วันเสาร์ที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552

ภูเก็ตจ๋า นกกลับามาแล้ว เปิดเส้นทางกรุงเทพฯ-ภูเก็ต พร้อมแคมเปญส่วนลดและกิจกรรมต่างๆ

"พาที" ยอมรับ 4 ปีที่ผ่านมาเดินแผนผิดพลาด ขยายธุรกิจเร็วไป จนขาดทุน ปรับแผน "นกแอร์" เน้น "ช้าแต่ชัวร์" เชื่อจะล้างขาดทุนได้ใน 3 เดือน นายพาที สารสิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายการบินนกแอร์ เปิดเผยว่า 4 ปีที่ดำเนินธุรกิจสายการบิน โลว์คอสท์ แอร์ไลน์ มีข้อผิดพลาดในการดำเนินธุรกิจพอสมควร เนื่องจากขยายธุรกิจและลงทุนรวดเร็วเกินไป ซึ่งสร้างผลกระทบต่อการบริหารจัดการและภาวะขาดทุนสะสมกว่า 200 ล้านบาท ส่งผลให้ล่าสุด นกแอร์ ได้ปรับกลยุทธ์การดำเนินงานใหม่ โดยจะไม่เน้นการบริหารงานเชิงรุก แต่จะระมัดระวังในการขยายตัวแบบช้าแต่ยั่งยืน เพื่อลดภาวะความเสี่ยงในภาวะที่กระแสปัจจัยลบภายนอกรุนแรงและไม่สามารถควบคุมได้ โดยเฉพาะปัญหาวิกฤติเศรษฐกิจโลก "นกแอร์ได้เรียนรู้จากปัญหาหลายอย่างก่อนหน้านี้ ทั้งการประสบปัญหาขาดทุน จนต้องเลย์ออฟพนักงาน และลดต้นทุนครั้งใหญ่ ทำให้หลังจากนี้จะระวังมากขึ้น เราจะเน้นช้าแต่ชัวร์" นายพาที กล่าว สำหรับแผนธุรกิจในปีนี้นั้น จะเน้นการพัฒนาด้านการบริการและขยายบริการการบินในประเทศเป็นหลัก ซึ่งหลังจากการปิดเส้นทางบิน 4 เส้นทางได้แก่ ภูเก็ต เชียงราย อุบลราชธานี และกระบี่ เพื่อลดต้นทุนในช่วงเดือนต.ค. ที่ผ่านมา ขณะนี้ได้พิจารณาเลือกเปิดเส้นทางบินที่มีโอกาสอีกครั้ง โดยปัจจุบันนกแอร์ให้บริการเที่ยวบินใน 6 จังหวัด และมีเครื่องบินให้บริการ 3 ลำ ล่าสุด นกแอร์ กลับมาเปิดเส้นทางบินกรุงเทพฯ-ภูเก็ต ภายใต้แคมเปญ เล็ตส์ ฟลาย แบ็ก ทู เดอะ บีช หรือ ภูเก็ตจ๋า นกกลับมาแล้ว ตั้งแต่วันที่ 20 ก.พ.นี้ วันละ 1 เที่ยวบิน และเพิ่มเที่ยวบินที่ 2 ทุกวันจันทร์ พฤหัสบดี ศุกร์ และอาทิตย์ เพื่อรองรับการท่องเที่ยวช่วงไฮซีซันเดือนเม.ย. นี้ ที่เชื่อว่าจะกลับมาคึกคักอีกครั้งโดยเฉพาะตลาดคนไทย ที่ภาครัฐกำลังเดินแผนกระตุ้นการท่องเที่ยวอยู่ด้วย นอกจากนี้ เพื่อกระตุ้นการเดินทางในเส้นทางดังกล่าว จึงลดราคาตั๋วโดยสาร เฉพาะช่วงนี้ เริ่มต้น 1,490 บาทต่อเที่ยว จำนวน 10-15% ของที่นั่งในแต่ละเที่ยวบิน อีกทั้งยังได้ร่วมกับพันธมิตรผู้ให้บริการด้านการท่องเที่ยวในภูเก็ต ให้คูปองส่วนลดกิจกรรมและบริการในราคาลด 10-80%ตามไลฟ์สไตล์ เช่น บริการเช่ารถ เช่า 1 วัน ฟรี 1 วัน,ส่วนลด 1 พันบาท สำหรับโรงแรมป่าตอง พารากอน โฮเทล, สุขโข สปา ลด 75-80% เป็นต้น ตั้งแต่ 20 ก.พ.-30 เม.ย.นี้ นายพาที กล่าวว่า การร่วมกับพันธมิตรให้ส่วนลดดังกล่าวจะมีการพิจารณาใช้เป็นกลยุทธ์ในเส้นทางบินอื่นๆ เพื่อตอกย้ำด้านการบริการ และจะมีการพิจารณาเปิดเส้นทางบินที่ปิดบริการไปอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความพร้อมของปัจจัยภายนอกและภายในองค์กร “ขณะที่ตลาดยังคงแข่งขันด้านราคาอย่างรุนแรง แต่นกแอร์ คงไม่เน้นกลยุทธ์ดังกล่าว เพราะเป็นกลยุทธ์ที่จะสร้างแต่ความเสียหายแก่ธุรกิจ แต่จะแข่งขันด้วยการพัฒนาศักยภาพด้านการบริการเป็นหลัก" นายพาที กล่าว อย่างไรก็ตาม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร นกแอร์ ยังมั่นใจว่า หลังปรับแผนการดำเนินงานและลดต้นทุนประกอบกับราคาน้ำมันที่ลดลง และการเมืองที่เริ่มคลี่คลายในช่วงปลายปี ทำให้คาดว่า ภายใน 2-3 เดือนจากนี้นกแอร์น่าจะล้างขาดทุนสะสมได้ เร็วกว่าเดิมที่คาดว่าจะล้างขาดทุนสะสมหมดเดือนมิ.ย. นี้ จากที่นกแอร์มีหนี้สะสมรวมกว่า 200 ล้านบาท ในปีที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่เดือนต.ค. 2551 ที่ผ่านมาเริ่มมีกำไร 20 ล้านบาท, เดือนพ.ย. 2551 มีกำไร 20 ล้านบาท, เดือนธ.ค. 2551 กำไร 42 ล้านบาท และ เดือนม.ค. 2552 กำไร 40 ล้านบาท สำหรับแนวโน้มธุรกิจการบินหลังจากนี้ เชื่อว่าจะกลับมาดีขึ้น หลังจากชะลอตัวในช่วงปลายปีที่ผ่านมา เนื่องจากราคาน้ำมันยังคงไม่ปรับเพิ่ม ขณะที่การเดินทางของนักท่องเที่ยว เริ่มกลับมา โดยเฉพาะคนไทย เริ่มท่องเที่ยวเดินทางมากขึ้น คิดเป็นสัดส่วนถึง 80% จาก 70% ในปีที่ผ่านมา

ไม่มีความคิดเห็น: