skip to main |
skip to sidebar
กฟน.คาดกำไรทั้งปีเกิน6พันลบ.หลัง6เดือนแรกทำได้3.6พันล.
วันอังคารที่ 02 สิงหาคม 2011 นายอาทร สินสวัสดิ์ ผู้ว่าการการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) เปิดเผย ผลการดำเนินงาน 6 เดือนแรก (ม.ค.-มิ.ย.) ที่ผ่านมา กฟน.มีรายได้รวม 74,300 ล้านบาท มีค่าใช้จ่ายรวมทั้งหมด 70,700 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 3,600 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปีก่อน 2,400 ล้านบาท จากการจำหน่ายไฟฟ้า 21,849 ล้านหน่วย โดยเน้นสินค้าจากการลงทุนเพื่อรองรับความต้องการการใช้ไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้น และเพิ่มประสิทธิภาพในการจ่ายไฟฟ้า ซึ่งคาดว่าทั้งปี 54 จะมีกำไรมีประมาณ 6,100 ล้านบาท อย่างไรก็ตามในปีนี้ กฟน.มีหน้าที่ต้องคืนรายได้ค่าไฟฟ้าของปี 2551 ถึงปี 2553 ที่ไม่ได้ใช้ในการลงทุนตามแผนฯ ในการปรับลดค่าไฟฟ้าของประชาชนผ่านค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติ (FT) ในปี 2554 ประมาณ 2,000 ล้านบาท เพื่อใช้ลดค่า FT ให้กับประชาชน 6 สตางค์ต่อหน่วย ตามมติของคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ทำให้ กฟน.จะมีกำไรทั้งสิ้นประมาณ 4,100 ล้านบาท มั่นใจว่าจะไม่กระทบต่อยอดเงินนำส่งรัฐที่เสนอไว้ 2,700 ล้านบาท นายอาทร กล่าวว่า ช่วงครึ่งปีแรกของปีนี้ปริมาณการใช้ไฟฟ้าเทียบปีก่อนลดลง 3.5% เนื่องจากอุณหภูมิที่ลดต่ำลงในช่วงต้นปีประมาณ 3 องศาเซลเซียสจากภาวะปกติ รวมทั้งการลดลงการผลิตในภาคอุตสาหกรรม ที่มีผลกระทบจากปัญหาภัยธรรมชาติสึนามิและแผ่นดินไหวในญี่ปุ่นเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา แต่กลับมาฟื้นตัวในช่วงครึ่งปีหลัง คาดทั้งปีปริมาณใช้ไฟฟ้ารวมน่าจะลดลงประมาณ 1.7% โดยปริมาณใช้ไฟฟ้าจะเพิ่มขึ้นช่วงครึ่งปีหลัง เนื่องจากปัจจัยทางเศรษฐกิจที่ดีขึ้น ทำให้เกิดการผลิตในภาคอุตสาหกรรมมากขึ้น ปีนี้ กฟน.มีแผนที่จะใช้เงินลงทุนในโครงการต่างๆ รวม 23,021 ล้านบาท แบ่งเป็นการลงทุนในโครงการต่างๆ ในวงเงิน 11,704 ล้านบาท ได้แก่ การขยายพื้นที่บริการ การบำรุงรักษาป้องกันระบบและความปลอดภัย การปรับปรุงภูมิทัศน์โดยการวางสายไฟใต้ดินที่ดำเนินการอยู่ 3 โครงการ ได้แก่ โครงการปทุมวัน จิตรลดา และพญาไท รวมระยะทาง 25.2 กิโลเมตร เพื่อเพิ่มศักยภาพของระบบจำหน่ายให้มีความมั่นคง และรองรับการขยายตัวของความต้องการพลังไฟฟ้าในอนาคต ส่วนที่เหลือเป็นงบลงทุนเพื่อการดำเนินงานปกติ 11,317 หมื่นล้านบาท ได้แก่ การพัฒนาการบริการผ่านระบบไอซีที ระบบอิเล็กทรอนิกส์ และการพัฒนาเว็บไซต์ เป็นต้น สำหรับกรณีของผู้ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 90 หน่วยและมีมิเตอร์ไฟฟ้าไม่เกิน 5 แอมแปร์ ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค.2554 เป็นต้นมา กฟน.มีการคำนวณตัวเลขผู้ใช้ไฟฟ้าที่อยู่ในกลุ่มนี้ 250,000 ราย คิดเป็นค่าใช้ไฟฟ้าประมาณ 30 ล้านบาทต่อเดือน ซึ่งค่าไฟฟ้าของประชาชนในกลุ่มนี้ ได้คิดรวมกับผู้ใช้ไฟฟ้ารายใหญ่ในกลุ่มอุตสาหกรรม ห้างสรรพสินค้า และอาคารขนาดใหญ่ไปแล้ว ตัวเลขดังกล่าวลดลงจากในช่วงที่รัฐบาลใช้เงินภาษีมารับภาระ ซึ่งในขณะนั้นต้องรับภาระอยู่ 90 ล้านบาทต่อเดือน จากผู้ใช้ไฟฟ้าน้อยกว่า 90 หน่วยต่อเดือนซึ่งเป็นลูกค้าของ กฟน.ประมาณ 500,000 ราย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น