วันพฤหัสบดีที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2554

Grand Opening Big Camera Galleria

วันที่ 28 เมษายน 2554 ชั้น 4 โซน Atrium ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ Big Camera ได้จัดงาน Big Camera Galleria Grand Opening ซึ่งเป็น Concept เปลี่ยนลุคใหม่ ยกระดับการบริการและเปิดสังคมใหม่ของผู้ชื่นชอบการถ่ายภาพที่ตอบสนองครบทุกความต้องการ ด้วยภาพลักษณ์ใหม่ทันสมัย Style Modern บนพื้นที่กว่า 200 ตารางเมตร คับคั่งไปด้วยกล้องดิจิตอลต่างๆ ที่รวมสุดยอดกล้องดิจิตอลและอุปกรณ์ถ่ายภาพเอาไว้มากที่สุดแห่งแรกของประเทศให้คุณได้สัมผัส พร้อมเปิดสังคมใหม่ของผู้ที่มีรสนิยมชอบถ่ายภาพในทุกๆ Lifestyle กับ Photolista’s Lifestyle Society ภายในงานได้มีแขกผู้มีเกียรติมากมายเช่นคุณ ณัฐ ประกอบสันติสุข ช่างภาพแฟชั่นชั้นนำของเมืองไทย ผู้ซึ่งสร้างแรงบันดาลใจให้กับเหล่า Photolista และพบกับโชว์โดยเหล่านางแบบจาก Elite Model ในชื่อชุด Photolista นอกจากนี้ยังมีคุณท๊อป ณัฐเศรษฐ์ พูนทรัพย์มณ๊ ดีเจชื่อดังคลื่น 94 EFM และคุณพีเค ปิยะวัฒน์ เข็มเพชร พิธีกรหนุ่มมากความสามารถมาเป็นผู้ดำเนินรายการ คุณชิตชัย เธียรกาญจนวงศ์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท บิ๊กคาเมร่า จำกัด ได้เผยทิศทางการตลาดปี 2554 ว่า Big Camera เป็นแบรนต์ระดับต้นๆ ทางด้านการจัดจำหน่ายกล้องดิจิตอลและอุปกรณ์ถ่ายภาพที่ได้รับการยอมรับในตลาด Consumer เราจึงหันมาปรับกลยุทธ์การตลาด เน้นการสร้างแบรนด์ด้วยการจัดกิจกรรมการตลาดที่มีสีสัน เพื่อเปลี่ยนภาพลักษณ์แบรนด์ ให้ตรงใจกลุ่มลูกค้า ดังนั้น Big Camera จึงใช้กรยุทธ์ Event Marketing จัดโรดโชว์ด้วยการออกบูธถ่ายภาพ ซึ่งกลยุทธนี้จะสามารถทำให้ลูกค้ารู้จักตราสินค้า จดจำแบรนด์ และมีโอกาสตัดสินใจซื้อสินค้าได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้คุณชิตชัยยังกล่าวถึง Flagship Store ใหม่ของ Big Camera อีกว่าในปัจจุบันผู้ที่หลงใหลในการถ่ายภาพ และชื่นชอบกล้องดิจิตอลมีจำนวนมากขึ้น สังเกตได้จากกระแส Social Network ที่เป็นที่นิยมอยู่ในขณะนี้ ไม่ว่าจะเป็นการอัพโหลดภาพ การเขียนบล็อก การบันทึกเรื่องราวต่างๆ ด้วยเหตุนี้ กล้องดิจิตอลจึงกลายเป็นอีกหนึ่งอุปกรณ์สำคัญ ที่จำเป็นในปัจจุบัน จึงได้มีการเปิด Flagship Store ขึ้นกับ Big Camera Galleria ร้านที่รวมเอากล้องดิจิตอลเอาไว้มากที่สุดแห่งแรกของประเทศไทย ภายใต้คอนเซ็ปต์ “New Experience of New Age Technology for New Lifestyle” ภายใน Big Camera Galleria จะพบกับบรรยากาศใหม่ของร้านกล้องดิจิตอล Style Modern สะท้อนความเป็นผู้นำ Lifestyle ทางด้านการถ่ายภาพที่คับคั่งไปด้วยกล้องดิจิตอลรุ่นต่างๆ ที่คัดสรรมาโดยเฉพาะ สำหรับ Big Camera Galleria ที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ถือเป็น Flagship Store ใหม่ที่เปิดเป็นสาขาแรก และจะมีการเปิดอีก 1 สาขา ที่เซ็นทรับลาดพร้าวในปีนี้ สำหรับการขยายสาขาในส่วนของร้าน Big Camera ในปีเราคาดว่าจะเปิดอีก 10 สาขา โดยสิ้นปีนี้คาดว่าจะมี 180 สาขาทั่วประเทศ คุณชิตชัยกล่าวทิ้งท้าย ร่วมสัมผัสประสบการณ์ใหม่ของการถ่ายภาพกับ Big Camera Galleria ได้แล้ววันนี้ ที่ชั้น 4 โซน Atrium ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์

CAT รุกธุรกิจบรอดแบนด์ หนึ่งเดียวที่เชื่อมต่อชีวิติคุณได้อย่างสมบูรณ์แบบ ด้วย CAT Broadband Solution ในงาน CAT Network Showcase 2011 ณ สิริกิติ์

บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) หรือ CAT ได้วางกลยุทธ์ธุรกิจบรอดแบนด์ เน้นการเพิ่มรายได้ผ่านพันธมิตรในท้องถิ่นให้มากขึ้น โดยตั้งเป้ารายได้จากกลุ่มธุรกิจบรอดแบนด์ 600 ล้านบาท/เดือน พร้อมนำนวัตกรรมการให้บริการสื่อสารข้อมูลบนโครงข่ายมาโชว์ศักยภาพการสื่อสารโดยไร้ขีดจำกัด อย่างเต็มรูปแบบ ภายใต้แนวคิด “Life Work Play Experience” เพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์การทำงานและการใช้ชีวิตที่เปลี่ยนไป เพื่อกระตุ้นลูกค้ากลุ่มองค์กร ภาครัฐ / เอกชน รวมไปถึงผู้ประกอบการรายย่อย นายสมพล จันทร์ประเสริฐ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานธุรกิจบรอดแบนด์ รจญ.(อ) เปิดเผยถึงกลยุทธ์ตลาดบรอดแบนด์ในปีนี้ว่า กลุ่มธุรกิจบรอดแบนด์เป็นกลุ่มที่สร้างรายได้สูงเป็นอันดับ 1 โดยมีรายได้กว่า 7,000 ล้านบาทต่อปี แม้จะมีคู่แข่งมากขึ้น และคู่แข่งต่างเน้นการตลาดด้านราคาเป็นหลัก ในขณะที่ CAT เน้นการให้บริการที่มีคุณภาพ ด้วยระบบที่เสถียรกว่า จึงทำให้ลูกค้ากลุ่มองค์กร ทั้งหน่วยงานภาครัฐ และเอกชน สามารถใช้บริการสื่อสารข้อมูลของ CAT ในงบประมาณที่คุ้มค่ากับการลงทุน ส่งผลให้มีลูกค้ากลุ่มธุรกิจองค์กร และรายย่อยมีจำนวนเพิ่มขึ้นตามลำดับ โดยรายได้ที่มาจากทั้งสองกลุ่มนี้มีสัดส่วนใกล้เคียงกัน CAT จึงหันมาใช้กลยุทธ์การสร้างพันธมิตรเพื่อให้บริการสำหรับกลุ่มลูกค้ารายย่อย CAT ซึ่งเป็นผู้นำทางด้านโทรคมนาคม ได้นำนวัตกรรมเทคโนโลยีที่หลากหลายมาเปิดตัวในงานครั้งนี้ เพื่อแสดงศักยภาพการให้บริการ CAT Broadband Solution จาก 4 กลุ่มธุรกิจบริการ ได้แก่1. กลุ่มบริการวงจรสื่อสารข้อมูล CAT datacom 2. กลุ่มบริการอินเทอร์เน็ต CAT internet 3. กลุ่มบริการ CAT e-business 4. กลุ่มบริการ CAT cyfence ภายในงานยังมีการสัมมนาในหัวข้อต่างๆ อีกมากมาย จากวิทยากรผู้มีชื่อเสียงในแวดวงไอทีทั้งในและต่างประเทศ รวมไปถึงการจัดสอบ CCNA Pre-test (CCNA: Cisco Certified Network Associate) อีกด้วย นายสมพลฯ รจญ.(อ) จึงขอเชิญชวนผู้ที่สนใจเข้าร่วมงานครั้งนี้ว่า “อยากให้ทุกท่านที่กำลังมองหาโซลูชั่นบริการบรอดแบนด์ หนึ่งเดียวที่เชื่อมต่อชีวิติคุณได้อย่างสมบูรณ์ ได้มาร่วมงานในครั้งนี้ ทุกท่านจะได้พบกับนวัตกรรมทางด้านเทคโนโลยี ที่ล้ำสมัย และ โปรโมชั่นพิเศษสุดๆ เฉพาะในงานนี้เท่านั้น แล้วพบกันที่ ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ณ ห้องบอลรูม โซน เอ ระหว่างวันที่ 27-28 เมษายนนี้เท่านั้น” สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ CAT Contact Center โทร. 1322 หรือwww .catnetworkshowcase2011.com

แอ็ดเวิร์บฯ เผยโฉม Humming นิตยสารดนตรีและแฟชั่น แนวใหม่ จัดทัพศิลปินร่วมเปิดตัวยิ่งใหญ่ ดึง หนึ่ง Smile Buffalo นั่งแท่นบรรณาธิการ

เปิดตัวอย่างเป็นทางการพร้อมวางแผงให้คนรักดนตรีและแฟชั่นได้หาอ่านกันทั่วประเทศแล้ว สำหรับนิตยสารแนวใหม่ “ Humming” นิตยสารหัวใหม่ล่าสุด ซึ่งเกิดจากการรวมตัวกันของคนรักดนตรีและแฟชั่น อย่างสองพี่น้อง ปัญฑารีย์ และ ปัญญดา ตรีประทีป ร่วมด้วย ธิฌาภัทร์ นวลวัน และ พนัส อภิชาติพงศ์บุตร หรือที่คุ้นเคยกันในชื่อ หนึ่ง สไมล์บัฟฟาโร่ (Smile Buffalo) ที่งานนี้มานั่งแท่นเป็นบรรณาธิการหนังสือครั้งแรกในชีวิตให้กับ Humming เป็นนิตยสารดนตรีและแฟชั่นแนวใหม่ที่ประกาศตัวตนบนแผงชัดเจน ภายใต้แนวคิด "ชีวิตยืดหยุ่น ชีวิตอารมณ์ดี" โดยใช้ดนตรีและแฟชั่นเป็นสื่อกลางบอกเล่าเรื่องราวและอารยะธรรมต่างๆ อย่างน่าสนใจ ซึ่งภายในงานเปิดตัว นิตยสาร Humming นอกจากจะมีศิลปินคนดนตรีมาร่วมโชว์พลังเสียงบนเวทีกันอุ่นหนาฝาคั้งแบบไม่แคร์สังกัด อาทิ บี้ KPN , สิงโต นำโชค, วง Plrase จากค่ายน้องใหม่ (U) Music (ในเครือ Masscotte Entertainment) , เกม My Idol , ตู่ ภพธร และ สแตมป์ อภิวัชร์ ซึ่งแต่ละคนเรียกเสียงกรี๊ด!! จากผู้ร่วมงานได้ไม่น้อย และไฮไลท์สุดเซอร์ไพร้ส์ คือ การแสดงโชว์จากทีมผู้บริหารของนิตยสาร Humming ที่มาร่วมเล่นดนตรีแบบสดๆ ได้อย่างออกรสและสนุก ไม่แพ้ศิลปินมืออาชีพ แหม..!!สมกับเป็นคนทำหนังสือดนตรีจริง จิ้ง ปิดท้ายบรรยากาศงานกับการร่วมพูดคุยกับศิลปินมาดพระเอก เป้ อารักษ์ และพิธีกรผู้ประกาศฝีปากกล้า กาละแมร์ พัชรศรี คนบนปกฉบับปฐมฤกษ์ ที่ควงแขนกันมาร่วมแสดงความยินดีกับ Humming ด้วย สำหรับผู้ที่สนใจข่าวสารพร้อมเข้าร่วมกิจกรรมดีๆ หรืออยากจะสะท้อนแนวคิด ติชม นิตยสารHumming สามารถสื่อสารผ่านทาง hummingmagazine@gmail.com หรือ www.facebook.com/hummingmagazine

เครือธนาคารกสิกรไทยเผยโฉมหน้า เคกรุ๊ป อี – เกิร์ลส รุ่นที่ 6

นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร (ที่ 5 จากซ้าย) ประธานกรรมการบริหาร บริษัท โตชิบา ไทยแลนด์ จำกัด เป็นประธานกรรมการตัดสินและมอบรางวัลแก่ผู้ได้รับเลือกเป็น ‘เคกรุ๊ป อี-เกิร์ลส รุ่นที่ 6’ (KGroup e-Girls The 6th Generation) เพื่อเป็นตัวแทนประชาสัมพันธ์พิเศษในการนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการของเครือธนาคารกสิกรไทย ภายใต้แนวความคิด “สวย สามารถ ปราดเปรียว” 2 ปี โดยมี นางสาวขัตติยา อินทรวิชัย (ที่6 จากซ้าย) รองกรรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย ให้การต้อนรับ ณ แฟชั่น ฮอลล์ ชั้น 1 ศูนย์การค้าสยามพารากอน เมื่อเร็วๆนี้

วันอังคารที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2554

บ่มเพาะคุณธรรมความดีงามให้เด็ก ด้วยหนังสือชุดนิทานภาพสำหรับเด็ก " ด้วยรักบันดาล..นิทานสีขาว "

เล่มที่1 แม้หนูนิ่มจะป่วยด้วยโรคที่ไม่มีทางรักษา แค่หัวใจของเธอไม่เคยหยุดที่จะทำความดีเพื่อคนอื่น หนูนิ่มวิ่ง...วิ่ง...วิ่ง ด้วยความหวังเพียงว่าสิ่งที่เธอทำ...จะนำความสุขมาสู่เด็กน้อยอีกคนหนึ่ง จากนิทานปลูกฝังคุณธรรม...ที่ ดร.อาจอง ชุมสาย ณ อยุธยา ได้เล่าให้เด็กนักเรียนทุกระดับชั้นของ “โรงเรียนสัตยาไส” ได้ฟังในทุกๆ เช้าก่อนเข้าเรียน... ถูกนำมาเรียบเรียงใหม่ในรูปแบบของนิทานภาพที่น่ารัก อ่านสนุก และเข้าใจได้ง่ายสำหรับเด็ก เพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้เด็กๆ มุ่งมั่นที่จะทำความดี มีหัวใจที่เปี่ยมด้วยความรักและความเมตตา อันจะเป็นรากฐานของจิตใจที่ดีงามต่อไปในอนาคต... เล่มที่2 ถ้าเราสัญญา ใครๆก็จะไว้ใจเรา แต่ถ้าเราไม่รักษาสัญญา ก็จะไม่มีใครเชื่อใจเราอีก เสือน้อยรู้ว่าคำสัญญาสำคัญถึงขนาดนี้ จีงรักษาสัญญาที่ให้ไว้กับพ่อแม่อย่างมั่นคง เล่ม 3 กระต่ายตัวพี่คิดว่า...งานบ้านคือหน้าที่ของกระต่ายผู้เป็นน้อง ส่วนกระต่ายตัวน้องก็คิดว่า...มันเป็นหน้าที่ของคนที่เป็นพี่ต่างหาก บ้านกระต่ายก็เลยสกปรกเลอะเทอะ ไม่เรียบร้อย จนกระทั่งกระต่ายน้อยทั้งสองได้เรียนรู้ว่า...การช่วยกันคนละไม้คนละมือมีคุณค่าอย่างไร บ้านโพรงกระต่ายจึงกลับมาน่าอยู่อีกครั้ง จากนิทานปลูกฝังคุณธรรม...ที่ ดร.อาจอง ชุมสาย ณ อยุธยา ได้เล่าให้เด็กนักเรียนทุกระดับชั้นของ “โรงเรียนสัตยาไส” ได้ฟังในทุกๆ เช้าก่อนเข้าเรียน...ถูกนำมาเรียบเรียงใหม่ในรูปแบบของนิทานภาพที่น่ารัก อ่านสนุก และเข้าใจได้ง่ายสำหรับเด็ก เพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้เด็กๆ มุ่งมั่นจะทำความดี มีหัวใจที่เปี่ยมด้วยความรักและความเมตตา อันจะเป็นรากฐานของจิตใจที่ดีงามต่อไปในอนาคต เล่ม 4 บั๊ดได้ช็อกโกแลตแสนอร่อยมาแท่งหนึ่ง แต่เขาไม่ต้องการจะแบ่งความอร่อยนี้ให้ใคร เขาแอบซ่อนความอร่อยของมันไว้...ทว่าในที่สุด เขาก็ได้รู้จักความหมายของคำว่า “แบ่งปัน” ซึ่งมันอาจจะดีกว่า...การได้กินช็อกโกแลตที่อร่อยที่สุดในโลกเสียอีก จากนิทานปลูกฝังคุณธรรม...ที่ ดร.อาจอง ชุมสาย ณ อยุธยา ได้เล่าให้เด็กนักเรียนทุกระดับชั้นของ “โรงเรียนสัตยาไส” ได้ฟังในทุกๆ เช้าก่อนเข้าเรียน...ถูกนำมาเรียบเรียงใหม่ในรูปแบบของนิทานภาพที่น่ารัก อ่านสนุก และเข้าใจได้ง่ายสำหรับเด็ก เพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้เด็กๆ มุ่งมั่นจะทำความดี มีหัวใจที่เปี่ยมด้วยความรักและความเมตตา อันจะเป็นรากฐานของจิตใจที่ดีงามต่อไปในอนาคต...

ไดโนะสุเกะ ผลงานสุดสร้างสรรค์ จากสองพี่น้องจิตรกรน้อยแห่งโลกจินตนาการ

เป็นแฟนไดโนเสาร์กะเค้าหรือเปล่าไม่รู้ แต่ที่รู้บรรดาแม่ ๆ แฟชั่นนิสต้าเตรียมยกก๊วนเกาะขอบรันเวย์ อาทิ คริสติน่า เศรษฐบุตร, อภิภาวดี เครือโสภณ, วินรัตน์ สกาวรัตนานนท์, ม.ร.ว.จันทรลัดดา ยุคล เพราะต้องเอาใจลูก ๆ หลาน ๆ ที่ต้องไปร่วมขบวนแฟชั่นโชว์คอลเลกชั่น “Dinotsuke goes Picnic” ในงานเปิดตัว “ไดโนสุเกะ” แบรนด์แฟชั่นเสื้อผ้า เครื่องหนังและแอสเซสเซอรี่สำหรับเด็ก อังคาร 26 เม.ย. บ่ายสองโมง ที่ร้านมินิเพอรี่ ชั้น 6 เซ็นทรัลเวิลด์

วันจันทร์ที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2554

Supercar & Import car Show 2011

ยูเนี่ยนแพนฯ ได้ประกาศกำหนดการเปิดงานแสดงรถยนต์ ซุปเปอร์คาร์ แอนด์ อิมพอร์ต คาร์ โชว์ 2011 (Supercar & Import Car Show 2011) ออกมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งงานจะมีขึ้นในวันที่ 14 – 22พฤษภาคม 2554 ที่จะถึงนี้ ณ อิมแพ็ค เมื่องทองธานี ตั้งแต่เวลา 10.30-21.00 Supercar & Import Car Show 2011 โดยงานนี้จัดขึ้นโดย ยูเนี่ยนแพนฯ (Union Pan Exhibition) ซึ่งจับมือกับ Evo Magazineนิตยสารรถยนต์ซุปเปอร์คาร์ชื่อดังจากประเทศอังกฤษ เพื่อเปิดตัวนวัตกรรมการรวมตัวผู้นำรถยนต์ซุปเปอร์คาร์จากค่ายชั้นนำต่างๆ Lamborghini ด้านหน้า ประเภทรถยนต์และผลิตภัณฑ์ที่เข้าร่วมจัดแสดงในงาน - บริษัทผู้นำเข้ายานยนต์ระดับสุดยอดอย่างเป็นทางการ (Authorized Dealer)- รถยนต์ระดับพรีเมี่ยม- รถยนต์นำเข้าจากต่างประเทศ- รถยนต์ประเภทโฮเพอร์ฟอร์แมนซ์- รถยนต์สปอร์ต และซุปเปอร์คาร์- ศูนย์อุปกรณ์ตกแต่งรถยนต์ และอะไหล่รถยนต์- อุปกรณ์และเครื่องมือในการตรวจเช็ครถยนต์- ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดรถยนต์- ผลิตภัณฑ์เสริมเพื่อการตกแต่งรถยนต์- เครื่องเสียงสำหรับรถยนต์- บริการดูแล, บริการอื่นๆ สำหรับรถยนต์และรถซุปเปอร์คาร์ Ferrari Scuderia ด้านหน้า งานนี้สาวกซุปเปอร์คาร์ในบ้านเรา ห้ามพลาดเป็นอันขาด ซึ่งการจัดแสดงงาน ซุปเปอร์คาร์ แอนด์ อิมพอร์ต คาร์ โชว์ 2011 (Supercar & Import Car Show 2011) จะมีจัดขึ้นแค่ปีละหนึ่งหนเท่านั้น ซึ่งในงานจะมีรถสปอร์ตหรูๆ อาทิเช่น แลมโบกินี่ (Lambogini) บูกัตติ เวย์รอน (Bugatti Veron) และเฟอร์รารี่ (Ferrari) รุ่นใหม่ๆ มาให้ชม เป็นต้น

วันศุกร์ที่ 22 เมษายน พ.ศ. 2554

CALLAWAY&SPORTS MALL SHOW CASE 2011

แคลลาเวย์ กอล์ฟ เปิดตัวสินค้า Soft Line ใหม่ล่าสุดปี 2011 ภายใต้ชื่องาน “Callaway&Sports Mall Show Case 2011” ในวันที่ 22 เมษายน ณ พาร์ค พารากอน ซึ่งเป็นสินค้าที่ออกแบบให้ไลฟสไตล์มากขึ้นเหมาะสำหรับนักกอล์ฟ และนักช้อปทั้งหลาย โดยมีสินค้าครบไลน์ตั้งแต่หัวจรดเท้าไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า รองเท้า ถุงกอล์ฟ กระเป๋า ถุงมือ ถุงเท้า ร่ม และผ้าขนหนูสำหรับทั้งสุภาพบุรุษและสุภาพสตรี และลูกค้า Corporate ได้รับเกียรติเปิดงานโดยคุณซันจีฟ แพ้นท์ กรรมการผู้จัดการแคลลาเวย์ กอล์ฟเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และอินเดีย ภายในงานมีการจัดแสดงสินค้าในไลน์ของปี 2011 ทั้งหมดของแคลลาเวย์ กิจกรรมสนุกๆทดสอบไม้กอล์ฟแคลลาเวย์กับเครื่อง Simulator แฟชั่นโชว์เสื้อผ้า และสินค้าแคลลาเวย์จากเหล่านายแบบนางแบบมืออาชีพ พร้อมด้วยแฟชั่นโชว์จากเซเลปคู่ขวัญ บอย ปกรณ์ และมาร์กี้ ราศรี ปิดท้ายด้วยปาร์ตี้บรรยากาศสบายๆจาก วงสินเจริญ บราเธอส์ พร้อมด้วยปาร์ตี้ค็อกเทล และเครื่องดื่ม Grey Goose วอดก้า และวิสกี้ Dewar ขอบคุณ Sports Mall เดอะมอลล์ทุกสาขา , ดิ เอ็มโพเรียม ,พารากอน สำหรับสถานที่ลาน Parc Paragon สปอนเซอร์เครื่องดื่มผู้ใจดีจาก Bacardi Thailand Grey Goose วอดก้า และวิสกี้ Dewar พร้อมด้วยแขกผู้มีเกียรติระดับสูงเข้าร่วมงานอย่างซิตี้ แบงค์, รถยนต์แลมโบกินี ตัวแทนจำหน่าย ลูกค้า Corporate และสื่อมวลชนทุกท่าน แคลลาเวย์ กอล์ฟ เป็นแบรนด์กอล์ฟอเมริกาที่มีสินค้าสำหรับ Global version และ Asian version สำหรับนักกอล์ฟเอเชีย พร้อมด้วยสินค้ามีครบไลน์ ตั้งแต่หัวจรดเท้าไม่ว่าจะเป็นสินค้า Hard Line ไม้กอล์ฟ ลูกกอล์ฟและสินค้า Soft Line เสื้อผ้า เข็มขัด กระเป๋า ถุงกอล์ฟ รองเท้า หมวก ร่ม และไลน์เพิ่มเติมใหม่ล่าสุดอย่างถุงเท้า ผ้าขนหนู ปุ่มรองเท้า Soft Spike กระเป๋าเอกสาร ที่เป็นไลฟสไตล์มากขึ้นเหมาะสำหรับทั้งนักกอล์ฟ และนักช้อป สินค้า Hard Line ของแคลลาเวย์ในปีนี้มาด้วยกัน 3 ซีรีย์และวิวัฒนาการใหม่ล่าสุดด้วยวัสดุ Forged Composite ที่พัฒนาร่วมกับรถยนต์ Lamborghini ไม่ว่าจะเป็น เดียโบร อ๊อกเทน (Diablo Octane) สำหรับนักกอล์ฟมือใหม่, เลเซอร์ ฮอค (Razr Hawk) สำหรับนักกอล์ฟที่ต้องการเกมส์ที่ดีขึ้น และซีรีย์พรีเมียม เลกาซี่ เอเป็ค (Legacy Apex) ที่เหมาะสำหรับนักกอล์ฟที่เป็นวีคเอน กอล์ฟเฟอร์ สินค้า Soft Line เสื้อผ้า เข็มขัด ที่ออกแบบให้ไลฟสไตล์มากขึ้นไม่ว่าจะเป็นกระเป๋าเสื้อผ้า ถุงกอล์ฟ ที่มีทั้งแบบ Cart Bag และ Stand Bag, รองเท้าที่มาพร้อมกับดีไซน์และเทคโนโลยีใหม่สำหรับสุภาพบุรุษ 6 รุ่น ไม่ว่าจะเป็นรุ่นไฮเอนอย่าง Hyperbolic XL, Biokenetic Tour รุ่น Performance XTT Xtreme รุ่น Value อย่าง Chev S1, S2 และ C-Tech Saddle และรองเท้าสุภาพสตรีใหม่ล่าสุด อย่าง Solaire และ Hyperbolic SL ให้ท่านนักกอล์ฟได้เลือกช้อป รวมไปถึงกระเป๋าในไลน์ใหม่ล่าสุดในปีนี้อย่าง Travel Gear กระเป๋าเป้ กระเป๋าเอกสาร กระเป๋าเสื้อผ้า กระเป๋ารองเท้า หมวก ถุงมือ และถุงเท้าสำหรับสุภาพบุรุษและสุภาพสตรี และสำหรับลูกค้า Corporate จะมีร่มทั้งแบบชั้นเดียวและสองชั้น รวมไปถึงผ้าขนหนูอีกด้วย ดูรายละเอียดข้อมูลสินค้าได้ที่ www.callawaygolf.comอัพเดทข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.facebook.com/CallawayGolfThailand

วันพฤหัสบดีที่ 21 เมษายน พ.ศ. 2554

อิมแพ็คฯ หนุนอุตสาหกรรมสปาและโรงแรมไทย ชิงธงเมืองแห่งธุรกิจบริการสปาแห่งเอเชีย เชียงใหม่ขึ้นแท่นเบอร์ 1 และคาดโต 25 %

อิมแพ็ค เอ็กซิบิชั่น แมเนจเม้นท์ จำกัด และ บริษัท ไอไออาร์ เอ็กซิบิชั่น จำกัด จากประเทศสิงคโปร์ จับมือจัดงานแสดงสินค้าและการประชุมสัมมนาระดับนานาชาติด้านธุรกิจสระว่ายน้ำและสปา (Pool & Spa Exhibition Asia 2011) หวังเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันภาคอุตสาหกรรมสปาและโรงแรมไทย พร้อมตอกย้ำศักยภาพการก้าวสู่การเป็น “เมืองแห่งธุรกิจบริการสปาแห่งเอเชีย” ระบุแนวโน้มตลาดภาคเหนือเติบโต 20-25% อย่างต่อเนื่อง นางสาวพรพรรณ บุลเนอร์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายโครงการ บริษัท อิมแพ็ค เอ็กซิบิชั่น แมเนจเม้นท์ จำกัด เปิดเผยว่า ภาพรวมของอุตสาหกรรมโรงแรม และสปาของไทยมีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง จากความโดดเด่นด้านวัฒนธรรมและเสน่ห์การรักการบริการของชาวไทย ทำให้เป้าหมายการผลักดันธุรกิจให้ก้าวขึ้นสู่การเป็น “เมืองแห่งธุรกิจบริการสปาแห่งภูมิภาค” จะไม่เกินความสามารถของผู้ประกอบการชาวไทย ซึ่งสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่งคือการไม่หยุดนิ่งในการพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งการประสานความร่วมมือในหมู่สมาคมเครือข่าย เพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งในกลุ่มอุตสาหกรรมเดียวกัน ตลอดจนการเรียนรู้ยกระดับการให้บริการในด้านต่างๆ เพื่อให้เกิดความพึงพอใจสูงสุดแก่ผู้มาใช้บริการ นี่จึงเป็นที่มาของความร่วมมือระหว่าง อิมแพ็ค เอ็กซิบิชั่น แมเนจเม้นท์ จำกัด และ บริษัท ไอไออาร์ เอ็กซิบิชั่น จำกัด จากประเทศสิงคโปร์ จัดงานPool & Spa Exhibition Asia 2011 ทั้งนี้คาดว่า ด้วยศักยภาพและความเชี่ยวชาญด้านการบริหารศูนย์แสดงสินค้า และการประชุมด้วยทีมงานคุณภาพระดับมืออาชีพของอิมแพ็ค โดยความไว้วางใจจากกลุ่มลูกค้านานาประเทศ ที่ต้องการมาจัดแสดงสินค้าและประชุมในประเทศไทยมาอย่างยาวนานจะสามารถสนับสนุน และส่งเสริมการจัดงานดังกล่าวให้สามารถบรรลุวัตถุประสงค์ที่วางไว้ได้ “อิมแพ็คหวังเป็นอย่างยิ่งว่าด้วยศักยภาพที่มีอยู่ของเรา จะช่วยเพิ่มช่องทางในการติดต่อโดยตรงกับลูกค้ากลุ่มเป้าหมายใหม่ สร้างโอกาสทางธุรกิจในการเพิ่มยอดขายและส่วนแบ่งการตลาด การแสดง สาธิตและโปรโมทสินค้า บริการ เทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ๆ ต่อผู้มีอำนาจในการตัดสินใจ รักษาความสัมพันธ์กับลูกค้าปัจจุบันและส่งเสริมภาพลักษณ์ทางธุรกิจ รวมไปถึงการเรียนรู้นวัตกรรม เทคโนโลยีข้อมูลใหม่ๆ จากผู้เชี่ยวชาญในวงการผ่านการประชุมสัมมนา และสร้างเครือข่ายทางธุรกิจกับลูกค้ากลุ่มเป้าหมายโดยตรง ที่ล้วนเป็นส่วนสำคัญอย่างยิ่ง” นางสาวพรพรรณกล่าว ด้าน นาย Andrew Jacka นายกสมาคมสปาไทย กล่าวถึงทิศทางการเติบโตของธุรกิจสปาไทย และในกลุ่มประเทศอาเซียนว่า ปัจจุบันสปาไม่เพียงแต่เป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้รับความนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวเท่านั้นหากแต่เข้ามามีบทบาทต่อวิถีชีวิต ของบุคคลทั่วไปมากขึ้นอันแสดงให้เห็นถึงแนวโน้มการใช้บริการสปาที่จะเพิ่มมากขึ้น และด้วยบริการสปาที่มีคุณภาพในระดับสากลประกอบกับราคาค่าบริการที่สมเหตุสมผลทำให้ประเทศไทยก้าวเข้าสู่ “เมืองแห่งธุรกิจบริการสปาแห่งภูมิภาคเอเชีย” อันมีประเทศเพื่อนบ้านอย่างอินโดนีเซีย มาเลเซียและสิงคโปร์เป็นคู่แข่งที่มีศักยภาพใกล้เคียงกัน “ในปีที่ผ่านมามูลค่าตลาดธุรกิจสปาไทยอยู่ที่ประมาณ 400 ล้านบาท และมูลค่าตลาดสปาเอเชียอยู่ที่ ประมาณ 600 ล้านบาทซึ่งเชื่อว่าในปีนี้จะสามารถเติบโตได้อีกประมาณ 20-25 % โดยเฉพาะทางภาคเหนือของประเทศไทย ซึ่งแน่นนอนว่าเราไม่ได้เป็นประเทศเดียวที่มองเห็นประเด็นดังกล่าว คู่แข่งที่สำคัญของเราก็ย่อมปรารถนาที่จะครอบครองส่วนแบ่งการตลาดนี้เช่นกัน ดังนั้นการประสานความร่วมมือระหว่างอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกัน เพิ่มเสริมสร้างความแข็งแรง พัฒนาไปพร้อมๆ กัน เอื้อประโยชน์แก่กันและกันทางธุรกิจจึงมีความสำคัญไม่แพ้การมุ่งสร้างเสริมขีดความสามารถในการให้บริการของแต่ละอุตสาหกรรมเลยทีเดียว” นายแอนดรูว์กล่าว ส่วนนายสังวรณ์ สันติสุข ที่ปรึกษาสมาคมโรงแรมไทย (ภาคเหนือ) และที่ปรึกษาระดับบริหาร บริษัท แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) ได้เปิดเผยถึง แนวโน้มการเติบโตของอุตสาหกรรมสระว่ายน้ำและสปาไทยในวงการธุรกิจโรงแรมและอสังหาริมทรัพย์ว่า โดยภาพรวมแล้ว ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้กำลังขยายตัวเพิ่มสูงขึ้น คอนโดมิเนียมอพาร์ทเม้นท์หรือ สิ่งปลูกสร้างส่วนใหญ่มีการติดตั้งสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันรวมไปถึงสระว่ายน้ำ นอกจากนั้น มาตรฐานสุขอนามัยที่เกี่ยวกับน้ำเพิ่มสูงขึ้น ส่งผลให้ความต้องการบริษัทที่บำรุงรักษาสระว่ายน้ำระบบกรองน้ำ และการบำบัดน้ำที่มีคุณภาพเพิ่มขึ้นด้วย อีกทั้ง ปริมาณการท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้นของประเทศต่างๆในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพิ่มขีดความต้องการ สระว่ายน้ำในธุรกิจอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น สวนน้ำ ซึ่งการเติบโตอย่างรวดเร็วของอุตสาหกรรมการบริการก่อให้เกิดการสร้างและพัฒนาโรงแรมและรีสอร์ทเพิ่มมากขึ้น โดยสถานประกอบการเหล่านั้นต่างให้ความสำคัญในเรื่องสระว่ายน้ำ “มีปัจจัยบวกหลายด้านที่จะเป็นแรงส่งในอุตสาหกรรมสระว่ายน้ำและสปาไทยในวงการธุรกิจโรงแรมและอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งคาดการว่าในปีนี้จะมีการเติบโตขึ้นประมาณ 40% และจะมีมูลค่าตลาดรวมอยู่ที่ประมาณ 1,000 ล้านบาท และการเปิดกว้างของโอกาสนั้นผู้ประกอบการไม่ควรละเลยเป็นอย่างยิ่งสำหรับงานแสดง Pool & Spa Exhibition Asia 2011จะเป็นอีกหนึ่งช่องทางการตลาดที่มีประสิทธิภาพ เชื่อมโยงคุณไปยัง กลุ่มเป้าหมายอย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งกลุ่ม นักออกแบบ ผู้ก่อสร้างและผู้ติดตั้ง รวมไปถึงผู้มีหน้าที่ซ่อมแซม รักษาสระว่ายน้ำ สปา ซาวน่าและอุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องเพื่อเสริมเขี้ยวเล็บทางธุรกิจ เพื่อการแข่งขันในธุรกิจอุตสาหกรรมสระว่ายน้ำและสปาแห่งภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้อย่างสมบูรณ์แบบ” นายสังวรณ์ กล่าวทิ้งท้าย งานแสดงสินค้าและการประชุมสัมมนาระดับนานาชาติ ด้านธุรกิจสระว่ายน้ำและสปา (Pool & Spa Exhibition Asia 2011) กำหนดจัดขึ้น ระหว่างวันที่ 21-23 กันยายน 2554 ณ อาคาร 4 ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อ ส่งเสริมการตลาดของอุตสาหกรรมสระว่ายน้ำและสปาของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ด้วยการนำเสนอสินค้า เทคโนโลยี และนวัตกรรมล่าสุด ร่วมเป็นสื่อกลางสร้างความสัมพันธ์ระหว่างผู้ร่วมแสดงงานกว่า 150 บริษัทและผู้ชมงาน ผ่านความชำนาญจากผู้เชี่ยวชาญโดยตรง นอกจากนั้นยังเปิดโอกาสในการสร้างความสัมพันธ์ทางธุรกิจระหว่างผู้นำเข้าสินค้า ผู้จัดจำหน่ายภายในประเทศ และผู้ผลิตรายใหม่ในอุตสาหกรรม ได้มีโอกาสส่งเสริมการแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์จากการร่วมกิจกรรมการสัมมนา นำเสนอโครงการ แผนการพัฒนา และโอกาสของธุรกิจสระว่ายน้ำและสปาในอนาคต อีกทั้งยังแสดงให้เห็นถึงทิศทางและแนวโน้มของอุตสาหกรรมสระว่ายน้ำและสปาในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และที่สำคัญแนะแนวทางให้หน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนภายในและนอกประเทศร่วมกันแลกเปลี่ยนมุมมอง เพื่อสนับสนุนธุรกิจสระว่ายน้ำและสปาของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ต่อไป Pool & Spa Exhibition Asia 2011 เป็นการรวมสุดยอดของผู้ผลิต ผู้จัดอุปกรณ์การผลิต ผู้จัดจำหน่าย และผู้เกี่ยวข้องในธุรกิจสระว่ายน้ำและสปา ทั้งในและนอกประเทศของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้กว่า 150 บริษัท อาทิผู้จัดหาอุปกรณ์การผลิต ผู้จัดจำหน่าย ที่ปรึกษา นักออกแบบ ผู้ก่อสร้าง ติดตั้งและบำรุงรักษา ตลอดจนผู้เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมสระว่ายน้ำและสปาแห่งภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ภายในงานมีการรวบรวมสินค้า บริการ เทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ๆ ในวงการสระว่ายน้ำและสปาอย่างครบวงจรไว้ ซึ่งเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการได้สร้างเครือข่ายทางธุรกิจที่สามารถครอบคลุมไปถึงกลุ่มเป้าหมายในธุรกิจการท่องเที่ยวและการพักผ่อน อสังหาริมทรัพย์ โรงแรมและธุรกิจการค้าอื่นๆ ทั้งนี้เพื่อสร้างโอกาสในการเข้าถึงตลาดของผู้มีกำลังซื้อสูงอีกด้วย

วันพุธที่ 20 เมษายน พ.ศ. 2554

ทีวีไดเร็คมาแนวใหม่ บุกตลาด Functional Shampoo ส่ง “ป้าหวัง” แชมพูสมุนไพรจีนลงตลาด หวังเป็นผู้นำภายใน 5 ปี

ทีวีไดเร็ค พร้อมลุยตลาด Functional Shampoo ส่ง “ป้าหวัง” ผู้นำแชมพูสมุนไพรจีนจากจีนลงตลาด จับเป้าหมายหญิง-ชายอายุ 35 ปีขึ้นไป เผยเชื่อมั่นคุณภาพสมุนไพรจีนว่าแก้ปัญหาเส้นผมและหนังศีรษะได้ตรงจุด ตลอดจนเชื่อมั่นในตัว “เฉินหลง” ซึ่งรับเป็นพรีเซ็นเตอร์มานานถึง 7 ปีแล้ว ลั่นใช้นวัตกรรมการตลาดทั้งช่องทางไดเร็คและช่องทางค้าปลีกทำตลาดควบคู่กัน ด้วยเป้าหมายยอดขายปีแรก 150 ล้านบาท ตบท้ายเผยมุ่งมั่นเป็นผู้นำตลาด Functional Shampoo ภายใน 5 ปี นายทรงพล ชัญมาตรกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทีวี ไดเร็ค จํากัด เปิดเผยว่า ขณะนี้ทีวีไดเร็คได้เป็นผู้แทนจำหน่ายแชมพูสมุนไพรจีนป้าหวัง แชมพูสูตรสมุนไพรแก้ปัญหาเส้นผมและหนังศีรษะซึ่งเป็นที่นิยมอย่างสูงในประเทศจีนและอีกนานาประเทศ จากการมองเห็นศักยภาพในอัตราเติบโตของตลาด Functional Shampoo หรือแชมพูที่เน้นการแก้ไขปัญหาเฉพาะจุดในประเทศไทยยังมีโอกาสอีกมาก สำหรับมูลค่าตลาดคิดเป็นเพียง 5-7% ของตลาดแชมพูที่มีมูลค่าประมาณ 9,000 ล้านบาทเท่านั้น นอกจากนั้น ยังได้ทดลองทำตลาดแชมพูป้าหวังมา 4 เดือนแล้ว และพบว่าได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ใช้และอัตราการซื้อซ้ำ “อีกประการหนึ่ง จากประสบการณ์ที่ผ่านมา เราพบว่าผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับการดูแลเส้นผมเป็น 1 ใน สินค้าที่ขายดีตลอดเวลา เพราะผู้ชมได้เห็นภาพ ได้รับทราบถึงสรรพคุณ ขณะที่ทางเมล์หรือคอลเซ็นเตอร์ก็เช่นกัน ดังนั้นแชมพูจึงเป็นสินค้าที่บริษัทค้นหาเสมอมา แต่ที่ผ่านมาเรายังไม่มีแชมพูที่ตอบโจทย์ความต้องการของเราได้ ซึ่งพอมาพบแชมพูป้าหวัง จึงเหมาะสมและลงตัวอย่างยิ่งสำหรับการนำเข้ามาทำตลาดของบริษัท” นายทรงพลยังกล่าวต่อไปอีกว่า ความลงตัวของแชมพูป้าหวังนั้นอยู่ที่สมุนไพรซึ่งเป็นส่วนผสม ซึ่งส่วนมากเป็นสมุนไพรที่เป็นที่รู้จักและเชื่อถือว่าให้ผลดีด้านสุขภาพ เช่นโสมหรือตังกุย โดยโสมนั้นเมื่ออยู่ในแชมพู จะช่วยให้เลือดมาเลี้ยงหนังศีรษะได้มากขึ้น ส่งผลให้เส้นผมแข็งแรง ขณะที่ตังกุยก็ช่วยสร้างความสมดุลให้แก่เส้นผมและหนังศีรษะ สมุนไพรตัวอื่นๆ เช่น โสมช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของโลหิตบนหนังศีรษะ, โชวูทำให้ผมดำ, เมล็ดคาสเซีย ช่วยขจัดเชื้อราบนหนังศีรษะ เป็นต้น “1. ผมมีความเชื่อในความมหัศจรรย์ของสมุนไพรเสมอมา เพราะเคยผ่านการพิสูจน์ด้วยตัวเองกับแพทย์แผนจีนและสมุนไพรจีนมาแล้ว 2. นอกจากนั้นป้าหวังยังเป็น Functional Shampoo ซึ่งตอบโจทย์ของเราได้ และ 3. ตัวพรีเซ็นเตอร์คือคุณเฉินหลง เขาคงไม่นำชื่อเสียงของตัวเองมาเสี่ยงแน่หากสินค้าคุณภาพไม่ดีจริง คุณเฉินหลงนั้นรับเป็นพรีเซ็นเตอร์มานานถึง 7 ปีแล้ว ข้อที่ 4. โรงงานป้าหวังตั้งมากว่า 10 ปี ทำตลาดเต็มที่มา 8 ปีจนที่สุดสามารถเข้าตลาดหลักทรัพย์ที่ฮ่องกงได้และขยายตลาดออกนอกประเทศจีนในที่สุด นี่คือสี่เหตุผลที่เป็นข้อพิสูจน์ได้ดีถึงคุณภาพและศักยภาพ โดยขณะนี้ป้าหวังมีวางจำหน่ายถึง 17 ประเทศทั่วโลกแล้ว” นายทรงพลกล่าว ทั้งนี้กลยุทธ์การตลาดของแชมพูป้าหวังจะเป็นแบบ Non-Line Marketing ซึ่งเป็นความเชี่ยวชาญของทีวีไดเร็ค เน้นกลุ่มเป้าหมายทั้งผู้ชายและผู้หญิง อายุ 35 ปีขึ้นไป เพราะคนกลุ่มนี้จะเริ่มมีปัญหาเส้นผมมากขึ้นเนื่องจากความเครียดในการใช้ชีวิตและความเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน โดยแชมพูป้าหวังมีถึง 5 สูตรคือสูตรแก้ปัญหาผมร่วง สร้างผมดำ แก้ปัญหาผมเสีย เพิ่มความแข็งแรงให้รากผมและขจัดรังแค สำหรับช่องทางการจำหน่าย จะเป็นแบบ Multi-channel คือทั้งผ่านช่องทาง Direct ที่ทีวีไดเร็คมีอยู่ในมือ และช่องทางค้าปลีก อันได้แก่ ไฮเปอร์มาร์เก็ต ซูเปอร์มาร์เก็ต คอนวีเนียนสโตร์และร้านขายยาทั่วไป เนื่องจากแชมพูป้าหวังมีความเหมาะสมสำหรับค้าปลีกอยู่ด้วยทั้งด้านแพคเกจจิ้งและราคา โดยตั้งเป้ายอดขายปีนี้ไว้ที่ 150 ล้านบาท จากช่องทางทั้งสองประเภทอย่างละครึ่ง และมีงบการตลาดอยู่ที่ 50 ล้านบาท แบ่งเป็นงบโฆษณา 20 ล้านบาท และการจัดโปรโมชั่นต่างๆ อีก 30 ล้านบาท เช่นการจัด event ต่างๆ Road Show การแจกตัวอย่างและกิจกรรมทางการตลาดอื่นๆ อีกมาก “การแจกตัวอย่างนั้น เราได้รับการสนับสนุนจากบริษัทแม่ในจีน ซึ่งเราจะส่งเมล์ออกไป 1 ล้านฉบับ เพื่อให้คนติดต่อขอตัวอย่างเข้ามา ซึ่งคาดว่า จะมีคนตอบกลับมาประมาณ 5 แสนคน ที่เหลือนอกนั้นเราจะแจกจ่ายทางร้านค้าปลีกและร้านค้าต่างๆ” ด้านเป้าหมายนั้น นายทรงพลกล่าวว่า “เรามุ่งมั่นที่จะเป็นผู้นำของ Functional Shampoo ในตลาดภายใน 5 ปี เพราะแชมพูป้าหวังเป็นแชมพูสมุนไพรจากจีนที่สามารถสร้างความเชื่อถือ เข้าไปวางจำหน่ายมาแล้วในหลายประเทศ คุณภาพต้องมาก่อนจึงผ่านกระบวนการตรวจสอบของประเทศเหล่านั้นได้” ทั้งนี้แชมพูป้าหวังมีหลายขนาดคือ ขนาด 400 ml. ราคา 238 บาท และขนาด 1,000 ml. ราคา 388 บาท นอกจากนั้นยังมี professional pack คือชุดแก้ปัญหาผมร่วง และชุดสร้างผมดำ ประกอบด้วยแชมพูขนาด 200ml และครีมนวดขนาด 80 g ราคาชุดละ 498 บาท

ฮอต! คาราวาน คอนเสิร์ตมอบความสนุก ยึดทุกพื้นที่ให้ชาว HOT โดดกันให้มันส์สะใจ

มหกรรมฟรีคอนเสิร์ตเดินสาย Hot Caravan ที่รวบรวมความสนุกให้ชาวฮอตได้โดดกันอย่างสะใจ เมื่อคลื่น ฮอต 915 ซ่าส์…โดนทีน เตรียมตัวเคลื่อนขบวนไปประชิดพื้นที่ บุกถึงเนื้อถึงตัว ทุกสารทิศทั่วไทย เหล่าดีเจจากฮอตได้รวบรวมศิลปินผลงานเยี่ยมกว่า 100 ชีวิต ให้ทุกคนได้ร่วมสนุกไปด้วยกัน ไม่ว่าชาวฮอตจะอยู่ที่ใด พวกเราจะพุ่งไปหาพาคุณมันส์ให้ถึงใจ!!! ดีเจโบ-ธนากร ชินกูล หัวหน้าก๊วนดีเจนำโดดให้มันส์จากคลื่นฮอตได้ออกมาชวนทุกคนด้วยตัวเองว่า “โอ้โห งาน Hot Caravan งานมหกรรมดนตรี งานรวบรวมความสนุกให้ชาวฮอตได้โดดกันไม่ยั้ง เตรียมตัวเคลื่อนขบวนไปประชิดพื้นที่บุกไปถึงทุกคนทั่วประเทศ งานนี้เรียกว่ารวบรวมศิลปินมีฝีมือ ไม่ว่าจะศิลปินกลุ่มหรือเดี่ยว ที่มีชื่อเสียงกว่า 100 ชีวิต ไม่ว่าจะ Tattoo Colour / Jetset’er / ลุลา / นิว-จิ๋ว / พั๊นช์ วรการญจน์ / Lipta / KNOT The Stranger2 / Better Weather / 60Miles / MILD / ว่าน ธนกฤต / The Mousses / Slot Machine/ เบล สุพล / สิงโต นำโชค / ETC. / Calories Blah Blah / Playground/ The Bottom Blues / พิจิกา / The Jukks / เซน The Star นอกจากนี้ยังขอเพิ่มเติมความมันส์ให้ทะลุองศาร้อนสำหรับผู้ที่จะมาร่วมสนุกกันในงาน กับการออกบู้ธขายไอเดียสินค้าสร้างสรรค์ จากชาว HOT915 ที่ไม่เหมือนใคร เพราะเราจะคัดสรรสิ่งที่โดนใจวัยรุ่นมากที่สุด ไม่เพียงแค่นั้นภายในงานยังมีเกมส์ให้ร่วมสนุกอีกมากมาย พร้อมของรางวัลที่ทุกคนจะต้อง อ้าปากค้าง ใครอยากมาโดดกันให้สะใจ ขบวนกองคาราวานของเราจะเริ่มประเดิม เคลื่อนตัวชุดแรก ในวันพุธที่ 20 เมษายนนี้ ที่ลานพาร์ค พารากอน ห้างสยามพารากอน ตั้งแต่เวลา 16.00 น. เป็นต้นไป ห้ามพลาดมามันส์กับพวกนะครับ ส่วนพี่น้องต่างจังหวัดที่อยากมาสนุกกับขบวนของเราไม่ต้องน้อยใจ เราจะเคลื่อนตัวไปหาทุกคนทั่วไทยแน่นอน แต่จะเป็นที่ไหนบ้าง ติดตามฟังรายละเอียดกันได้ที่ ฮอต915 ซ่าส์…โดนทีน หรือคลิกเข้าไปที่ www.hot915.fm

วันศุกร์ที่ 8 เมษายน พ.ศ. 2554

กรมสรรพสามิต ร่วมกับ ศิลปินดารานักร้องฯ จัดกิจกรรมช่วยเหลือผู้ประสบภัยภาคใต้ พร้อมรณรงค์งดเหล้าเถื่อน บุหรี่เถื่อนภายในงาน

กรมสรรพสามิตร่วมกับกลุ่มศิลปินดารา อาทิ "โชกุน" บรรเจิด สันธนะพานิช "เก่ง" ชัชวาล เพชรวิศิษฐ์, "ซีแนม" สุนทร (เอเอฟ) "โก้" ธีรศักดิ์ พันธุจริยา "ทราย" ธิดารัตน์ จักรสิงโต (ทราย ดัชชี่) "บลู"เอวิกา พลอยอัมพร "หลิน" นุสสรา ประวันนา เต๋า ดราก้อนไฟว์ "แอร์" ภุมวารียอดกมล "อุ้ย" สุทธิตา เกตุตานนท์ ฯลฯ จัดกิจกรรมประมูลของรักของหวง เพื่อนำเงินสมทบทุน "มูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก สภากาชาดไทย ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยภาคใต้" ในวันศุกร์ที่ 8 เมษายนนี้ ตั้งแต่เวลา 17.00 น. หน้าศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์

วันอังคารที่ 5 เมษายน พ.ศ. 2554

GOLF mike TOOK โชว์ผสม พันธุ์ ฮา The Comedy Concert ยก 2

วันที่ 21 พ.ค. 54 สถานที่: รอยัล พารากอน ฮอลล เมื่อความมันส์มาผสมพันธุ์กับความฮา ใน GOLF mike TOOK โชว์ผสม(พันธุ์) ฮา The Comedy Concert ยก 2 กลับมาคราวนี้ต้องฮากว่าเดิมกับ concept ขำ สนุก สุข ฮา ดราม่า กักขฬะ การันตี ความมันส์ ยิ่งขึ้น !!!! Talk Show สุดฮา การแสดงสุดมันส์ พร้อมโชว์อลังการ ภายใต้ concept ซ่าสุด แสบบบบ ขำ จนเสียงแหบเสียงแห้ง ร่วมด้วย พลพรรครักความมันส์ฮา ก๊วนใหม่ และแขกรับเชิญสุดพิเศษ ครบเครื่อง ทั้งโชว์ ทั้งทอล์ค ทั้งร้อง ทั้งเต้นกับการแสดงสุดมันส์และโชว์อลังการที่จะทำให้ทุกคนต้องตะลึงในความฮากลับมาคราวนี้มาพร้อม สมาชิกก๊วนใหม่การันตีความแสบแซ่บ แอบผสมความงาม ไก่ สมพล, อ้น ศรีพรรณ, เท่ง เถิดเทิง, แพนเค้ก เขมนิจ, ม้า อรนภา, ก้อง สหรัถ สังคปรีชา Talk พูดกันให้มันหยดทุกเรื่อง ฮากันให้กลิ้ง Singing ร้องกันให้สนั่น กับทุกบทเพลงที่คัดสรรมาโดยเฉพาะพร้อมแขกรับเชิญคนพิเศษ Dance เต้นกันให้กระจายส่ายสะโพก โยกย้ายกับทุกลีลา Show การแสดงสุดอลังการที่ทุ่มทุนเล่นกันสุดตัวทั้งเสื้อผ้าหน้าผม ฉาก แสง เสียง แล้วเจอกันในงานนะครับ

เติ้ล , พอร์ช , ซูกัส , แก๊ป , บอส ควง 5 สาวสวย เปิดตัวภาพยนตร์โฆษณาตัวใหม่ “ เซ็ปเป้ บิวติ ด

“เซ็ปเป้ บิวติ ดริ้งค์” จัดงาน เซ็ปเป้ บิวตี้ เฟสต้า บาย บิวติ ดริ้งค์ (Sappé Beauty Festa by beauti Drink ) เปิดตัวภาพยนตร์โฆษณาชุดใหม่ “แต่งหน้า” และ “ลองเสื้อ” พร้อมเปิดตัว 5 สาว 5 สไตล์ที่เป็นคนดื่มจริง มาเป็นตัวแทน ไลฟ์สไตล์ต่างๆ ที่เหมาะกับ “เซ็ปเป้ บิวติ ดริ้งค์” ทั้ง 5 รสชาติมาขึ้นแคทวอล์กโชว์ความสวยพร้อมควงเหล่าหนุ่มหล่ออย่าง เติ้ล – ธนพล, พอร์ช- ศรัณย์ , ซูกัส – บัณฑวิช , แก๊ป – ธนเวทย์ , บอส – จักรพันธ์ ณ ลานน้ำพุ Digital Gateway สยามสแควร์ เมื่อวันอังคารที่ 5 เมษายน ที่ผ่านมา คุณอดิศักดิ์ รักอริยะพงศ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทรัพย์อนันต์ เยอเนอรัลฟู้ด จำกัด เปิดเผยถึงภาพยนตร์โฆษณาชุดใหม่ “แต่งหน้า” และ “ลองเสื้อ” ว่า เราเปิดตัวโฆษณา 2 ชุดนี้ เพื่อสื่อว่าเป็นผู้หญิงยังไงก็ต้องสวย นำเสนอแนวคิดที่ว่าผู้หญิงทุกคนมีสิทธิ์ที่จะสวย ไม่ว่าจะเป็นใคร อาชีพไหน หรือช่วงอายุใดก็ตาม ซึ่งสะท้อนออกมาในรูปแบบของภาพยนตร์โฆษณาทั้ง 2 เรื่อง ที่กล่าวถึงสถานการณ์คับขันสองรูปแบบ ที่แม้ว่าสถานการณ์จะร้ายแรงอย่างไร ยังไงผู้หญิงก็ต้องถือคติว่า “สวยไว้ก่อน” ตอกย้ำความห่วงใย ให้ผู้หญิงเริ่มดูแลตัวเองตั้งแต่วันนี้ และหมั่นเติมความสวยอย่างสม่ำเสมอ ด้วยเครื่องดื่ม Functional Drink อย่าง Sappé Beauti Drink ที่ตอบสนองความสวยแบบที่ผู้หญิงทุกคนต้องการอย่างรอบด้าน Sappé Beauti drink อยากให้ผู้หญิงดูแลตัวเองทุกวัน โดยเริ่ม..ดูแลตัวเองตั้งแต่วันนี้ ได้ง่ายๆ ตามสไตล์ของตัวคุณ กับบิวติ ดริ้งค์ 5 รส ที่ตอบโจทย์ความสวยได้ครบสูตร ไม่ว่าจะเป็น คอลลาเจน : ช่วยให้ผิวเนียนนุ่ม ชุ่มชื้น กระชับรูขุมขน แลดู เปล่งปลั่ง, ไฟเบอร์ : ช่วยในเรื่องของระบบขับถ่าย และช่วยดูแลรูปร่างให้ดูดีอยู่เสมอ, คิวเท็น : ช่วยชะลอ ไม่ให้เกิดริ้วรอย เหี่ยวย่น, คลอโรฟิลล์ : ช่วย Detox ล้างสารพิษออกจากร่างกาย ให้ผิวใส สุขภาพดี ลดกลิ่นไม่พึงประสงค์ และไวท์ : ให้คุณดูขาวเปล่งปลั่ง ได้อย่างใจ โดยถ่ายทอด ผ่าน 5 สาว 5 สไตล์ Sappé Beauty Girl ที่เป็นคนที่ดื่มจริง เป็นตัวแทนไลฟ์สไตล์ต่างๆ ที่ลงตัวกับความเป็น “เซ็ปเป้ บิวติ ดริ้งค์” ทั้ง 5 รสอย่างชัดเจน สำหรับบรรยากาศในงานเปิดตัว ภาพยนตร์โฆษณาชุดใหม่ และสาวๆ Sappé Beauty Girl ของ “เซ็ปเป้ บิวติ ดริ้งค์” ได้เนรมิตลานน้ำพุ Digital Gateway ให้เป็นเวทีเดินแบบของสาวๆ Sappé Beauty Girl ที่ออกโชว์ความสวยและความมั่นใจในรูปแบบของตัวเองพร้อมหนุ่มหล่อทั้ง 5 อย่างเติ้ล – ธนพล , พอร์ช- ศรัณย์ , ซูกัส – บัณฑวิช , แก๊ป – ธนเวทย์ , บอส – จักรพันธ์ ควงสาวๆ ออกมาทีละคนเรียกเสียงกรี๊ดจากบรรดาแฟนคลับ และสื่อมวลชนที่ออกอาการตาร้อนกันดังสนั่นจน สยามสแควร์แทบแตกกันเลยทีเดียว จากนั้นทั้งหมดก็ร่วมพูดคุยให้สัมภาษณ์กับพิธีกรอารมณ์ดี “ปูเป้ – ภาธีตา กันตามระ” ถึงการได้รับคัดเลือกให้มาเป็นนายแบบ – นางแบบคู่กัน ปิดท้ายด้วยบรรยากาศสุดชิลล์ของเวที Sappé Beauty Festa by beauti Drink ด้วยมินิคอนเสิร์ตจากวง T-Six ที่ขนเพลงเพราะๆ มาให้ทุกคนในงานได้เคลิ้มไปกับบทเพลงกันเลยทีเดียว ติดตามชมความสวยงามที่คุณเองก็สร้างได้ง่ายๆ ทุกวัน กับ “เซ็ปเป้ บิวติ ดริ้งค์” ในภาพยนตร์โฆษณาชุด “แต่งหน้า” และ “ลองเสื้อ” ที่มีความยาว 15 วินาที และ 30 วินาที โดยมี “เซ็ปเป้ บิวติ ดริ้งค์” เป็นตัวช่วยให้สาวๆ ได้สวยกันอย่างง่ายๆ ได้แล้ววันนี้ ทางสถานีโทรทัศน์ทุกช่อง พร้อมสัมผัสคุณประโยชน์ทั้ง 5 รสชาติ จาก “เซ็ปเป้ บิวติ ดริ้งค์” ได้ที่ร้านสะดวกซื้อ ซูเปอร์มาร์เก็ต ไฮเปอร์มาร์เก็ต และร้านค้าทั่วไป

วันศุกร์ที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2554

ผู้หญิงร้าย ผู้ชายรัก เล่ม 2 (WHY MEN MARRY BITCHES)

กาละแมร์ เปิดตัวพ็อกเกตบุ๊ค ผู้หญิงร้าย ผู้ชายรัก2 ประกาศปันรายได้จากการขายหนังสือให้ผู้ประสบภัยน้ำท่วมทางภาคใต้เล่มละ 1 บาท เผย ตอนนี้มียอดสั่งจองแล้ว 1 แสนเล่ม บอก นอกจากจะได้ทำบุญแล้วยังรู้วิธีรับมือกับผู้ชายอีกด้วย เคยเป็นตัวตั้งตัวตีในการรับบริจาคช่วยเหลือผู้ประสบภัยสึนามิ ที่ประเทศญี่ปุ่น สำหรับพิธีกรสาว “กาละแมร์ พัชรศรี เบญจมาศ” ด้วย การร่วมกับเพื่อนๆ ในวงการจัดทำเสื้อเฉพาะกิจจำนวน 3,000 ตัว ออกมาขายตัวละ300 บาท โดยไม่หักค่าใช้จ่ายใดๆ ซึ่งนอกจากการขายเสื้อแล้วยังมีการถือกล่องเดินรับบริจาค รวมถึงประมูลของดารา แค่วันเดียวก็มียอดบริจาคกว่า 4 ล้านบาท เรียกว่าทุกค่ายทุกช่องต่างพากันตื่นตัว พร้อมใจกันออกมาช่วยคนละไม้คนละมือ สร้างความประทับใจและได้รับคำชื่นชมในการรวมพลังครั้งนี้ไปอย่างท่วมท้น ซึ่งพอเกิดเหตุการณ์น้ำท่วมที่ภาคใต้ จนพี่น้องคนไทยเราได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก หลายๆ คนก็เลยคาดหวังว่ากลุ่มศิลปินดาราจะออกมาตื่นตัวช่วยเหลืออย่างที่เคยเป็นมา แต่ปรากฎว่ากระแสกลับเบาบางอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งที่ยื่นมือเข้ามาช่วยแล้วก็คือ คอนเสิร์ต “Sing For South ช่วยน้ำท่วมใต้” โดยมี เจ เจตริน วรรธนะสิน เป็นหัวเรี่ยวหัวแรง ชักชวนเพื่อนศิลปินขึ้นเวทีในวันจันทร์ที่ 4 เมษายน ที่จะถึงนี้ เวลา 16.00-22.00 น. ณ ลานพารค์พารากอน บัตรราคา 350 บาท ล่าสุดก็คือช่อง9 ที่ร่วมกับสํานักนายกรัฐมนตรี ที่ได้จัดกิจกรรม รวมน้ำใจคนบันเทิงร่วมแรงร่วมใจมาช่วยรับโทรศัพท์เพื่อหารายได้ซับน้ำตาชาว ใต้ ไปเมื่อวันก่อน โดยล่าสุดได้เจอ “กาละแมร์” ในการเปิดตัวหนังสือ “ผู้หญิงร้าย ผู้ชายรัก2” ที่งานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติศิริกิติ์ ในฐานะที่เจ้าตัวเคยเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงในการช่วยเหลือมาหลายงาน ผู้สื่อข่าวจึงถือโอกาสสอบถามถึงกรณีนี้ ซึ่งสาวกาละแมร์ก็บอกว่า ตั้งใจจะแบ่งเงินจากยอดขายหนังสือเล่มละ 1 บาทให้กับพี่น้องชาวใต้ และตอนนี้มียอดสั่งจองแล้ว 1แสนเล่ม “การที่ทุกคนจะซื้อหนังสือเล่มนี้ แมร์ตั้งใจว่าช่วงนี้บ้านเราอยู่ในช่วงประสบกับอุทกภัยน้ำท่วม แล้วแมร์เชื่อว่าใครๆ ก็สามารถร่วมทำบุญได้ ไม่ว่าจะอยู่ในสถานะไหน ทำอาชีพอะไร ก็ช่วยบริจาคได้ อย่างตอนนี้แมร์ทำหนังสืออยู่เพราะฉะนั้นสิ่งที่แมร์จะทำได้เร็วและช่วยได้ มากที่สุดคือ รายได้จากการขายหนังสือ และรายได้จากการขายหนังสือทุกๆ1 เล่ม จะบริจาค 1 บาท ตอนนี้ยอดการสั่งพิมพ์ทั้งของบริษัทเคล็ดไทยก็ 50,000 เล่ม และของแมร์อีก 50,000เล่ม รวมกัน100,000เล่มแล้ว ยอดบริจาคก็ 100,000บาทแล้ว และถ้าสมมุติว่ามีการสั่งพิมพ์เพิ่ม ก็จะนำมาร่วมบริจาคเพิ่มอีกค่ะ” พร้อมกันนี้ เจ้าตัวยังได้พูดถึงพ็อกเกตบุ๊คผลงานเล่มล่าสุดของตัวเองให้ฟังด้วยว่า....“ ซึ่งเนื้อหาของหนังสือเล่มนี้คิดว่าจะเอาผู้ชายถึงตายได้เลย เพราะอย่างเล่มแรกมีคนมาบอกว่าดีนะ ลองทำตามหนังสือดู ก็ได้ผู้ชายมาเป็นตัวเป็นตนเลย เราก็ปลื้มเหมือนได้เองและก็ลองดูว่าเล่ม2นี้ จะเหมือนเล่ม1หรือเปล่า อ่านแล้วจะได้ผู้ชายหรือเปล่า มันก็ต้องลองเอาไปอ่านดู ขนาดนักวิทยาศาสตร์ยังลองผิดลองถูกมาเป็น100ครั้ง ต้องลองอ่านดูเผื่อจะได้เจอกับผู้ชายที่รักเราจริง

เปิดตัวหนังสือ “ถ้ารู้ธรรมะพระพุทธเจ้า อาตมาคงไม่ติดคุก”

“อีเป็นคนดวงแกว่ง เวลาดวงดีจะดีสุดๆ เวลาดวงขึ้นจะขึ้นแบบพุ่งพรวดๆ เวลาดวงลงจะลงแบบหัวคะมำเลยทีเดียว ตอนอายุ 50 ปีบริบูรณ์ ดวงจะตกมากๆ ถ้าไม่ตายก็ถึงกับติดคุกติดตะราง”คำทำนายนี้เป็นของซินแสจีนแก่ๆ ที่ดูดวงจากเค้าโครงใบหน้า หรือโหงวเฮ้ง ตอนนั้นอาตมายังเป็น ส.ส.สมัยแรก ยังเป็นยังเติร์กในพรรคกิจสังคม ฟังคำทำนายนี้แล้วก็ไม่ได้คิดอะไรมาก เพราะไม่เคยเชื่อเรื่องหมอดู ฟังแล้วก็หัวเราะเพราะช่วงปีนั้นอาตมาอายุเพียง 29 ปีเท่านั้นแต่ตอนนี้ปีพ.ศ.2554 อาตมาอายุ 57 ปีแล้ว เมื่อมองย้อนกลับไปทบทวนความจำและเรียบเรียงเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นกับตัวเอง ก็พบว่าคำทำนายของซินแส เมื่อปีพ.ศ.2526 ที่อาตมาไม่เคยเชื่อเลย กลับเป็นความจริงทุกอย่าง !อาตมาคือ นายรักเกียรติ สุขธนะ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ที่มีเรื่องโด่งดังเรื่องการทุจริตการจัดซื้อยาและเครื่องเวชภัณฑ์ของกระทรวงสาธารณสุขเมื่อ 10 กว่าปีที่แล้ว วันนี้เรื่องราวทั้งหลายได้ผ่านพ้นไปแล้ว อาตมาได้รับโทษทัณฑ์ด้วยการติดคุก 5 ปี ชีวิตในคุกเปลี่ยนอาตมาจากหน้ามือเป็นหลังมือ เพราะได้ศึกษาธรรมะของพระพุทธเจ้า ได้ทบทวนตัวเอง ได้เห็นว่าความประมาท และหลงมัวเมาในกิเลสตัณหานำพาชีวิตไปในทางที่เสื่อมอย่างที่สุดอาตมาจึงมีความตั้งใจที่จะบอกเล่าเรื่องราวจากประสบการณ์ตรงของตนเอง เพื่อเตือนสติทุกคนไม่ให้ใช้ชีวิตด้วยความประมาท หลงใหลได้ปลื้มไปกับกิเลส ผ่านหนังสือ “ถ้ารู้ธรรมะพระพุทธเจ้า อาตมาคงไม่ติดคุก” ซึ่งจัดพิมพ์โดย สำนักพิมพ์อมรินทร์ธรรมะในชีวิตของอาตมา สุขที่สุดเป็นอย่างไรก็เคยพบมาแล้ว เสื่อมที่สุดเป็นอย่างไร อาตมาก็พบอยู่ในเรือนจำนี่เอง อาตมาเป็นนักการเมือง ได้ขึ้นชั้นเป็นรัฐมนตรี อำนาจบารมีวิ่งเข้ามา มีผู้คนล้อมหน้าล้อมหลัง เป็นช่วงเวลาที่หลงไปว่าน่ารื่นรมย์เพราะถูกกิเลสครอบงำว่าเป็นชีวิตที่มีความสุข ได้เล่นการพนัน ได้กินเหล้าเมายา มีผู้หญิงหลายคน โดยหารู้ไม่ว่าสิ่งเหล่านั้นเป็นความสุขที่ไม่ยั่งยืน เป็นทางแห่งความทุกข์ เป็นทางแห่งความเสื่อมวันที่ศาลตัดสินให้จำคุกอาตมาไม่สามารถยอมรับความจริงนี้ได้ จึงหนีคดีไปตั้งหลัก ช่วง 1 ปีที่หลบหนี ถือว่าเปลี่ยนแปลงชีวิตโดยสิ้นเชิง จากชีวิตที่สุขสบาย มีเกียรติ กลายเป็นคนต้องอาญาแผ่นดิน ต้องใช้ชีวิตหลบๆ ซ่อน ไปขออาศัยอยู่บ้านญาติ ต้องเปลี่ยนสถานที่อยู่ทุก 3 เดือน ต้องปลอมตัว เคยมีไฝก็ต้องเอาไฝออก ย้อมผม ใส่แว่นดำ หน้าตาทรุดโทรม ไม่มีสง่าราศีเหลือแม้แต่น้อย ทรัพย์สินทั้งหลายรัฐก็ยึดไป ใบประกอบวิชาชีพทนายความก็ถูกลบทิ้ง ไม่สามารถประกอบอาชีพทนายความได้อีก ต้องใช้เงินไม่เกินวันละ 100 บาทกินข้าวราดแกงราคาถูกมื้อละไม่เกิน 30 บาท ที่มีไว้บริการแท็กซี่นอกจากนั้น การกระทำของอาตมายังส่งผลกระทบกับครอบครัวอย่างรุนแรง ลูกชายที่เรียนอยู่ออสเตรเลียต้องกลับเมืองไทย เพราะอาตมาไม่สามารถส่งเสียได้อีกต่อไป หลังจากนั้นภรรยาคนแรกก็ทำเรื่องขอหย่า และขอกลับไปใช้นามสกุลเดิม ภรรยาคนที่สองมีสามีใหม่เป็นชาวเกาหลีและขอไปอยู่กับสามีใหม่ส่วนภรรยาคนที่สามมีแต่ปัญหามาบอกให้อาตมาทุกข์ใจ และที่สุดก็ขอไปอยู่กับสามีใหม่เช่นกัน นอกจากนั้นเรื่องของข้าพเจ้ายังส่งผลกระทบต่อน้องสาวที่เป็นอาจารย์ น้องชายที่เป็นนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด และน้องสาวที่ลงสมัคร ส.จ. ทุกคนล้วนแล้วแต่ตกที่นั่งลำบากเพราะอาตมาทั้งสิ้น

โครงการ 'WE LOVE KING' ร่วมกับ นิตยสาร 'a day' จัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภายใต้แนวคิด 'เรารักพระเจ้าอยู่หัว'

WeLoveKing จับมือนิตยสารวัยรุ่น A day จัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติพระเจ้าอยู่หัว พระชนมายุครบ 7 รอบ 84 พรรษา ประกวดผลิตสารคดีสั้นและเขียนเรียงความภายใต้แนวคิด 'เรารักพระเจ้าอยู่หัว' ชิงรางวัลนับแสน ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อเวลา 13.00น.วันที่ 1 เม.ย. ที่ห้องCrown Atrium King Power Complex โครงการ We Love Kings จับมือนิตยสาร A day จัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจัดการประกวดผลิตสารคดีสั้นและเขียนเรียงความเฉลิมพระเกียรติภายใต้แนวคิด"เรารักพระเจ้าอยู่หัว" ซึ่งมีกลุ่มเป้าหมายเป็นนักเรียนนักศึกษาและบุคคลทั่วไปทั่วประเทศ ทั้งนี้เพื่อเป็นช่องทางหนึ่งที่ให้ประชาชนสามารถถ่ายทอดเรื่องราวความประทับใจที่มีต่อพระองค์ท่าน รวมถึงแสดงความจงรักภักดีผ่านการประกวดในโครงการดังกล่าว เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในปี 2554 เป็นปีมหามงคลในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระชนมายุครบ 7 รอบ เพื่อชิงเงินรางวัลสูงสุดถึง100,000บาท โดย We Love Kings และนิตยาสารA day ได้นำทัพคนดังหลากหลายสาขาอาชีพรวมพลัง"รักพระเจ้าอยู่หัว"มาร่วมกันแถลงข่าวในการจัดกิจกรรมดังกล่าวมากมาย อาทิ นายดิสธร วัชโรทัย รองเลขาธิการพระราชวัง นายเนวิน ชิดชอบ คณะทำงานจัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว นายช้างน้อย กุญชร ณ อยุธยา ตัวแทนจากนิตยสาร A day นายชนินทร์ ชมะโชติ กรรมการ ผจก.บ.พาโนราม่า เวิร์ลไวด์ ผู้เชี่ยวชาญการผลิตสารคดีสั้นเฉลิมพระเกียรติ นายนาวินต้าร์ อดีตนักเรียนทุนอนันทมหิดล นายอนุชัย ศรีจณุญพู่ทอง ช่างภาพพระราชพิธี เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีศิลปินและพีเจมาร่วมด้วยอีกมามาย อาทิ ลูกหว้า พิจิกา ศิลปินผู้ขับร้องเพลงพระราชนิพนธ์ พีเจ.กัญ รังรอง คลื่นคูล 93 ฟาเรนไฮต์ ลุลา กันยารัตน์ ค่ายสนามหลวง 3สาว La Sista จาก AF วง Sixty Miles ขณะเดียวกันผู้จัดยังมีกิจกรรมนำศิลปินไปเชิญชวนประชาชนในทุกภาคของประเทศอาทิ เชียงใหม่ หาดใหญ่ ขอนแก่น ชลบุรี เพื่อร่วมส่งผลงานเข้าประกวดในโครงการดังกล่าว พร้อมเงินรางวัลรวมกว่าเก้าแสนบาทสำหรับรายละเอียดในการประกวดสารคดีสั้นต้องมีคุณสมบัติดังต่อไปนี้1.ระดับนักเรียน นักศึกษา ออายุตั้งแต่ 16-25 ปี2. ระดับบุคคลทั่วไป อายุ 23 ปี ขึ้นไป**ผู้สมัครสามารถส่งผลงานได้เป็นแบบเดี่ยวและแบบทีม ทีมละไม่เกิน 3 คน กติกาการประกวด1. ส่งผลงานในรูปแบบสารคดีสั้น ความยาว 5-8 นาที โดยต้องเป็นไฟล์นามสกุล .avi หรือ .mp4 รวมไตเติลและเครดิตท้ายเรื่อง ในรูปแบบ DVD พร้อมฉาย2.ผลงานสารคดีต้องมีเนื้อหาภายใต้แนวคิด "เรารักพระเจ้าอยู่หัว"และต้องไม่เคยส่งผลงานประกวดใดๆมาก่อน3.ผู้เข้าประกวดสามารถส่งผลงานได้มากกว่า 1 ชิ้น4.ผลงานต้องใส่ชื่อ-สกุล เบอร์โทรศัพท์ และที่อยู่ที่สามารถติดต่อได้5.ผลงานที่ส่งเข้าประกวดถือเป็นลิขสิทธิ์ของ We Love King6.การตัดสินใจของคณะกรรมการถือเป็นที่สิ้นสุด รางวัลผู้ชนะเลิศทั้ง 2 ระดับ จะได้รับรางวัล ดังนี้ รางวัลชนะเลิศ 100,000 บาทรางวัลรองชนะเลิศอันดับ1 50,000 บาทรางวัลรองชฯะเลิศอันดับ 2 30,000 บาท ส่วนการประกวดเรียงความต้องมีคุณสมบัติดังต่อไปนี้1.ระดับนักเรียน2.ระดับนักศึกษา อายุไม่เกิน 25 ปี 3.ระดับประชาชนทั่วไป ไม่จำกัดอายุ กติกาการประกวด1. ส่งผลงานเรียงความในรูปแบบร้อยแก้ว ความยาวไม่เกิน 2 หน้าA4 โดยส่งได้ 2 แบบ คือ เขียนด้วยลายมือตัวบรรจงหรือพิมพ์ด้วยตัวอักษร Angna New ขนาด 162.ผลงานเรียงความต้องมีเนื้อหาภายใต้แนวคิด "เรารักพระเจ้าอยู่หัว"และต้องไม่เคยส่งผลงานประกวดใดๆมาก่อน3.ผู้เข้าประกวดสามารถส่งผลงานได้มากกว่า 1 ชิ้น4.ผลงานต้องใส่ชื่อ-สกุล เบอร์โทรศัพท์ และที่อยู่ที่สามารถติดต่อได้5.ผลงานที่ส่งเข้าประกวดถือเป็นลิขสิทธิ์ของ We Love King6.การตัดสินใจของคณะกรรมการถือเป็นที่สิ้นสุด รางวัลผู้ชนะเลิศทั้ง 3 ระดับ จะได้รับรางวัล ดังนี้ รางวัลชนะเลิศ 100,000 บาทรางวัลรองชนะเลิศอันดับ1 50,000 บาทรางวัลรองชฯะเลิศอันดับ 2 30,000 บาท

บริษัท ฟูจิ ซีร็อกซ์เปิดตัว “โครงการ Big Font” สื่อการอ่าน

กลุ่มธุรกิจพรินเตอร์ บริษัท ฟูจิ ซีร็อกซ์ (ประเทศไทย) จำกัด ร่วมกับสมาคมคนตาบอดแห่งประเทศไทย (สบท.) โดยการสนับสนุนจากคุณงามพรรณ เวชชาชีวะ, นักเขียน-นักแปล รางวัลซีไรต์ และ บริษัทอมรินทร์พริ้นติ้งแอนด์พับลิชชิ่ง จำกัด (มหาชน) นำเสนอสื่อพิเศษสำหรับผู้มีสายตาเลือนรางเล่มแรกผ่านงานวรรณกรรม “ความสุขของกะทิ” ภายใต้โครงการ “Big Font” เพื่อเติมเต็มช่องว่างการเรียนรู้ด้านการอ่านให้แก่ผู้มีสายตาเลือนรางในประเทศไทย ที่มีอยู่ประมาณ 400,000 คน ทั่วประเทศ โดยมอบให้สมาคมคนตาบอดแห่งประเทศไทย เป็นศูนย์กลางกระจายความรู้ไปยังโรงเรียนและมูลนิธิต่างๆ ที่อยู่ในเครือข่ายการทำงานร่วมกันกว่า 100 แห่ง จำนวน 3,000 เล่ม โครงการ “Big Font” หรือตัวพิมพ์ใหญ่นี้เป็นโครงการที่ กลุ่มธุรกิจพรินเตอร์ บริษัท ฟูจิ ซีร็อกซ์ (ประเทศไทย) จำกัด ได้รับแรงบันดาลใจมาจากรายงานกิจกรรมสร้างสรรค์ของสำนักงานใหญ่ในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งได้มีการจัดทำหนังสือเรียนแบบพิเศษ ที่เรียกว่า Large Font Textbook ให้กับเยาวชน ที่มีปัญหาด้านการมองเห็น ข้อมูลเหล่านี้ได้จุดประกายไอเดียต่อยอดในการสร้างสรรค์สื่อแบบพิเศษเพื่อเติมเต็มช่องว่างด้านการอ่าน กอรปกับข้อมูลที่ได้รับจากสมาคมคนตาบอดฯ พบว่าในประเทศไทยมีบุคคลที่มีปัญหาด้านการมองเห็นอยู่ราว 1 % ของจำนวนประชากร (ประมาณ 600,000 คน) และ 2 ใน 3 เป็นผู้ที่มีสายตาเลือนราง ประมาณ 400,000 คน ซึ่งพวกเขามีความต้องการสื่อการอ่านที่เฉพาะและเหมาะกับระดับสายตา นอกจากสื่อ 2 ชนิดหลัก คือ อักษรเบลล์ และ หนังสือเสียง ที่นิยมใช้กันอย่างแพร่หลายในปัจจุบัน “ดีใจที่มีผู้เห็นความสำคัญของตัวอักษรขนาดใหญ่สำหรับผู้อ่านกลุ่มสายตาเลือนรางค่ะ ปัญหาทางสายตามีหลายลักษณะ ซึ่งบางครั้งอาจเกิดขึ้นชั่วคราว เช่น หลังผ่าตัด หรือเกิดขึ้นตามวัย แม้ผู้อ่านกลุ่มนี้จะมีจำนวนไม่มาก แต่หากมีการผลิตหนังสือให้เหมาะ เหมือนที่กลุ่มธุรกิจพรินเตอร์ บริษัท ฟูจิ ซีร็อกซ์ (ประเทศไทย) จำกัด จัดทำในโครงการนี้ ก็เป็นเรื่องน่ายินดีมาก และเป็นการนำร่องให้มีการจัดทำหนังสือในลักษณะนี้มากขึ้นและอย่างต่อเนื่องค่ะ” คุณงามพรรณ เวชชาชีวะ, นักประพันธ์และนักแปลชื่อดัง เจ้าของผลงาน หนังสือรางวัลซีไรต์ “ความสุขของกะทิ” กล่าว “เป็นความรู้สึกตื่นเต้นเมื่อได้เห็นรูปลักษณ์ของ ความสุขของกะทิ ในรูปแบบตัวพิมพ์ใหญ่ค่ะ ดูเต็มตา เต็มจอ น่าอ่าน เชื่อว่าผู้อ่านจะชอบและรออ่านภาคต่อ ตามหาพระจันทร์ และภาคจบ ในโลกใบเล็ก ในรูปแบบเดียวกันต่อไป ถือเป็นการแบ่งปันความสุขสู่กันในรูปแบบที่สร้างสรรค์