วันอาทิตย์ที่ 13 เมษายน พ.ศ. 2551

เปิดตัวกรุงทองพลาซ่า 2 รับกระแสน้ำมันแพง เน้นเสื้อผ้าแฟชั่นราคาย่อมเยา





กรุงทองพลาซ่า 2 เปิดตัวรับกระแสเศรษฐกิจน้ำมันแพง เอาใจผู้บริโภคนัก ช้อป เน้นจำหน่ายสินค้าเครื่องแต่งกายแฟชั่น ดีไซน์เก๋ไก๋ ในราคาสบายกระเป๋า สนับสนุนสินค้าโลคอลแบรนด์ ผลิตโดยคนไทย
นางสาวอัญชลี ตันติวงษากิจ กรรมการผู้จัดการ บริษัท กรุงทองยูเนี่ยน จำกัด เปิดเผยว่า จากความสำเร็จในการดำเนินการห้างกรุงทองพลาซ่า 1 ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากผู้ค้าส่งสินค้า และลูกค้าที่นิยมซื้อสินค้าแฟชั่นภายในห้าง ทางบริษัทฯ จึงได้เปิดตัวห้างแห่งที่ 2 ขึ้น โดยตั้งเป้าให้เป็น “ศูนย์ค้าส่งเครื่องแต่งกาย” ในบริเวณย่านประตูน้ำ ตรงข้ามพันธุ์ทิพย์พลาซ่า อาคารดังกล่าวสูง 6 ชั้น ติดแอร์ โดยมีร้านค้ากว่า 200 ร้าน สินค้าประกอบด้วยเสื้อผ้าสุภาพบุรุษ สุภาพสตรี เสื้อผ้าเด็ก รองเท้า กระเป๋า เครื่องสำอาง เครื่องประดับและกิ๊ปช้อป
“กรุงทองพลาซ่า 2 เปิดขึ้นเพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าที่เพิ่มปริมาณขึ้นให้มีทางเลือกในการจับจ่ายสินค้ามากขึ้น ซึ่งยังคงคอนเซ็ปท์เดิมไว้คือ การเป็นห้างขนาดกลางที่มีสินค้าเกี่ยวกับเครื่องแต่งกายที่หลากหลาย เพื่อตอบรับกับพฤติกรรมของลูกค้าขายส่งที่เร่งรีบ “เวลาเป็นเงินเป็นทอง” รีบขายรีบซื้อ แต่ในขณะเดียวกันลูกค้าปลีกก็สามารถเดินช้อปปิ้งได้อย่างสบายใจ ด้วยการจัดให้มีสินค้าที่แตกต่างกันหลายประเภท ซึ่งลูกค้าสามารถเลือกซื้อได้ครบตามความต้องการ
ข้อดีของห้างขนาดกลาง คือ การจัดการงานบริการที่ง่ายขึ้น ทำให้ทางห้างฯ สามารถดูแล และมีความเป็นกันเองกับร้านค้ามากขึ้น เรามีหน้าที่มองความเติบโตของพวกเขา มองดูว่าตรงไหนที่ขาดแล้วก็พยายามหามาเพิ่มเติม ช่วงไหนควรจัดโปรโมชั่น จะเน้นอะไรดี เลือกของแจกของแถมแบบไหนที่ลูกค้าสนใจ ซึ่งเราจะรู้ได้จากการทำแบบสอบถาม เราจะหยุดนิ่งอยู่กับที่ไม่ได้เลย” อัญชลีกล่าว
อัญชลีกล่าวถึงภาพรวมตลาดขายส่งเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายว่า “ศูนย์ค้าส่งในย่านประตูน้ำได้รับผลกระทบจากพิษเศรษฐกิจเช่นเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นราคาสินค้าที่เพิ่มขึ้น น้ำมันที่ขึ้นราคาสูงถึง 32 บาทต่อลิตร ปัญหาเศรษฐกิจอื่นๆ แต่ร้านค้าภายในห้างก็ยังตรึงราคาขายเดิม แม้ต้นทุนจะเพิ่มขึ้นก็ตาม ทำให้ยอดขายไม่ตกลงไปมากนัก และไม่ส่งผลกระทบต่อผู้ซื้อ ทางด้านแนวโน้มตลาดค้าส่งย่านประตูน้ำ ถือว่ามีแนวโน้มที่ดี คาดว่าในอนาคตประตูน้ำจะเป็นศูนย์กลางการค้าที่ใหญ่ในประเทศไทย เนื่องจากเป็นสถานีต้นสายของรถไฟฟ้าไปสุวรรณภูมิ
ข้อดีอีกอย่างของตลาดค้าส่งเครื่องแต่งกาย คือ เสื้อผ้า และเครื่องแต่งกาย ถือว่าเป็นสินค้าที่จำเป็นในชีวิตประจำวัน ไม่ใช่สินค้าฟุ่มเฟือย ถือเป็นปัจจัยสี่ที่ทุกคนต้องสวมใส่ ประกอบกับสินค้าภายในห้างฯ เป็นสินค้าราคาถูก และเป็นสินค้าแฟชั่นจึงมีการกลับมาซื้อใหม่หลายครั้ง นอกจากนี้ ร้านค้าปลีกที่มีทวีจำนวนเพิ่มขึ้น ทั้งการเปิดท้ายขายของตามดิสเคาน์สโตร์ หรือในส่วนของพลาซ่าตามห้างสรรพสินค้า หรือแม้กระทั่งร้านค้าปลีกตามแหล่งแฟชั่นไม่ว่าจะเป็นสยามสแควร์ ต่างนิยมเลือกซื้อสินค้าแฟชั่นจากทางห้างฯ เพื่อนำไปจำหน่ายไปยังผู้บริโภคคนสุดท้าย”
อัญชลีเปิดเผยถึงกลยุทธ์การตลาดของห้างกรุงทองพลาซ่า 2 ว่า ทางห้างฯ ได้เน้นการคัดเลือกผู้ขายที่มีศักยภาพ มีประสบการณ์และความชำนาญในสินค้าที่จะนำมาขายภายในห้างฯ ไม่น้อยกว่า 10 ปี มีโรงงานหรือเป็นผู้ผลิตโดยตรง เพราะจะทำให้ต้นทุนสินค้ามีราคาถูก และแข่งขันกับตลาดได้ ทั้งนี้ ทางห้างฯ จะทำการคัดเลือกสินค้าโดยนำสินค้ามาให้ทางห้างพิจารณาก่อนเข้ามาจำหน่าย โดยที่ทางห้างฯ จะพิจารณาสินค้า ราคา คุณภาพว่าเหมาะสมรึไม่ เช่น ถ้าเป็นสินค้าประเภทเดียวกัน คุณภาพเหมือนกัน ทางห้างฯ ก็จะเลือกร้านค้าที่ขายราคาถูกกว่า เพื่อให้ลูกค้าที่มาซื้อสินค้าได้สินค้าที่คุ้มค่ากว่า นอกจากนี้ ทางห้าง ฯ ยังพิจารณาผู้ขายที่มีร้านค้าอยู่แล้ว หรือสาขามากกว่า 1 สาขา ซึ่งแสดงว่ามีฐานลูกค้าอยู่พอสมควรแล้ว สินค้าภายในห้างฯ จะมีการปรับเปลี่ยนทุกสัปดาห์ ๆ ละ 2 ครั้ง บางร้านมีการปรับเปลี่ยนสินค้าทุกวัน ทำให้แบบทันสมัยอยู่เสมอ นอกจากนี้ สินค้าแฟชั่นจะไม่ผลิตมาเป็นจำนวนมาก ขายหมดภายใน 1 สัปดาห์ เพราะฉะนั้น ลูกค้าที่มาซื้อสินค้าภายในห้างไม่ต้องกังวลว่าจะได้สินค้าโหลหรือซ้ำกับคนอื่น ที่สำคัญราคาประหยัด ราคาขายส่งมีตั้งแต่ 25 – 2,000 บาท ขึ้นอยู่กับประเภทสินค้า
นอกจากนี้ ทางห้างฯ ยังได้จัดทำแบบสอบถามเพื่อสำรวจความคิดเห็น ข้อเสนอแนะเพื่อพัฒนาสินค้า และการบริการให้เป็นที่พอใจของลูกค้า และเพื่อรักษามาตรฐานที่ดีให้แก่ลูกค้าอย่างสม่ำเสมอ ตลอดจนการจัดทำถุงกรุงทองพลาซ่าเพื่อสร้างการจดจำ (brand awareness) ให้กับลูกค้าโดยเลือกถุงคุณภาพดีและมีสีสันสดใส ใช้โทนฟ้า ส้ม บางครั้งลูกค้าที่ยังไม่เคยซื้อสินค้าที่ห้างฯ เห็นถุงก็โทรมาถามว่าทางห้างฯ ขายสินค้าอะไรบ้าง สำหรับ กลยุทธ์อื่น ๆ ทางห้างได้ใช้สื่ออินเตอร์เน็ตในการติดต่อสื่อสารกับกลุ่มลูกค้า ภายใต้เว็บไซต์ www.krungthong-plaza.com โดยรวบรวมร้านค้าภายในห้าง แยกประเภทสินค้าเป็นหมวดหมู่อย่างชัดเจน อาทิ เสื้อผ้าบุรุษ เสื้อผ้าสตรี เสื้อผ้าเด็ก รองเท้า กระเป๋าและเครื่องประดับ นอกจากนั้น ยังสามารถพบกับโปรโมรชั่นดี ๆ แนะนำสินค้าและร้านค้าใหม่ รวมไปถึงเคล็ดลับการแต่งตัวและเคล็ดลับความสวยความงาม ซึ่งการนำเสนอสินค้าผ่านเว็บไซต์เป็นการขยายตลาดไปสู่ต่างประเทศอีกด้วย
อัญชลีได้กล่าวย้ำอย่างมั่นใจถึงจุดเด่นของทางห้างฯ ว่า ทางห้างฯ จะมีการปรับปรุงพื้นที่ให้ใหม่และสะอาดอยู่เสมอ พื้นที่เดินสะดวกไม่แออัด พื้นที่ภายในห้าง ฯ มีขนาดพอเหมาะ ลูกค้าสามารถเดินเลือกซื้อสินค้าได้อย่างทั่วพื้นที่ของห้าง ฯ แต่ด้วยความหลากหลายของสินค้า ลูกค้าสามารถเลือกสินค้าได้ตามต้องการ ลูกค้าที่มาเช่าพื้นที่นั้น ไม่ได้ดูแต่ราคาที่เช่าเท่านั้น ลูกค้าส่วนใหญ่จะดูที่ทำเล ถ้าทำเลไม่ดี ไม่ใช่แหล่งพลุกพล่าน ถึงถูกก็ไม่คุ้มกับสินค้าที่ต้องลงทุนผลิต และค่าจ้างพนักงานขาย เพราะถ้าขายไม่ดี ก็ทำให้เงินหมุนเวียนน้อย จะมีผลกระทบต่อสภาพคล่อง
อัญชลีได้กล่าวปิดท้ายว่า ตนอยากให้คนไทย หันมาใช้ของไทย และไม่อยากให้มองตลาดประตูน้ำเหมือนสมัยก่อน ที่เป็นของไม่มีคุณภาพหรือเป็นของโหล เพราะปัจจุบัน ผู้ค้าส่งตลาดประตูน้ำมีการพัฒนารูปแบบของสินค้าให้ทันสมัย และมีคุณภาพดี
ผู้ที่สนใจสามารถติดตามอัพเดทเทรนด์แฟชั่นใหม่ ๆ ได้ที่กรุงทองพลาซ่า 2 ย่านประตูน้ำ ตรงข้ามพันธุ์ทิพย์พลาซ่า หรือ www.krungthong-plaza.com/

ไม่มีความคิดเห็น: