภาพลักษณ์ตราสินค้า ผ่านบุคลิกของผู้มีชื่อเสียงในด้านโภชนาการ คือคุณหมึกแดง หม่อมหลวง ศิริเฉลิม สวัสดิวัตน์ ที่ปรึกษาเครือเบทาโกร พร้อมทั้งเหล่าเซเลบบริตี้ ชื่อดัง คือ คุณเขมนิจ จามิกร หรือแพนเค้ก และครอบครัว ม.ร.ว แม้นนฤมาศ ยุคล วาชินี ไกรฤกษ์ ร.ท.วันทิตา ลิ่วเฉลิมวงศ์ นวลพรรณ โอสถานนท์ อัตชิลา วัชรพล นนทิวัช ประภานนท์ มาริษา มหาวงค์ตระกูล ศัลย์ อิทธิสุขนันท์ พัฒนพงษ์ และ ปรียามล ธนวิสุทธิ์ มาร่วมถ่ายทอดประสบการณ์ และการใช้ชีวิตแบบ S-Pure lifestyle พร้อมทั้งแนะนำวิธีปรุงอาหารจากเนื้อหมูเนื้อไก่ซูเปอร์อนามัยปลอดภัยจากสารเคมีและยาปฎิชีวนะ เพื่อให้มีสุขภาพดีแบบหนุ่มสาว นายวนัส แต้ไพสิฐพงษ์ กล่าวว่า “ด้วยประสบการณ์อันยาวนานกว่า 40 ปี ในการดำเนินธุรกิจ
ทำให้เครือเบทาโกรก้าวสู่การเป็นกลุ่มบริษัทชั้นนำของประเทศที่ดำเนินธุรกิจอุตสาหกรรมการเกษตรและอาหารครบวงจร ตั้งแต่การผลิตและจำหน่ายอาหารสัตว์ การผลิตด้านปศุสัตว์ทั้งไก่และสุกร แปรรูปสู่ผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์ ไปจนถึงผลิตภัณฑ์อาหารคุณภาพสู่ผู้บริโภค เพื่อสร้างเสริมคุณภาพชีวิตที่ดีแก่คนไทยและคนทั่วโลก
“เครือเบทาโกรไม่หยุดนิ่งในพัฒนาการด้านต่าง ๆ เพื่อเดินหน้ามอบสินค้าและบริการอันดีเยี่ยมแก่ผู้บริโภค อาทิ พัฒนาระบบการบริหารและการจัดการตลอดจนกระบวนการผลิตให้มีคุณภาพ มาตรฐานระดับสากล ตั้งแต่แหล่งวัตถุดิบ การเลี้ยงและการพัฒนาสายพันธุ์ การจัดการฟาร์มด้วยเทคนิคพิเศษ การแปรรูป การตัดแต่ง จนเป็นผลิตภัณฑ์เนื้อหมูซูเปอร์อนามัย อีกทั้งยังลงทุนในด้านเทคโนโลยีซอฟต์แวร์ ระบบตรวจสอบย้อยกลับ e-Traceabilityที่สามารถตรวจสอบคุณภาพและความปลอดภัยในกระบวนการผลิต ตั้งแต่แหล่งที่มา ฟาร์มพ่อแม่พันธุ์ โรงฟัก ฟาร์มไก่เนื้อ โรงงานอาหารสัตว์ ยาวัคซีน การขนส่ง จนถึงโรงงานชำแหละ ผู้บริโภคสามารถสัมผัสพัฒนาการที่ไม่หยุดยั้ง เหล่านี้ได้ จากผลิตภัณฑ์ S-Pure หนึ่งผลิตภันฑ์แห่งความภูมิใจในการใส่ใจและพัฒนาสินค้า ไปสู่มือผู้บริโภคที่มีมาตรฐานความปลอดภัยสูงสุด
นายวสิษฐ แต้ไพสิฐพงษ์ กล่าวเสริมว่า “เครือเบทาโกร เน้นให้ความสำคัญในค้นคว้า วิจัย ซึ่งมีส่วนช่วยในการพัฒนาธุรกิจสุกรไทย โดยเป็นผู้ริเริ่มและบุกเบิกการผลิตและจำหน่ายเนื้อหมูที่เลี้ยง ด้วยเทคนิคการจัดการฟาร์ม เป็นระบบฟาร์มปิดปลอดเชื้อมาตรฐาน โดยเริ่มเตรียมการตั้งแต่ปี พ.ศ. 2536 ด้วยการคัดสรรแม่พันธ์ชุดแรก และหาสถานที่สำหรับแม่พันธุ์กลุ่มนี้เพื่อใช้เป็นฟาร์มปลอดเชื้อในการผลิตแม่พันธุ์รุ่นต่อๆไป จึงจะเป็นแม่พันธุ์ของหมูขุนอย่างแท้จริง เพื่อนำไปผลิตเนื้อหมูซูเปอร์อนามัย S-Pure ปลอดภัยจากยาปฎิชีวนะและสารเคมีตกค้าง
สำหรับเนื้อไก่ซูเปอร์อนามัยที่เลี้ยงด้วยเทคนิคพิเศษ ปลอดภัยจากยาปฎิชีวนะ(Antibiotics Free) จึงทำให้ปลอดสารตกค้าง ตลอดอายุการเลี้ยง ขณะนี้ ผู้บริโภคยังสามารถมั่นใจถึงขั้นตอนของความบริสุทธิ์สะอาดปลอดภัยอย่างแท้จริงได้จากกระบวนการตรวจสอบการผลิตด้วยระบบเทคโนโลยีทันสมัยล้ำหน้าซึ่งเป็นระบบการตรวจสอบย้อนกลับ (e-Traceability) ณ เครื่องKiosk ชื่อ Spy On Me ผู้บริโภคสามารถตรวจสอบแหล่งที่มาของเนื้อไก่ได้ตั้งแต่ ฟาร์มพ่อแม่พันธุ์ โรงฟักไข่ โรงงานอาหารสัตว์ ยาวัคซีน จนถึงโรงผลิตเนื้อไก่สดและอาหารแปรรูป ภายในเวลา 1-2 นาที มีเพียงรายเดียวในประเทศไทยทำให้ผู้บริโภคมั่นใจได้ว่าเนื้อไก่ ปลอดภัยสูงสุดตั้งแต่กระบวนการเริ่มต้นเลี้ยงจนสุดปลายทางของผลิตภัณฑ์ออกมาเป็นเนื้อไก่ซูเปอร์อนามัยปลอดภัยจากยาปฎิชีวนะและสารเคมี
นายวสิษฐ กล่าวกับสื่อมวลชน ถึงความมั่นใจในตัวผลิตภัณฑ์ ภายใต้ตราสินค้า S-Pure พร้อมทั้งเปิดเผยแผนการตลาดที่จะช่วยเสริมทัพผลิตภัณฑ์แบรนด์ S-Pure ด้วยกลยุทธ์ทางการตลาดทั้งการปรับภาพลักษณ์บรรจุภัณฑ์ให้ดูทันสมัยและเป็นสากลมากขึ้น หรือการสื่อสารผ่านช่องทางการตลาดด้วยสื่อต่างๆ ที่สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ของคนเมือง ที่รักสุขภาพ พิถีพิถันใส่ใจคุณภาพชีวิต ทั้งในส่วนของ Above the line และ below the line ทางด้าน Above the line นั้น S-Pure มีทั้งการทำ Scoop และ Product Placement / Tie in ในรายการโทรทัศน์ต่าง ๆ ที่มีรูปแบบสอดคล้องกับผลิตภัณฑ์ เช่นรายการ หมึกแดงโชว์ และสุริวิภาโชว์เป็นต้น และใช้โฆษณาเพื่อสร้างการจดจำตราสินค้าในหน้าหนังสือพิมพ์และนิตยสารชั้นนำ พร้อมทั้งจัดทำ Advertorial, การลงโฆษณาสื่อกลางแจ้งประเภท Out of Home อาทิ Tri-vision ในพื้นที่แหล่งกลุ่มเป้าหมาย และเพิ่มสื่อโฆษณา ณ จุดขาย ในรูปแบบใหม่ๆ ส่วนในด้านของ Below the Line แบรนด์ S –Pure มีการทำ Road Show ไปยังกลุ่ม Supermarket ชั้นนำ, ร้านอาหาร และFood Chain เพื่อสร้างการรับรู้ในตัวแบรนด์ S-Pure อย่างต่อเนื่อง
ในส่วนช่องทางการจัดจำหน่ายผู้บริโภคสามารถเลือกซื้อเนื้อหมู เนื้อไก่ซูเปอร์อนามัยปลอดภัยจากสารเคมีและยาปฎิชีวนะ S-Pure ได้ที่ Gourmet Market สยามพารากอนและดิ เอ็มโพเรี่ยม Hygienic Meat Mart ของเดอะมอลล์, ตั้งฮั่วเส็ง, อิเซตัน, จัสโก้, โต คิว, เสรี เซ็นเตอร์,ยู เอฟ เอ็ม ฟูจิ ซูเปอร์, วิลล่า มาร์เก็ต, โกเด้น เพลส, เลมอน ฟาร์ม และต่อไปในอนาคตจะเพิ่มช่องทางการจัดจำหน่ายในส่วนของร้านอาหาร (Food Chain) อาทิ ร้านคาบุกิ ร้านโอโตยะ ร้านฟูจิ เป็นต้น เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายหลักให้มากขึ้น
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น